USB:บทที่ 471 ตามง้อ
“นั่นสิ เขาคิดว่าตัวเองเป็นใคร ถึงได้กล้าลงไม้ลงมือกับเราแบบนี้ ไหนจะพูดจาหยาบคายกับเราแบบนั้นอีก ถึงเขาจะขอโทษยังไง เราก็ไม่มีทางยกโทษให้เด็ดขาด ต้องให้ผู้อำนวยการของเฮฟเว่นไพร์กรุ๊ปต้องมาขอโทษด้วยตัวเองเท่านั้น!" ผู้ช่วยอีกคนเข้ามาร่วมวง
ใช่แล้ว เขาได้ยินมาว่าผู้อำนวยการทั้งสองแห่งเฮฟเว่นไพร์กรุ๊ปนั้นสวยมากและไม่ได้ด้อยไปกว่าดาราชื่อดังอย่างหลี่ปิงอวิ้นเลยแม้แต่น้อย ผู้ช่วยร่างท้วมพูดจากด้านข้าง
"ต้องเป็นงั้นอยู่แล้ว! ถ้าอยากให้เรากลับไป ต้องให้สาวสวยสองคนนั้นมาขอโทษเป็นการส่วนตัว!"
"จะดีกว่านี้ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นหลังจากพวกเธอเมา ฮ่าฮ่า"
หนุ่มหน้าหวานพูดคุยกับเหล่าผู้ช่วย คำพูดของพวกเขาเริ่มหยาบคายมากขึ้น พวกเขาคิดไปไกล ราวกับว่าเห็นผู้อำนวยการสาวแสนสวยสองคนของเฮฟเว่นไพร์กรุ๊ปกำลังก้มกราบพวกเขาอยู่ตรงหน้า
แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆโทรศัพท์ในมือของผู้ช่วยก็ดังขึ้น บทสนทนาของพวกเขาก็ได้จบลงในทันที
"ผู้อำนวยการเซี่ยโทรมา!" เขาไม่เคยเห็นเซี่ยเมิ่งเจียวมาก่อน แต่ก่อนหน้านี้ เขาเคยได้ยินมาจากอีกฝ่าย ดังนั้นเขาจึงรู้ว่านี่คือหมายเลขของเซี่ยเมิ่งเจียว
"ฉันบอกแล้ว ผู้อำนวยการต้องมาขอโทษด้วยตัวเอง!"
"อย่าเพิ่งไปยอมเธอง่ายๆล่ะ คุณต้องบอกให้เธอมาหาถึงโรงแรม และมาขอโทษด้วยตัวเอง!"
"ถูกต้อง เราต้องให้เธอไปร่วมโต๊ะกับเราในคืนนี้ด้วย!"
ทุกคนจับกลุ่มคุยกัน แล้วจะให้หนุ่มหน้าหวานทำยังไงต่อจากนี้? ผู้ช่วยของเขามีความเห็นตรงกัน ใบหน้าของพวกเขายิ้มกรุ้มกริ่ม และคิดถึงฉากที่ไม่เหมาะสมเท่าไหร่
“แล้วสายนี้ล่ะ” ผู้ช่วยถาม เขาถามความเห็นจากหนุ่มหน้าหวานว่าจะรับสายตอนนี้หรือจะรอให้อีกฝ่ายโทรมาอีกครั้งก่อนถึงจะรับ
“รับสิ อย่ามัวไปเสียเวลากับเธอเลย” หนุ่มหน้าหวานตอบในสิ่งที่เขาคิด แม้ว่าเขาอยากจะวนเวียนอยู่ใกล้ๆเซี่ยเมิ่งเจียว แต่เพราะกลัวว่ามันจะยิ่งยุ่งยากไปกันใหญ่
นอกจากนี้เขายังต้องคำนึงถึงข้อเสนอของเขา เพราะเขาไม่คิดว่าเซี่ยเมิ่งเจียวจะปฏิเสธมัน เขาจึงไม่อยากเสียเวลา
ผลสุดท้าย ในตอนที่ผู้ช่วยกำลังจะรับโทรศัพท์ ดูเหมือนเซี่ยเมิ่งเจียวจะหมดความอดทนและวางสายไปก่อน ผู้ช่วยจึงหันไปมองหนุ่มหน้าหวานด้วยความสับสนและไม่รู้ว่าควรทำยังไงต่อจากนี้
