ตอนที่ 579

USB:บทที่ 579 ไปจัดการมันซะ (2)

"คุณชายเปิ้ง อ้าวคุณเองก็อยู่ด้วยเหรอครับเนี่ย? ทำไมถึงไม่ยอมแจ้งผมก่อนครับนี่?" ในขณะนั้นได้มีชายวัยกลางคน คนหนึ่งเดินเข้ามาแล้วพูดกับฉ่ายเถียนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ในเวลานี้ใบหน้าของฉ่ายเถียนไม่ได้ดูเสแสร้งเหมือนอย่างตอนที่เขาอยู่กับเปิ้งเจิ้งฝู เขาแสดงท่าที่เย่อหยิ่งขึ้นมองไปที่ชายคนนั้นที่กำลังเดินเข้ามาแล้วพูดขึ้น

"ผมขอพูดอะไรหน่อย เกิดอะไรขึ้นกับพยาบาลในโรงพยาบาลของคุณ? หรือว่าเพิ่งเรียนจบมาใหม่ ๆ? เธอดูไม่มีประสบการณ์เลยสักนิด ทำให้คุณชายเปิ้งเจ็บปวดมากขึ้นไปอีก!"

"ต้องขอโทษด้วยครับ ผมไม่ทราบว่าคุณชายเปิ้งเป็นเพื่อนของคุณ ผมได้ตักเตียนพยาบาลคนก่อนหน้านี้ไปแล้ว และตอนนี้ผมได้หาพยาบาลที่มีประสบการณ์มาสำหรับเขามาแล้ว ผมรับประกันเลยว่าจะไม่เกิดปัญหาใด ๆ ขึ้นอีก" ผู้ชายวัยกลางคนบอกกับฉ่ายเถียนและเปิ้งเจิ้งฝู

"ผมก็หวังว่า ที่คุณพูดมาคือเรื่องจริง ไม่อย่างนั้นแล้ว ผู้อำนวยการเจียง ผมจะจำเรื่องในวันนี้ไว้  นอกจากนี้แล้วคุณชายเปิ้งยังเป็นแขกกิตติมศักดิ์จากเมืองหลวง ถ้าหากเขารู้สึกไม่พอใจขึ้นมา คุณก็เตรียมตัวลาออกได้เลย!" ฉ่ายเถียนพูดกับชายวัยกลางคน

เดิมทีผู้ชายวัยกลางคนนี้เคยดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งนี้  และเนื่องจากผู้อำนวยการของที่นี่อายุมากแล้ว ดังนั้นเขาจึงพยายามมองหาโอกาสที่จะได้นั่งตำแหน่งผู้อำนวยการมานานแล้ว แต่ด้วยเพราะเขาไม่มีคนคอยให้การสนับสนุนดังนั้นเขาจึงไม่สามารถทำอะไรได้ ท้ายที่สุดแล้วเมื่อไม่นานมานี้เขาได้เขาได้มีโอกาสผูกมิตรกับตระกูลฉ่ายโดยบังเอิญ ดังนั้นเขาจะไม่มีทางทำให้ฉ่ายเถียนไม่พอใจ เพื่อโอกาสที่เขาจะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการ

นอกจากนั้นแล้วเขายังรู้ถึงฐานะของฉ่ายเถียนดี และในเมื่อแม้แต่ฉ่ายเถียนยังต้องให้ความยำเกรงต่อคุณชายเปิ้งคนนี้ ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าฐานะของคุณชายเปิ้งคนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ และยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำอะไรให้คุณชายเปิ้งคนนี้รู้สึกไม่พอใจในตัวเขา

"ผมทราบและเข้าใจดีครับ!" ผมรับรองเลยว่าจะไม่เกิดปัญหาขึ้น" รองผู้อำนวยการเจียงยืนยันอีกครั้ง

หลังจากนั้น ก็มีพยาบาลอีกคนเดินเข้ามา และส่งสายตายั่วยวนให้กับฉ่ายเถียนและเปิ้งเจิ้งฝู ซึ่งทำให้เห็นได้ว่าความจริงแล้วผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นพยาบาลเหมือนกับคนก่อนหน้านี้ แต่ทว่าด้วยรูปร่างและการปรากฏตัวของเธอสร้างความพึงพอใจให้กับเปิ้งเจิ้งฝูอย่างมาก เดิมทีรองผู้อำนวยการเจียงได้จัดหาพยาบาลคนนี้ไว้สำหรับฉ่ายเถียน

