ตอนที่ 664

USB:บทที่ 664 คนร้าย

หลังจากที่ฮวงเฟิงไปแล้วถังมู่เสวี่ยก็เริ่มคิดทบทวนว่ามันเกิดอะไรขึ้นในตอนนี้

เธอไม่รู้เลยว่าอันตรายได้มาถึงตัวแล้ว แต่ฮวงเฟิงกลับรู้ถึงเรื่องนี้อย่างเห็นได้ชัด ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากจากที่เขาเตือนให้เธอระวังตัว เขาก็ไม่ลังเลเลยที่จะปกป้องเธอและช่วยเอาตัวเข้าบังกระสุนให้เธอ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าฮวงเฟิงเอาตัวบังกระสุนไว้ได้ทัน กระสุนนั้นก็คงจะพุ่งเข้าที่หน้าอกของเธอแน่ๆ

เมื่อเธอคิดทบทวนถึงความอันตรายนี้ ใบหน้าของถังมู่ซิ่งก็ซีดเผือดเหมือนคนตาย เธอไม่รู้เลยว่าคนที่ต้องการที่จะฆ่าเธอนั้นมันเป็นใครกันแน่

“ทำไมเขาถึงทำแบบนั้นล่ะ?” ทำไมนายเป็นคนแน่วแน่ขนาดนั้น?” ถังมู่เสวี่ยเก็บคำถามเอาไว้ในใจเพราะเห็นชัดว่าไม่มีใครที่จะสามารถให้คำตอบแก่เธอได้

ในใจของเธอนั้น แม้ว่าจะมีความเข้าใจผิดที่คลุมเครือเล็กน้อยระหว่างเธอกับฮวงเฟิง แต่ทั้งสองคนก็ไม่ได้สนิทสนมกันขนาดนั้น นอกจากนี้เธอก็เคยสร้างปัญหาให้เขามาก่อน ดังนั้นสำหรับเธอนั้นฮวงเฟิงจึงไม่มีเหตุผลที่จะเข้ามาช่วยเธอเอาไว้

“หรือว่านี่จะเป็นเรื่องเข้าใจผิดจากเมื่อคืน?” เมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ทัศนคติของถังมู่เสวี่ยที่มีต่อฮวงเฟิงก็เปลี่ยนไป เพราะว่าตามที่เธอรู้มาถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องระหว่างซูหยูโม่และฮวงเฟิงแต่พวกเขาก็ยังไม่ได้จูบกัน

เธอเริ่มรู้สึกประหลาดใจ เธอไม่เคยคิดถึงปฏิกิริยาก่อนหน้านี้ของฮวงเฟิงเลย มันทำให้คนอื่นเข้าใจเขาผิดอย่างรวดเร็ว เธอเริ่มที่จะกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของฮวงเฟิงอีกครั้ง

เห็นได้ชัดว่าฮวงเฟิงกำลังจะไปจับตัวคนที่ก่อเรื่องแต่ตอนนี้ด้วยอาการบาดเจ็บของเขาและอีกฝ่ายก็มีปืน แล้วเขาจะไปเอาชนะคนร้ายได้อย่างไรกัน? ถังมู่เสวี่ยอยากที่จะตามไปดูแต่เธอรู้ว่าเธอไม่อาจที่จะช่วยอะไรได้ ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงแค่รอเขาอย่างกังวลว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน

อีกทั้งในเวลานี้ฮวงเฟิงได้รับบาดเจ็บและกำลังไล่ตามไปยังที่ที่พี่ใหญ่ฟางเคยอยู่ก่อนหน้านี้ แต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่งเดิมแล้ว ในตอนนี้เขาได้หายไปแล้วแต่อย่างไรก็ตามเขาคงจะยังไปได้ไม่ไกล ดังนั้นฮวงเฟิงจึงยังไม่ยอมเลิกไล่ตามเขาไป