"ไม่เป็นไร เธอยังต้องขอความช่วยเหลือจากเรา อีกไม่นาน เธอจะต้องโทรกลับมาแน่" ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ถึงได้รู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดี ไม่แน่อีกฝ่ายอาจโทรมาบอกเรื่องอื่นแทนที่จะเป็นการขอร้อง
แต่เพราะเขาไม่อยากเป็นฝ่ายโทรไปหาเซี่ยเมิ่งเจียวในตอนนี้ เพราะมันหมายความว่าเขายอมลดตัวให้อีกฝ่ายนั่นเอง
ส่วนผู้ช่วยคนอื่นต่างคิดว่าอีกไม่นาน เดี๋ยวเซี่ยเมิ่งเจียวก็โทรกลับมาแล้ว พวกเขาเลยไม่คิดมาก
แต่เมื่อเวลาผ่านไปทิฐิของพวกเขาก็เริ่มลดลงเรื่อยๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป โทรศัพท์ก็ไม่ดังขึ้นอีกเลย
ใบหน้าของพวกเขาแต่ละคนมีร่องรอยของความกังวลและร้อนรน ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่ผู้ช่วยคนที่ถือโทรศัพท์ การทำแบบนั้นมันทำให้ผู้ช่วยคนนั้นรู้สึกอึดอัดมาก
"เห้ย มาจ้องฉันนแบบนี้หมายความว่ายังไง รู้อย่างงี้ ฉันไม่น่ารับหน้าที่ถือโทรศัพท์เลย อุตส่าห์คิดว่ามันเป็นงานที่ง่ายที่สุดแล้ว ทำไมถึงได้อึดอัดขนาดนี้" ผู้ช่วยคนนั้นรู้สึกอึดอัด เพราะทุกคนกำลังจ้องมาที่เขา จึงอดไม่ได้ที่จะบ่นกับตัวเอง
แน่นอนว่าเขาไม่มีความกล้ามากพอที่พูดถ้อยคำเหล่านั้นออกมาดัง ๆ
"ยัยเซี่ยเมิ่งเจียวนี่ยังไง ทำไมถึงไม่มีความจริงใจเลยนะ หรือพวกเราลองโทรกลับไปแล้วตัดสายดีไหม" ในที่สุด ผู้ช่วยคนนี้ก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไปจึงพูดแบบนั้นออกมา
คำแนะนำของเขาได้ทำให้ผู้ช่วยคนอื่นๆรู้สึกสะเทือนใจและกลัวเล็กน้อยเพราะพวกเขาไม่ต้องการทำแบบนั้น
"หมายความว่ายังไง นายจะทำแบบนั้นไปทำไม ถ้าโทรไปแล้วไม่รับ นายจะโทรไปตั้งแต่แรกทำไมล่ะ สมองนายมีปัญหาหรือเปล่าเนี่ย!"
“ไม่ได้นะ เราจะปล่อยเธอไปง่ายๆไม่ได้ เราต้องลงโทษเธอด้วยการดื่มสามแก้ว ไม่ใช่สิ...ห้าแก้วไปเลย!”
"เฮฟเว่นไพร์กรุ๊ปนี้แย่มาก ไม่แปลกใจเลยที่บริษัทไม่ก้าวหน้า"
จากนั้นผู้ช่วยทุกคนเริ่มก่นด่าเซี่ยเมิ่งเจียวและเฮฟเว่นไพร์กรุ๊ป ในสายตาของพวกเขา เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นความผิดของเซี่ยเมิ่งเจียว
"พอได้แล้ว! หยุดพูดได้แล้ว!" เนื่องจากเซี่ยเมิ่งเจียวไม่ได้ติดต่อกลับมาอีก หนุ่มหน้าหวานจึงรู้สึกไม่สบายใจมาก ราวกับว่าลางสังหรณ์ของเขากำลังจะเป็นจริงในไม่ช้า
ผู้ช่วยทุกคนเงียบเสียงลงทันที หนุ่มหน้าหวานมองไปที่คนที่ถือโทรศัพท์แล้วถามว่า "เมื่อกี้ ทำไมนายไม่รับสายทั้งๆที่นายเป็นคนถือโทรศัพท์!"