จากที่เห็นเพียงแค่แวบแรก เขาก็พร้อมที่จะร่วมสนุกกับเธอแล้ว  ถึงแม้ว่าในใจของเขาจะรู้สึกริษยาอยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่กล้าพอที่จะกล้าที่จะเป็นศัตรูกับเปิ้งเจิ้งฝูเพียงเพื่อผู้หญิงคนเดียว นอกเหนือจากนั้นเขาจะหาผู้หญิงแบบไหนก็ได้ที่เขาต้องการในมณฑลเจียงนี้ ไม่เห็นจำเป็นต้องใส่ใจกับอีแค่พยาบาลตัวเล็ก ๆ เช่นนี้จนทำให้เปิ้งเจิ้งฝูไม่พอใจเลย หลังจากที่เขาทำสิ่งที่เปิ้งเจิ้งฝูมอบหมายสำเร็จแล้ว ต่อไปเขาจะมีชีวิตที่ดีมากขึ้นไปอีก

ฉ่ายเถียนและรองผู้อำนวยการเจียงล้วนเป็นคนฉลาด เพราะฉันนั้นพวกเขาจึงได้พากันออกไปจากห้องผู้ป่วย ไม่อยากรบกวนเปิ้งเจิ้งฝูอีกต่อไป

"คุณชายฉ่าย แล้วเรื่องที่ผมเคยพูดกับคุณไว้ละครับ?" ด้านนอกตึกผู้ป่วย รองผู้อำนวยการเจียงรั้งฉ่ายเถียนแล้วถามขึ้น

"เรื่องอะไร? ถ้าคุณมีอะไรจะพูดก็รีบ ๆ พูดมา ผมกำลังรับ" ฉ่ายเถียนพูดขึ้นอย่างไร้ซึ่งความอดทน เนื่องจากเขาต้องไปจัดการเรื่องที่เปิ้งเจิ้งฝูไว้วานให้เขาทำ  เขาไม่มีเวลาให้กับคนที่ไร้ประโยชน์สำหรับเขา

"ก็เรื่องที่จะช่วยให้ผมได้เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลไงละครับ" รองผู้อำนวยการเจียงรีบพูดขึ้นในทันที อันที่จริงแล้วเขาอยากจะพูดเรื่องนี้กับฉ่ายจงเต๋อพ่อของฉ่ายเถียนมากกว่า เพราะมีเพียงแค่ฉ่ายจงเต๋อคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยเขาได้ ส่วนฉ่ายเถียนนั้นก็แค่หนุ่มเพลย์บอยเท่านั้นไม่ได้มีศักยภาพในแบบที่จะช่วยเขาได้เลย

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าในช่วงสองสามวันมานี้ฉ่ายจงเต๋อจะยุ่งมากจนไม่สามารถเจียดเวลาให้เขาเข้าพบได้ นอกจากนั้นแล้วผู้อำนวยการคนปัจจุบันกำลังจะปลดเกษียร อีกทั้งยังมีรองผู้อำนวยการคนอื่น ๆ อีกทั้งในช่วงนี้ยังมีรองผู้อำนวยการคนอื่น ๆ กระตือรือร้นมากขึ้นด้วย ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เขาจะนิ่งนอนใจอยู่ได้อย่างไร? ดังนั้นเมื่อได้ยินว่าวันนี้ฉ่ายเถียนได้มาที่นี่ ไม่เพียงแค่ว่าเขาต้องการส่งตัวพยาบาลสาวที่ได้จัดเตรียมไว้ก่อนหน้านี้แล้วเท่านั้น รองผู้อำนวยเจียงมาพบฉ่ายเถียนด้วยตัวเองก็เพราะต้องการรู้เรื่องที่เคยพูดคุยกับเขาไว้

"เรื่องนี้คุณไปถามคุณพ่อเองก็แล้วกัน ผมไม่มีเวลาให้กับเรื่องไร้สาระ" ฉ่ายเถียนกล่าว เขาไม่เคยให้ความสนใจในเรื่องนี้อยู่ก่อนแล้ว ในความคิดของการออกไปเที่ยวกับเหล่าคุณชายพวกนั้นยังมีประโยชน์มากกว่าให้ความสนใจกับผู้เชี่ยวชาญคนนี้ซะอีก นอกจากนั้นแล้วอิทธิพลของคนพวกนั้นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้อำนวยการของที่นี่ด้วย

"ผมเองก็ยากไปพบท่านประธานฉ่ายเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าช่วงนี้ท่านประธานจะไม่ค่อยมีเวลา ผมเลยไม่มีโอกาสพบท่านเลย คุณชายฉ่ายได้โปรดช่วยให้ผมได้พบท่านประธานฉ่ายหน่อย" รองผู้อำนวยการเจียงสามารถเห็นความใจร้อนในดวงตาของอีกฝ่าย แต่เขาทำได้แค่เพียงจำต้องอดกลั้นเอาไว้ ท้ายที่สุดแล้วเป็นเพราะเขากำลังขอความช่วยเหลือจากคนอื่น รวมถึงเขาต้องการที่จะเกาะแข้งเกาะขาของฉ่ายจงเต๋อไว้