ฮวงเฟิงไม่กล้าปล่อยให้เขาหนีไป เพราะชายคนนี้มีเจตนาที่จะฆ่าเขาอย่างชัดเจนและเขามีปืน ถ้าเขาปล่อยให้หนีไปได้ในตอนนี้ เขาก็จะต้องกลับมาและก็จะสร้างปัญหาให้กับเขาอีกคร้ง ไม่เพียงแต่จะทำให้เขาตกอยู่ในอันตรายแต่ก็ยังเป็นอันตรายกับคนรอบข้างของเขาด้วย

ถูกต้องแล้ว ฮวงเฟิงนั้นรู้อยู่แล้วตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาเห็นพี่ใหญ่ฟางว่าเป้าหมายของอีกฝ่ายก็คือเขาไม่ใช่ถังมู่เสวี่ย เหตุผลที่กระสุนพุ่งเข้าใส่ถังมู่เสวี่ยก็อาจเป็นเพราะอีกฝ่ายยังไม่มีทักษะเพียงพอ ถ้าเขาไม่เหลือบไปเห็นได้ทันเวลา ถังมู่เสวี่ยก็คงจะต้องได้รับเคราะห์แทนเขาแล้ว

สำหรับฮวงเฟิงนั้นถึงแม้ว่าเขามีชุดเกราะอ่อนไหมสีทองอยู่บนตัวเขา แต่สิ่งนั้นก็สามารถปกป้องร่างกายของเขาได้แค่ส่วนบนเท่านั้นและไม่ได้ช่วยป้องกันแขนทั้งสองข้างของเขาได้เลย ดังนั้นในครั้งนี้เมื่อเขาถูกยิงเข้าที่แขน เขาก็ไม่สามารถอยู่อย่างปลอดภัยได้อีกต่อไป

ในขณะที่ฮวงเฟิงกำลังตามหาพี่ใหญ่ฟาง พี่ใหญ่ฟางเองก็กำลังหนีหัวซุกหัวซุน หลังจากที่เขายิงปืนออกไปแล้ว เขาก็รู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นว่าดูเหมือนว่าเขาจะยิงไปทางผู้หญิงคนนั้นแทนที่จะเป็นฮวงเฟิง เขาตกใจและยิงออกไปอีกนัดโดยไม่รู้ตัว อีกทั้งฮวงเฟิงก็ได้ออกจากตำแหน่งก่อนหน้าของเขาไปแล้ว เพื่อปกป้องผู้หญิงคนนั้น

อย่างไรก็ตามแม้ว่ากระสุนนัดแรกจะพุ่งเข้าใส่ฮวงเฟิงแต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาตาย เมื่อเขาต้องการที่จะยิงนัดที่สาม ร่างของฮวงเฟิงก็ได้หายไปแล้ว และผู้หญิงคนนั้นก็หายตัวไปพร้อมกับเขา พี่ใหญ่ฟางจึงรู้ว่าวันนี้เขาไม่มีโอกาสอีกแล้ว ดังนั้นสิ่งเดียวที่เขาทำได้ตอนนี้ก็คือหนีไป

"แกจะไปไหน?"

เพียงแค่ตอนที่พี่ใหญ่ฟางเลี้ยวที่ตรงหัวมุมและเข้าไปในตรอก เขาก็เห็นคนอยู่ข้างหน้าเขา คนๆ นี้เป็นเป้าหมายในปัจจุบันของเขา ซึ่งก็คือฮวงเฟิงนั่นเอง!

เมื่อเห็นฮวงเฟิงพี่ใหญ่ฟางก็ยกปืนขึ้นทันทีโดยไม่ได้คิดอะไรเสียด้วยซ้ำ และเตรียมที่จะยิง อย่างไรก็ตามยังไม่ทันที่เขาจะได้ยกแขนขึันวิสัยทัศน์ของเขาก็พร่ามัวเสียแล้ว จากนั้นฮวงเฟิงก็ได้ามาอยู่ที่ตรงหน้าเขาแล้ว

