USB:บทที่ 568 ต่างคนต่างคิด

ขณะที่ฮวงเฟิงกำลังคิดว่าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร ถังมู่เสวี่ยก็กำลังคิดเช่นกันว่าจะจัดการกับความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฮวงเฟิงอย่างไร เนื่องจากฮวงเฟิงมีความสัมพันธ์อันดีกับเธอ เช่นเดียวกับสิ่งที่เธอเตรียมจะทำเพื่อพัฒนามณฑลเจียงของเขา และเธอยังเป็นเพื่อนที่ดีกับซูหยูโม่

ถ้าเธอเป็นผู้หญิงที่มีนิสัยปรับตัวได้ทุกสถานการณ์เหมือนน้ำ เหตุการณ์ในครัววันนี้จะไม่มีอะไรเลย เธอจะสามารถลืมมันได้ในพริบตา

แต่ในความเป็นจริงเธอไม่ใช่ แม้ว่าจะมีผู้ชายมากมายรายล้อมในตอนที่เธออยู่ในเมืองหลวง แต่เธอก็ระวังตัวเป็นอย่างมากและไม่ยอมให้ตัวเองถูกเอาเปรียบจากคนเหล่านั้น เธอไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับใครอย่างสนิทสนมจริง ๆ มาก่อน และแม้แต่จูบแรกของเธอก็ยังถูกฮวงเฟิงแย่งชิงไปในวันนี้

ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ถังมู่เสวี่ยจะไม่ใส่ใจเรื่องนี้ และเพราะมีความสัมพันธ์กับซูหยูโม่จึงทำให้เธอต้องพบเขาบ่อยขึ้น ดังนั้นเรื่องนี้จึงต้องได้รับการแก้ไข

ถึงแม้เธอจะรู้ดีว่าต้องจัดการกับปัญหานี้ แต่ถังมู่เสวี่ยก็ไม่รู้ว่าเธอควรจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร เธอกำลังไตร่ตรองถึงพฤติกรรมที่ผิดปกติของเขาในครัวก่อนหน้านี้

ถังมู่เสวี่ยไม่ใช่คนไร้เหตุผลที่ชอบก่อปัญหา เธอรู้ว่าเหตุผลที่สิ่งต่าง ๆ พัฒนามาถึงจุดนี้เป็นเพราะเธอไม่ได้ปฏิเสธและหยุดฮวงเฟิงอย่างชัดเจนในตอนแรก ถ้าเธอพยายามหยุดเขาตั้งแต่แรกเขาก็จะไม่ทำมันต่อ

ตอนนั้นเธอตกตะลึงจริง ๆ ไม่เคยคิดว่าเรื่องบังเอิญอย่างนี้จะเกิดขึ้น นอกจากนี้ จูบแรกที่เธอหวงแหนและปกป้องมาโดยตลอดได้หายไปแบบนั้น เธอจึงอึ้งไปสักพักและทำให้ฮวงเฟิงเข้าใจสัญญาณผิด

ในใจของถังมู่เสวี่ยยังคงกล่าวโทษฮวงเฟิง เขาตามจีบพี่สาวหยูโม่อยู่ ถึงแม้จะมีหญิงสาวอีกคนพยายามยั่วยวน เขาก็ควรมีจิตใจที่แน่วแน่สิ

อย่างไรก็ตามถังมู่เสวี่ยก็เข้าใจเสน่ห์ของตนเองเช่นกัน ตอนที่เธออยู่ในเมืองหลวง มีคนมากมายคอยห้อมล้อมเธอไม่ใช่หรือ? เมื่อเธอคิดว่าฮวงเฟิงอาจถูกดึงดูดด้วยเสน่ห์ของเธอ ถังมู่เสวี่ยจึงแอบรู้สึกมีความสุขในใจ

“ถังมู่เสวี่ย ทำไมเธอถึงเป็นคนแบบนี้? เขาขโมยจูบแรกของเธอไป ตอนนี้เธอยังอยู่ในอารมณ์ที่จะมีความสุขจริง ๆ เหรอ?” ถังมู่เสวี่ยแอบดูถูกตัวเองในใจ

“ถ้าเขาไม่มาก็ช่างเถอะ ถึงไม่มีเขาบริษัทของฉันก็ก้าวหน้าได้อยู่แล้ว” ถังมู่เสวี่ยพูดกับคนอื่น ๆ ด้วยใบหน้าที่ไม่แสดงความสุขหรือความโกรธ