ไม่อย่างนั้น เรื่องก็คงไม่ดำเนินมาถึงตรงนี้ อย่างน้อยเขาก็จะได้รู้ว่าเซี่ยเมิ่งเจียวกำลังคิดอะไรอยู่และเขาก็จะได้ไม่ต้องมาคอยวิตกอยู่แบบนี้ แต่มันกลับกลายเป็นว่าไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้เลยสักนิด
"ผ..ผม" ผู้ช่วยคนนั้นอยากร้องไห้ แต่กลับไม่มีน้ำตาไหลออกมา ด้วยความตื่นเต้น ตอนที่มีสายเข้า ทุกคนตตกลงกันว่าจะทำให้เซี่ยเมิ่งเจียวรู้สำนึก แต่เพราะไม่มีใครบอกเขาว่าควรทำยังไงกับมัน เขาเลยไม่กล้ารับสายสุ่มสี่สุ่มห้า
ทั้งๆที่ตอนนั้นหนุ่มหน้าหวานคนนี้ยังเข้าใจเขาอยู่แท้ๆ ทำไมตอนนี้อีกฝ่ายถึงมาโทษที่เขาไม่ได้รับสายเธอแบบนี้ล่ะ?
“กะอีแค่เรื่องง่ายๆแค่นี้ยังทำไม่สำเร็จ!” หนุ่มหน้าหวานยังคงคิดว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด และกล่าวโทษผู้ช่วยที่จัดการเรื่องนี้ได้ไม่ดี เนื่องจากเขาอารมณ์ไม่ดีจึงตัดสินใจระบายความคุ่นเคืองที่มีต่อเธอลงที่ผู้ช่วยคนนั้น
ผู้ช่วยคนนั้นไม่กล้าโต้กลับแม้จะโดนอีกฝ่ายดุก็ตาม เขากำลังใช้ความคิด มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่รู้
“แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ?” ในตอนนี้ผู้ช่วยที่ยืนอยู่ข้างๆถามอย่างระมัดระวัง ขณะสังเกตใบหน้าของหนุ่มหน้าหวาน
"โทรกลับสิ! แล้วบอกไปว่า เมื่อกี้โทรศัพท์ไม่ได้อยู่ใกล้ตัวเลยไม่ได้รับสาย" แม้ว่าจะเป็นข้ออ้าง แต่ในเมื่อเขาเป็นฝ่ายโทรก่อน อย่างน้อยช่องว่างระหว่างบทสนทนาก็ลดลง
"ครับ ผมจะโทรหาเธอเดี๋ยวนี้!" ผู้ช่วยที่ถือโทรศัพท์รีบโทรออกหาเซี่ยเมิ่งเจียวทันที
"สวัสดีครับ ผู้อำนวยการเซี่ยใช่ไหมครับ? เมื่อกี้ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ ไม่ทราบว่าที่โทรมาเมื่อกี้ มีอะไรหรือเปล่าครับ อ่า ไม่เป็นไรครับ คุณหมายความว่ายังไงนะครับ ผมไม่เข้าใจจริงๆครับ ไม่เกี่ยวกับผม? ฮัลโหล?"
ผู้ช่วยมองโทรศัพท์เป็นเวลานานโดยไม่พูดอะไร จากนั้นเขาก็หันไปมองหนุ่มหน้าหวานและผู้ช่วยคนอื่นด้วยความรู้สึกว่างเปล่า
"เธอว่าไงบ้าง" หนุ่มหน้าหวานถาม
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved