USB:บทที่ 699 เกิดเหตุ

เซี่ยเหมิ่งเจียวรู้สึกหวั่นวิตกกับสิ่งที่เกิดขึ้นดวงตาของเธอแดงระเรื่อขึ้นเล็กน้อย นี่มันเป็นการใส่ร้ายชัด ๆ คนของเฮฟเว่นไพรกรุ๊ปทุกคนทำธุรกิจโดยยึดถือหลักคุณธรรม  แน่นอนถึงแม้ว่าพวกเธอทั้งสองคนต้องการสร้างร้ายได้เพื่อขยายบริษัทให้เติบโตก้าวหน้าขึ้น แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าที่ผ่านมาธุรกิจของพวกเขาจะไม่ได้รับผลกำไรแต่อย่างใด ในทางตรงข้างบรรทัดบานทางธุรกิจของพวกเธออยู่เหนือกว่าบริษัทคู่แข่งอยู่มาก

อย่างไรก็ตามในตอนนี้ลูกค้ากลุ่มผู้บริโภคที่อยู่ภายในร้านไม่ได้รู้ถึงรายละเอียดพวกนี้ เป็นธรรมดาเมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของชายที่บอกว่าตนเองมาจากสำนักงานองค์กรอาหารและยาพูดแบบนี้พวกเขาเริ่มรู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมา แต่เรื่องมันไม่ได้จบบงเพียงแค่นั้นไม่นานหลังกจากนั้นกลุ่มคนที่อ้างตัวว่ามาจากสำนักอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ก็มาถึงเช่นกัน มิหนำซ้ำพวกเขายังตั้งข้อหาเพื่อที่จะปิดร้านในวันนี้ให้ได้เช่นกัน และถ้าหากวันนี้ร้านของเธอถูกปิดขึ้นมาจริง ๆ ก็เป็นเรื่องยากที่จะกู้สถานการณ์ให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ สองสาวถูกบีบคั้นโดยกลุ่มคนในเครื่องแบบ แน่นอนว่าสิ่งที่พวกเขาพูดคือสิ่งที่อยู่ในร้านนี้ไม่ปลอดภัยและมีสิ่งแปลกปลอมที่เป็นอันตราย ไม่ว่าในกรณีใดพวกเขาทำลายชื่อเสียงของเฮฟเว่นไพรกรุ๊ปไปแล้ว ซูหยูโม่ และเซี่ยเหมิ่งเจียว รู้มานานแล้วว่ามีคนตั้งใจจะเข้ามาสร้างความยุ่งยากให้กับพวกเธอ เนื่องจากพวกเธอพอมีเส้นสายกับรัฐบาลอยู่บ้าง

ดังนั้นทั้งสองคนจึงพยายามใช้เส้นสายของตัวเองเพื่อแก้ไขเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ อย่างไรก็ตามคำตอบที่ได้รับนั้นก็ทําให้พวกเธอรู้สึกสิ้นหวัง คนพวกนั้นลางานหรือหาข้อแก้ตัวไปต่าง ๆ นานา ไม่ว่าในกรณีใดไม่มีใครเต็มใจที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือพวกเธอในครั้งนี้ ถ้าหากเป็นเพียงแค่หนึ่งหรือสองคนเท่านนั้นพวกเขาก็จะไม่รู้สึกเสียใจเลย แต่เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทของพวกเธอปฏิบัติต่อพวกเขาเป็นอย่างดี แต่วันนี้องค์กรต่าง ๆ จำนนมากได้ร่วมมือกันสร้างปัญหาให้กับพวกเธอ และเมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้แล้วถ้าหากคนของรัฐบาลที่พวกเธอติดต่อด้วยยอมยื่นมือเข้าช่วยก็รังแต่จะสร้างปัญหาให้ตัวเอง และพวกเขาเหล่านั้นก็ไม่ได้โง่พอที่จะทำเช่นนั้น

ดังนั้นในเวลานี้ไม่มีใครเต็มใจที่จะออกหน้าแทน ตอนนี้เซี่ยเหมิ่งเจียวรู้สึกเป็นกังวลมากจนแทบจะร้องให้ ส่วนทางด้านซูหยูโม่นั้นก็ยังมืดแปดด้านเมื่อเห็นว่าพวกเธอไม่สามารถพึ่งพาเส้นสายของครอบครัวและเส้นสายที่พวกเธอสร้างขึ้นในจังหวัดชิงได้ บริษัทของเพวกเธอเพิ่งเริ่มก่อตั้งได้ไม่กี่ปีมานี้เอง ถึงแม้ว่าพวกเธอพอจะรู้จักคนใหญ่คนโตอยู่บ้างแต่ก็ไม่สามารถเข้าถึงคนพวกนั้นได้ง่าย ทั้งสองสาวต่างรู้ดีว่าการสั่งปิดร้านค้าของพวกเธอในวันนี้เป็นการปาระเบิดลูกใหญ่จากบริษัทคู่แข่งอย่างแน่นอน

ในขณะนั้นก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน พวกเขาไม่ใช่คนธรรมดาแต่เป็นนักข่าว การบันทึกภาพก็ได้เริ่มขึ้นทันทีเมื่อนักข่าวพวกนั้นเข้ามาภายในร้าน แม้ว่าพยักงานของร้านจะพยายามสกัดกั้นนักข่าวพวกนั้นเอาไว้แต่ก็ไม่เป็นผล เมื่อเห็นเรื่องร่าวที่กำลังเกิดขึ้นทำให้ท่าทีของทั้งสองสาวดูแย่ลงไปอีก เห็นได้ชัดว่าเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นนี้ต้องมีคนชั่วบางคนชักใยคนพวกนี้อยู่เบื้องหลัง มิหนำซ้ำพวกเขายักชักนำคนจากตระกูลอื่นเข้ามาขอคำชี้แจงจากเฮฟเว่นไพรกรุ๊ป