ซูหยูโม่คิดว่าถังมู่เสวี่ยคงโกรธเพราะเธอมีเจตนาดี เพราะท้ายสุดฮวงเฟิง "มองเมิน" บริษัทของเธอและไปเริ่มต้นธุรกิจกับเพื่อนร่วมชั้นของเขา เห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้ทำให้ถังมู่เสวี่ยไม่มีความสุขในใจ แม้ว่าฮวงเฟิงไม่มีเจตนาที่จะมองเมินบริษัทของถังมู่เสวี่ยก็ตาม

“มู่เสวี่ย ฮวงเฟิงกับเพื่อนร่วมชั้นของเขาสนิทกันตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัยแล้ว ดังนั้นมันคงไม่ดีสำหรับเขาหากปฏิเสธคำเชิญของเพื่อน ๆ นอกจากนี้ คนคน นั้นได้เอ่ยเชิญฮวงเฟิงก่อนที่ฉันจะพูดกับเขาเรื่องบริษัทของเราซะอีก" เห็นได้ชัดว่าซูหยูโม่ไม่ต้องการให้ถังมู่เสวี่ยมองเขาไม่ดี ดังนั้นเธอจึงพยายามอธิบายอย่างดีที่สุด

"ก็ได้ ฉันเข้าใจแล้ว" ถังมู่เสวี่ยพูด เมื่อเห็นว่าพี่สาวหยูโม่ปกป้องฮวงเฟิงอย่างดีเพียงใด เธอก็รู้สึกอิจฉาเล็กน้อย

“เฮ้ ฮวงเฟิง นายเจ็บลิ้นเหรอ?” ในเวลานี้เซี่ยเมิ่งเจียวที่ยุ่งอยู่กับการกินมาโดยตลอด สังเกตเห็นว่าฮวงเฟิงกินข้าวได้ลำบากเล็กน้อย ในที่สุดเธอจึงรู้ได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับลิ้นของฮวงเฟิง

“ใช่ ฉันบังเอิญกัดมันก่อนหน้านี้” ฮวงเฟิงบอกเขาไม่ได้คาดหวังว่าทักษะการสังเกตของจอมตะกละนี้จะแข็งแกร่งมากจนถูกค้นพบ เขามองไปที่ซูหยูโม่ ค่อนข้างรู้สึกผิดและทำเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ในใจกลับกังวลและต่อไปเขาจะระมัดระวังให้มากขึ้น

สิ่งนี้ทำให้ฮวงเฟิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ถังมู่เสวี่ย ผู้ซึ่งรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลิ้นของฮวงเฟิงก็มีอาการหน้าแดง ลิ้นของฮวงเฟิงถูกกัด แต่ไม่ใช่ฮวงเฟิงที่กัดมัน แต่เป็นเธอเอง ถังมู่เสวี่ย

แต่ทว่า ไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปกติของถังมู่เสวี่ย

ตอนแรกเธอไม่ค่อยมั่นใจในฝีมือของฮวงเฟิง แต่ในท้ายที่สุดเธอกลับเป็นคนที่กินมากที่สุด หลังจากกินอาหารเสร็จ ดูเหมือนเธอขี้เกียจเกินกว่าจะขยับตัว และหลังจากไปที่โซฟาครู่หนึ่ง เธอก็หรี่ตาลงและร้องครางท่าทางค่อนข้างน่ารัก

ซูหยูโม่ก็กินไปพอสมควร เธอไม่เคยกังวลเกี่ยวกับรูปร่างซึ่งดูเหมือนจะไม่เคยอ้วนมาก่อน และวันนี้เป็นครั้งแรกที่ฮวงเฟิงได้มาที่นี่อย่างเป็นทางการ ดังนั้นท่าทางที่แสดงออกของเธอจึงดูอารมณ์ดี และเมื่ออารมณ์ดีเธอก็กินได้มากขึ้น

ฮวงเฟิงกับถังมู่เสวี่ยไม่ได้กินอะไรมาก แม้ว่าถังมู่เสวี่ยจะประหลาดใจกับทักษะการทำอาหารของฮวงเฟิงและก็กินบ้าง แต่เพราะเธอกำลังกังวลเกี่ยวกับสิ่งอื่น ๆ จึงไม่ได้กินอย่างมีความสุขมาก ดังนั้นเธอจึงกินไม่ได้มากนัก ซูหยูโม่คิดว่าเธอคงกังวลเกี่ยวกับบางอย่างเรื่องงานจึงไม่ค่อยมีความอยากอาหารมากนัก