“อ๊ะ ปล่อยนะ ปล่อย!” พี่ใหญ่ฟางร้องด้วยความเจ็บปวดในทันที ปืนในมือของเขาไม่สามารถถือเอาไว้ได้ และถูกฮวงเฟิงฉกไป ซึ่งเขากำลังกรีดร้องอย่างน่าสังเวช

อย่างไรก็ตามฮวงเฟิงก็ไม่ได้คิดที่จะปล่อยเขาไปง่าย เขาเห็นว่าฮวงเฟิงยกเข่าขึ้นและกระแทกเข้าที่ท้องของพี่ใหญ่ฟางในทันที พี่ใหญ่ฟางรู้สึกเจ็บแปลบที่ตรงหน้าท้องจนแทบจะอ้วก

อย่างไรก็ตามฮวงเฟิงก็ยังไม่ได้รู้สึกสงสารเขาเลยแม้แต่น้อย เข่าของเขายังคงกระแทกเข้าที่ท้องของพี่ใหญ่ฟางไม่มีหยุดจนทำให้พี่ใหญ่ฟางหน้าขาวซีดด้วยความเจ็บปวด

ในครั้งนี้ฮวงเฟิงทั้งโกรธและกลัวอย่างแท้จริง แม้ว่าเขาจะมีเกราะอ่อนไหมสีทอง แต่ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเขาจะไม่เป็นไร และเขาก็เกือบจะทำร้ายถังมู่เสวี่ยเสียแล้ว หากมีอะไรเกิดขึ้นกับถังมู่เสวี่ย ฮวงเฟิงก็คงจะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต

ดังนั้นฮวงเฟิงจึงได้แก้แค้นพี่ใหญ่ฟางอย่างไม่หยุด ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ได้ระบายความโกรธส่วนใหญ่ของเขาออกไปแล้ว และความโกรธของเขาก็ลดน้อยลง

จากนั้นฮวงเฟิงก็โยนเขาลงไปที่พื้น พี่ใหญ่ฟางใช้เวลาอยู่นานกว่าจะสงบลง แต่เขายังไม่มีเรี่ยวแรงที่จะขยับแม้แต่น้อย

"ฮวงเฟิง ปล่อยฉันไปเถอะ ฉ่ายเถียน ฉ่ายเถียนเป็นคนสั่งให้ฉันทำแบบนี้ ฉันไม่ได้อยากทำนะ ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะ" ฮวงเฟิงสัมผัสได้ถึงเจตนาที่จะฆ่าจากพี่ใหญ่ฟาง ซึ่งตอนนี้เขากำลังกลัวและ และกลัวจริงๆ ดังนั้นเพื่อที่จะเอาชีวิตรอด เขาจึงทรยศ ฉ่ายเถียนอีกครั้ง และถึงกับผลักเรื่องนี้ไปให้ฉ่ายเถียน

“มันสมควรตาย แกก็เหมือนกัน!” ฮวงเฟิงกล่าวว่าในตอนแรกเขาต้องการที่จะรอจนกว่าเทียนจุ้นจะตรวจสอบสถานการณ์ของฉ่ายเถียนเสียก่อนที่จะเคลื่อนไหว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะอยากจัดการกับเขาอย่างเต็มที่แล้ว และถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องพูดกับเขาให้รู้เรื่อง

“พรุ่งนี้ไปออกจากเมืองชิงซะ ถ้าฉันเจอแกอีกที่เมืองชิง แกต้องตาย” ฮวงเฟิงกล่าว จากนั้นเขาก็กระทืบขาข้างขวาของพี่ใหญ่ฟางและใช้กำลังทั้งหมดของเขาพลิกอีกกลับสองสามครั้ง พี่ใหญ่ฟางก็สลบไปทันทีด้วยความเจ็บปวด

แม้ว่าฮวงเฟิงจะเคยสังหารผู้คนไปเป็นจำนวนมากในช่วงกาลอวกาศอื่น แต่ก็ยังต้องห้ามใจตัวเองเอาไว้ในโลกแห่งความเป็นจริง เว้นเสียแต่ว่าจำเป็นจริงๆ เขาจึงไม่ได้ฆ่าพวกเขา