และเมื่อเวลาผ่านไปนานขึ้นภายในร้านก็เริ่มเป็นที่จับตามองของคนภายนอกมากขึ้น ส่วนใหญ่แล้วผู้คนเหล่านั้นล้วนรู้สึกว่าต้องมีเรื่องไม่ดีบางอย่างเกิดขึ้นในเฮฟเว่นไพรกรุ๊ป และเมื่อเรื่องพวกนั้นถูกเปิดเผย บริษัทเฮฟเว่นไพรกรุ๊ปต้องถูกพิจารณาและสั่งปิดกิจการ แน่นอนวายังมีอีกหลายคนที่เชื่อว่าทั้งหมดอาจเป็นเพราะเฮฟเว่นไพรไปสร้างความไม่พอใจให้กับใครสักคนเข้า

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีผู้คนที่ยังพอเข้าใจเรื่องราวความเป็นมาอยุ่บ้างแต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะออกหน้าพูดอะไร ได้แต่เฝ้ามองเหตุการณ์อยู่เช่นนั้น การที่พวกเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเฮฟเว่นไพรดังนั้นพวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องออกมาพูดอะไร

โดยปกติแล้วถึงแม้ว่าซูหยูโม่จะเป็นสุขุมมากแค่ไหน แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับปัญหามากมายในเวลาเดียวกันเช่นนี้ ก็ทำให้เธออับจนหนทางรู้สึกเหมือนว่าตัวเองนั้นเป็นคนไร้ความสามารถไม่อาจรับผิดชอบหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้  นี่เป็นครั้งแรกที่ซูหยูโม่รู้สึกเช่นนี้ และเธอกำลังต้องการความช่วยเหลือจากใครสักคน ตอนนี้ในความคิดของเธอนั้นก็ไม่มีใครอื่นนอกจากฮวงเฟิงเท่านั้น แต่ถึงแม้ว่าฮวงเฟิงจะอยู่ที่นี่แต่เขาก็คงจะช่วยอะไรเธอได้ไม่มากนัก เนื่องจากเขาเองก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาไม่ได้มีอิทธิพลใหญ่โตอะไร

"ดูเหมือนว่า ครั้งนี้ฉันจะแพ้แล้วจริง ๆ" ซูหยูโม่คิดในใจ แม้ว่าเรื่องราวทั้งหมดจะถูกตรวจสอบ ความจริงได้เปิดเผยภายหลัง  และสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจต่อไปได้ แต่การเสื่อมเสียชื่อเสียงในครั้งนี้จะสร้างผลกระทบร้ายแรงให้กับบริษัท

"เกิดอะไรขึ้นเหรอ? ทำไมที่นี่ถึงได้ดูครึกครื่นขนาดนี้? คนในเครื่องแบบต่างยกโขยงกันมากมายขนาดนี้"

ในขณะที่ซูหยูโม่กำลังรู้สึกมืดแปดด้านอยู่นั้น จู่ ๆ น้ำเสียงคุ้นเคยของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้น เธอรีบหันไปมองยังประตูแล้วก็ต้องประหลาดใจเมื่อสายตาของเธอปะทะเข้ากับร่างของชายคนหนึ่ง นั่นก็คือฮวงเฟิง ซุหยูโม่รู้สึกราวกับว่ามีลำแสงเจ็ดสี่สองสว่างออกมาจากทางด้านหลังของฮวงเฟิง  เขาได้ยินคำภาวนาของเธอและปรากฏตัวขึ้นได้ทันเวลา

"ฮวงเฟิง คุณมานี่ได้ยังไงกันคะ?" ซูหยูโม่เอ่ยถามขึ้นพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าในตอนนี้เธอจะรู้สึกเหมือนว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายมากก็ตาม แต่การที่มีฮวงเฟิงคอยอยู่ข้าง ๆ มันทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมากทันที ท้ายที่สุดแล้วบริษัทนี้ได้ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อตัวเธอเองและเซี่ยเหมิ่งเจียว เพื่ออนาคตของเธอและฮวงเฟิงเธอก็ไม่หวาดหวั่นต่ออุปสรรคใด ๆ อีก แม้ว่าสถานการณ์ตรงหน้าจะเป็นปัญหาที่ค่อนข้างหนักหนาพอสมควร แต่ปัญหานี้ก็ไม่ได้ใหญ่โตไปกว่าการเริ่มต้นก่อตั้งบริษัทในตอนแรก

ฮวงเฟิงมองไปที่ซูหยูโม่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นถึงความสิ้นหวังในสายตาของผู้หญิงคนนี้ ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแววตาของเธอก็มักจะเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น ถึงแม้ว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่เข้มแข็งมากนัก แต่ก็ไม่เคยแสดงท่าทีลังเลเมื่ออยู่ต่อหน้าฮวงเฟิงเลยสักครั้ง เมื่อฮวงเฟิงได้รับฟังถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากคำบอกเล่าจากแฟนสาวเขาก็พูดขึ้น

"ไม่เป็นไร ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ผมเอง" ฮวงเฟิงเดินเข้าไป เขาหยุดยืนเคียงข้างหญิงสาวแล้วสวมกอดเธอไว้