ในทางกลับกันฮวงเฟิงกินน้อยที่สุดเพราะเขามีเรื่องที่ต้องคิด เขาคิดหาวิธีจัดการกับเรื่องของถังมู่เสวี่ย และกังวลว่าซูหยูโม่จะรู้เรื่องของเขาและถังมู่เสวี่ยในภายหลัง มันคงแปลกถ้าเขาอยู่ในอารมณ์อยากกินตอนที่คิดถึงเรื่องนี้

หลังจากทานอาหารเสร็จฮวงเฟิงไม่ได้จากไปทันที แม้ว่าเขาอยากจะหนีจากที่นี่และสงบสติอารมณ์ลงสักหน่อย เพื่อที่จะได้คิดหาวิธีจัดการเรื่องราวที่เกิดกับถังมู่เสวี่ย แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถจากไปแบบนั้นได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น วันนี้เป็นครั้งแรกที่เขามาที่บ้านของซูหยูโม่อย่างเป็นทางการ และมันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะกลับไปหลังจากกินอาหารเสร็จ

“ฮวงเฟิง เราได้จัดให้เฒ่าหวังรับตำแหน่งผู้จัดการรักษาความปลอดภัยที่นายแนะนำแล้ว”

ขณะที่พวกเขาคุยกันในห้องโถง ซูหยูโม่ก็พูดถึงการจัดการของบริษัทในเรื่องผู้จัดการรักษาความปลอดภัย ก่อนที่ฮวงเฟิงจะลาออก เขาแนะนำพี่หวังไปแต่ไม่รู้ว่าเซี่ยเมิ่งเจียวกับซูหยูโม่จะเห็นด้วยหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าทั้งสองยอมรับข้อเสนอแนะของเขา

“พี่หวังเป็นคนดี แถมยังมีความสามารถ ถ้าเขาเป็นผู้จัดการก็ไม่มีปัญหาอะไร” ฮวงเฟิงกล่าว

ในกลุ่มเฮฟเว่นไพร์สกรุ๊ป นอกเหนือจากฮวงเฟิงกับเซี่ยเมิ่งเจียวก็ได้พูดคุยกับพี่หวังมากที่สุด นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมฮวงเฟิงถึงเข้าใจเขามากที่สุดและก็เป็นเหตุผลที่เมื่อฮวงเฟิงลาออกจึงแนะนำให้พี่ชายหวังเข้ามาแทนที่

“โอ้ จริงสิ วันนี้นายไม่ไปโรงบำบัดน้ำเสียเหรอ?” “เป็นอย่างไรบ้าง?” เห็นได้ชัดว่าซูหยูโม่เป็นห่วงฮวงเฟิงอย่างมาก

แม้ว่าฮวงเฟิงจะมีความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนร่วมชั้นของเขา แต่ในปัจจุบันนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เพื่อนจะแทงกันเอง ดังนั้นซูหยูโม่จึงกังวลว่าเขาจะโดนคนอื่นหลอก

“ใช่  วันนี้หลังฉันออกจากบริษัท ฉันไปที่โรงงานนั่นและตรวจดูแล้ว มันค่อนข้างไปได้สวย” ฮวงเฟิงกล่าวต่อ: "โรงงานนั่นมีคำสั่งซื้อจำนวนมากและความคืบหน้าก็ไม่เลว ฉันได้ลงทุนเงินที่มีทั้งหมดเพื่อเพิ่มการผลิตแล้ว"

คำพูดของฮวงเฟิงไม่ได้หลอกลวงเลย อนาคตของโรงงานก็ไม่ได้แย่ และยิ่งกว่านั้น เขาได้ลงทุนเงินเป็นจำนวนมากเพื่อเพิ่มการผลิต แม้ว่าจะไม่ใช่เงินจำนวนเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดของเขา แต่ตอนนี้เขายังบอกไม่ได้ว่าตัวเองสร้างโรงงานเองนอกจากโรงงานนี้ เพราะการลงทุนของโรงงานและแหล่งเงินของเขาย่อมสร้างความสงสัยให้ผู้อื่นแน่นอน ดังนั้นถ้าเขาใช้เงินไปมากขนาดนั้น มันจะไม่น่าสงสัยมากขึ้นหรอกเหรอ?

แม้ฮวงเฟิงเชื่อว่าซูหยูโม่และอีกสองคนไม่เป็นอันตรายต่อเขา แต่เขาก็ต้องพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่พวกเธอจะยอมรับมัน เขาจะบอกให้พวกเธอรู้เรื่องนี้ช้าหน่อย