ตอนที่ 649

USB:บทที่ 649 สอดแนม

“ทุกคนหยุดก่อน!” เมื่อฮวงเฟิงทราบข่าวจากหน่วยสอดแนม เขาก็สั่งให้ทุกคนหยุดเคลื่อนไหวทันที แม้ว่าเขาจะไม่สามารถทำให้คนพวกนี้หยุดเดินได้ในทันทีที่สั่งการ ทว่าวินัยในกองทัพนั้นดีกว่าเดิมมาก นี่คือสิ่งที่ฮวงเฟิงบอกกับซูเผยก่อนหน้านี้ บัดนี้ กองทัพพันธมิตรเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว

“แม่ทัพฮวง มีอะไรหรือ เหตุใดจึงต้องหยุดเคลื่อนทัพ” ซุนเหลียงรีบขี่ม้าไปหาอีกฝ่าย เขาเป็นนายพลรองในครั้งนี้ ฮวงเฟิงเป็นผู้นำทัพและอยู่ข้างหลังเขา

ฮวงเฟิงอธิบายสารที่หน่วยสอดแนมเพิ่งรายงาน

“แผนการของนายพลฮวงคืออะไรหรือ?” เอ่ยถาม ก่อนหน้านี้เขาไม่ค่อยเก่งเรื่องการวางแผน ทว่าตอนนี้เขาตั้งใจศึกษา เนื่องจากว่าเขาชื่นชมฮวงเฟิงเขาจึงปรึกษาฮวงเฟิง แม้ว่าอีกฝ่ายจะง่วนกับการดูแลกิจการ เขาก็ไม่ยินดีปล่อยฮวงเฟิงไป ในทางกลับกัน ฮวงเฟิงก็ไม่ได้ปิดบังเขา เขาไม่ได้อยู่ในโลกนี้ตลอดไป จึงยินดีช่วยเหลืออีกฝ่ายสุดความสามารถ

ส่งผลให้ตอนนี้ซุนเหลียงได้พัฒนาทักษะในเรื่องต่างๆได้

"อืม..." ฮวงเฟิงไม่ได้ปิดบังและอธิบายให้ซุนเหลียงฟังอย่างละเอียด “จากการรายงานของหน่วยสอดแนม การเดินทัพอีกฝ่ายนั้นขาดระเบียบและการจัดการที่ดี เรียกได้ว่าแทบไม่มีระบบแบบแผนเลยก็ว่าได้ เปรียบเสมือนโรคที่ร้ายเกิดขึ้นในกองทัพ พวกเขาไม่ได้ผ่านการฝึกฝนที่เหมาะสม และยิ่งกว่านั้น พวกเขาไม่ได้ส่งคนไปสอดแนมอีกด้วย”

"เช่นนั้นเราควรทำอย่างไรต่อ?" ซุนเหลียงถาม

“ข้าได้สำรวจบริเวณโดยรอบระหว่างเดินทางมาที่นี่แล้ว มีที่แห่งหนึ่งแม้จะอันตรายแต่ก็เหมาะแก่การซุ่มโจมตี เราเดินทางไปที่นั่นและรอจนกว่าพวกเขามาถึง!” ฮวงเฟิงกล่าว

เมื่อได้ยินคำตอบจากฮวงเฟิง ดวงตาของซุนเหลียงก็สว่างวาบ จู่ๆ เขาก็จำได้ว่าการเดินทางครั้งก่อนของเขา มีที่แบบนั้นอยู่จริงๆ

“ถูกต้อง เป็นที่นั่น!” ฮวงเฟิงกล่าวยืนยัน

“เป็นที่ซุ่มโจมตีที่เหมาะสมมาก” ซุนเหลียงเห็นพ้อง หุบเขาลูกนั้นแม้จะสูงชันแต่ก็ไม่ได้สูงมากเหตุ หากพวกเขากระโดดลงมาจากด้านบน ก็ไม่มีปัญหา ตราบใดที่ศัตรูไม่ทันสังเกต ที่นั่นย่อมเป็นจุดซุ่มโจมตีที่ดีที่สุด

เช่นนั้นกองทัพกบฏที่อยู่อีกฝั่งจะสังเกตเห็นหรือไม่? ซุนเหลียงคาดเดาว่าความเป็นไปได้ไม่มากนัก แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นพวกเขาเอง พวกเขาคงไม่ตรวจสอบสิ่งผิดปกติตามสองข้างทางระหว่างมายังสนามรบ ท้ายที่สุด พวกเขาเป็นเพียงเกษตรกรไม่ก็นักล่าสัตว์และไม่ได้ฝึกรบจนชำนาญ

"เดินทางกลับ!" เมื่อเห็นว่าซุนเหลียงเห็นพ้อง ฮวงเฟิงจึงสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาเสียงดัง เพราะการต่อสู้ที่มณฑลเม่ยก่อนหน้านี้ทำให้ทั้งกองทัพฟังคำสั่งจากฮวงเฟิง แม้ว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูด แต่ก็ไม่มีผู้ใดคัดค้าน เพราะนี่คือพลังและศักดิ์ศรีที่ได้รับจากการต่อสู้

ฮวงเฟิงและคนที่เหลือรีบมุ่งไปที่หุบเขา หลังจากนั้น ฮวงเฟิงและหวังต้าหนิวก็นำคนสองกลุ่มมาซ่อนตัวบนเขา ขณะที่ซุนเหลียงนำผู้คนที่เหลือไปซุ่มโจมตีอยู่ที่ตีนเขา หลังจากเตรียมทุกอย่างเรียบร้อย ทุกคนก็หมอบลงเงียบๆ และรอให้ศัตรูปรากฏตัว

ส่วนกองทัพที่อยู่อีกฟากหนึ่ง พวกเขากำลังเดินไปข้างหน้าอย่างสบายใจโดยไร้การจัดแถว ทำให้ดูเหมือนกับพวกเขามีผู้คนเต็มไปหมด น่าเศร้าที่หลายคนนำเครื่องมือทำฟาร์มติดมาด้วย ทำให้พวกเขาดูขาดความน่าหวั่นเกรงและถูกมองเป็นเรื่องที่น่าขัน

หากใช้ขาเดินต้องใช้เวลาอยู่ค่อนวัน แม้ว่ากองทัพพันธมิตรนี้จะออกเดินทางก่อน แต่ก็ช้ากว่าฮวงเฟิงและพวกพ้อง ขณะที่พวกเขากำลังเดินอยู่นั้น ฮวงเฟิงและคนที่เหลือกำลังซุ่มโจมตีอยู่ก่อนที่พวกเขาจะเข้าใกล้หุบเขา

เมื่อพวกเขามาถึงทางเข้าหุบเขา หน่วยสนับสนุนในกองทัพกำลังขี่อาชาตัวใหญ่ผ่านไปโดยไม่มีความคิดที่จะหยุดตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบ เขาคิดว่าพวกเขาได้บอกซูเผยและพวกพ้องผ่านตัวแทนแล้วว่าหากอีกฝ่ายไม่ยอมจำนนก็เตรียมพร้อมทำสงครามได้เลย และในเวลาเดียวกัน ซูเผยและคนที่เหลือคงจะง่วนกับการเตรียมพร้อมอยู่ที่เหมืองหลี่และรอพวกเขาบุกไปหา มันจึงเป็นเช่นนั้นไม่ได้ และพวกเขาไม่กล้าออกห่างจากเมือง

เป็นผลให้นายพลหลายคนของกองทัพพันธมิตรไม่คิดว่ากลุ่มของฮวงเฟิงจะซุ่มโจมตีพวกเขา เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะไม่เสียเวลาสังเกตสิ่งต่างๆรอบตัว

ในที่สุด ตอนนี้ฮวงเฟิงก็ได้เห็นด้วยตาตัวเองแล้วว่าที่หน่วยสอดแนมพูดหมายถึงอะไร กองทัพศัตรูที่อยู่ตรงหน้าไม่มีระเบียบ ความพร้อมและไม่มีการจัดแถวอย่างที่พูดเลย พวกเขาเดินไปทุกที่ที่ต้องการและมักจะเกาะกลุ่มเดินกัน 2-3 คน ระหว่างเดินก็พูดคุยกันอีกทั้งท่าทางของเขาก็ไม่เหมือนคนที่กำลังจะไปรบ มีแต่จะไปตลาด ฮวงเฟิงคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าหัวเราะมาก คนพวกนี้ประมาทเกินไปแล้ว ในเมื่อมันคือสงคราม หากเขาแพ้ให้กับกองทัพที่หละหลวมเช่นนี้ เขาจะไปตายให้ดู!

ฮวงเฟิงเห็นคนแค่สองสามคนขี่ม้าท่ามกลางฝูงชน แทบไม่ต้องถาม ก็รู้ว่าคนเหล่านี้เป็นนายพลระดับสูงของกองทัพอย่างแน่นอน

“ไม่ส่งคนสอดแนมก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยเขาก็มีตำแหน่งสูง นี่ไม่ใช่รนหาที่ตายหรอกหรือ?” จากนั้นเขาก็แอบสั่งนักธนูที่อยู่ข้างกายให้พยายามโจมตีผู้ที่ขี่ม้าในตอนที่สงครามเปิดฉาก

ฮวงเฟิงเฝ้าดูอย่างเงียบงันขณะที่ศัตรูด้านล่างเข้ามาในวงล้อม เหตุเพราะพวกเขาไม่มีการจัดระเบียบแถว การเคลื่อนไหวของพวกเขาจึงไม่เป็นแบบแผน ด้วยเหตุนี้กลุ่มของศัตรูจึงเดินทิ้งห่างกันไกลพอสมควร ทหารแนวหน้ากลุ่มหนึ่งเดินผ่านหุบเขาแล้ว ทว่าคนสุดท้ายของแถวยังไม่ได้เข้ามาในวงล้อม

ฮวงเฟิงตัดสินใจว่าเขาจะไม่รอแล้ว ถ้าเขารอต่อไป กองทหารแนวหน้าจะพบซุนเหลียงและคนที่หมอบซุ่มโจมตีอยู่ตีนเขา ดังนั้น ฮวงเฟิงจึงลุกขึ้นยืนและตะโกนว่า "โจมตี!"

ขณะที่ฮวงเฟิงและคนที่เหลือรอให้ศัตรูปรากฏตัว พวกเขาได้เตรียมหินไว้จำนวนหนึ่ง ดังนั้นการโจมตีระลอกแรกจึงใช้หินเหล่านี้ในการโจมตี

คำสั่งของฮวงเฟิง ทหารที่ซุ่มโจมตีอยู่ข้างๆและรอบๆเขาต่างยืนขึ้น และปาก้อนหินที่ตั้งอยู่ใกล้มือไปที่กลุ่มคนด้านหน้า แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ฆ่าศัตรูไปมากมาย แต่คนพวกนั้นก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย และในขณะเดียวกันก็ทำให้เกิดความโกลาหล

ในอีกด้านหนึ่งของหุบเขา หวังต้าหนิวและคนที่เหลือเห็นฮวงเฟิงและคนอื่นๆ เริ่มโจมตี ดังนั้นพวกเขาจึงยืนขึ้นอย่างพร้อมเพรียง

การซุ่มโจมตีได้เริ่มขึ้นแล้ว!