"ไม่มีปัญหา ผมจะถามให้ รอหน่อยผมจะโทรถามให้" เมื่อฉ่ายเถียนเห็นว่ารองผู้อำนวยการยังคงเซ้าซี้ไม่เลิก  ในที่สุดเขาก็ยอมสอบถามให้  แต่มันก็เป็นเพียงแค่หนึ่งคำถามเท่านั้น เขาไม่ได้พูดอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อรองผู้อำนวยการเจียงเลยแม้แต่น้อย  โดยเฉพาะระยะนี้พ่อของเขาไม่ค่อยพอใจเขานัก ดังนั้นฉ่ายเถียนจึงไม่จำเป็นที่ต้องสนใจกับความทุกข์ร้อนของคนแบบนี้

"ต้องขอบคุณชายฉ่ายมากเลยครับ เราคงจะได้รับข่าวดีจากคุณชายฉ่าย!" รองผู้อำนวยการเจียงพูดด้วยยินดีอย่างมาก

"เอาละ ผมต้องไปก่อนแล้ว" ฉ่ายเทียนพูดพร้อมกับโบกมือให้เขาแล้วเดินออกจากโรงพยาบาลไป

ขณะที่มองดูแผ่นหลังของฉ่ายเถียนที่กำลังเดินจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของรองผู้อำนวยการเจียงได้หายไป แล้วถูกแทนที่ด้วยความเฉยเมยและความชั่วร้ายบนใบหน้า

"ฉ่ายจงเต๋อ คุณควรที่จะช่วยให้ผมได้เป็นผู้อำนวยการและทำตามที่สัญญาเอาไว้ ไม่อย่างนั้นแล้ว ผมต้องให้คุณได้ชดใช้!" รองผู้อำนวยการเจียงบอกกับตัวเอง เขารู้ว่านี่คือโอกาสครั้งสุดท้ายของเขา ดังนั้นเขาจึงยอมต่อสู้กับพายุที่โหมกระหน่ำและไปให้ถึงสิ่งที่เขาต้องการ เพื่อแลกกับความช่วยเหลือจากฉ่ายจงเต๋อ เขาจึงได้ช่วยเหลืออีกฝ่ายทำเรื่องที่ขัดต่อกฎหมาย แต่เพื่อตำแหน่งนั้นถือว่ามันคุ้มค่า

ไม่อาจรู้ได้ว่าฉ่ายจงเต๋อจะตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ แต่เขามักจะพยายามกันตัวเองให้อยู่ห่างจากรองผู้อำนวยการเจียง ไม่แน่ว่าอีกฝ่ายไม่อยากจะเจอหน้าเขาอีกแล้วก็เป็นได้

"ต้องขอบใจที่ฉันยังเก็บรักษาไพ่ใบสุดท้ายเอาไว้ ฉ่ายจงเต๋อ ถ้าหากคุณไร้ซึ่งหัวใจกับผมก่อน ก็อย่าโทษที่ผมไม่ซื่อสัตย์ต่อคุณ!" รองผู้อำนวยการเจียงครุ่นคิดอย่างเดือดดาลอยู่ในใจ  แน่นอนว่าฉ่ายจงเต๋อไม่รู้ถึงเรื่องนี้ ด้วยนิสัยประมาทและใจคอโหดเหี้ยม ผู้คนมากมายที่รู้สึกริษยาและเกลียดชังในตัวเขา ในทุก ๆ วันเขามีหลายสิ่งหลายอย่างให้ต้องทำ และพบเจอกับผู้คนมากมาย

หลังจากที่ฉ่ายเถียนออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว เขายุ่งวุ่นวายอยู่กับสิ่งที่เปิ้งเจิ้งฝูไว้วาน และในเรื่องของเปิ้งเจิ้งฝูก็ได้กลายเป็นเรื่องของเขาเองแล้ว และแน่นอนว่าเขาต้องจริงจังกับมัน แต่ถ้าหากเขาได้รู้ถึงสาเหตุที่ถงเฉียนจุนและลูกชายต้องอยู่ในสภาพอย่างเช่นทุกวันนี้ เกี่ยวข้องกับคนที่เขาต้องการจะสั่งสอนให้ได้รับบทเรียน และละก็เขาคงไม่ทำแบบนี้

ฉ่ายเถียนเริ่มลงมือทั้ง ๆ ที่เขาไม่รู้อะไรเลยด้วยซ้ำ บางทีเขาอาจจะต้องพบกับจุดจบก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้เขาครุ่นคิดถึงวิธีที่จะจัดการกับฮวงเฟิง เพียงแค่สามารถทำให้เปิ้งเจิ้งฝูพอใจได้ เท่านี้เขาก็มีความสุขแล้ว ดังนั้นในความคัดแย้งที่เกี่ยวข้องกับฮวงเฟิงนั้น ไม่ใช่สิ่งที่เขาควรไปเกี่ยวข้องด้วย หรือไม่ก็เป็นสิ่งที่ต้องพึงระวังไว้