ตอนที่ 486

USB:บทที่ 486 เหตุการณ์พลิกผัน

"หึ ฉันบอกไม่ได้จริงๆ ว่าผู้ชายคนนี้ดูหุ่นดี แต่โชคดีทีเดียวแค่ดูรูปร่างของแฟนคลับสองคนนั้นก็จะเห็นได้ว่าผู้หญิงสองคนนั้นมีหุ่นที่ดีทีเดียว"

"ไอ้ขี้โกงคนนี้ถึงกับบอกว่ามันไม่สูบบุหรี่หรือไม่ดื่มเหล้าต่อหน้าสื่อ แต่สุดท้ายแล้วมันก็ยังเป็นคนขี้โกงอยู่ดี!"

“แป้งคุมมัน จริงเหรอ!” ไอ้นี่มันน่ารังเกียจจริงๆ! "

“ผู้หญิงสองคนนี้หน้าด้านจริงๆ จริงไหม? พวกเธอขึ้นมาบนเตียงของต้าเหว่ยแบบนี้ได้ยังไงกัน?”

"แม่งเอ้ย พวกหล่อนนี่แข็งแกร่งจริงๆ! มีคนเข้ามานัวเนียด้วยตั้งมากมายขนาดนี้ ผู้หญิงสองคนนี้น่าทึ่งจริงๆ ถึงรับได้มากขนาดนี้!"

“หน้าด้านไร้ยางอายด้วย เขาไม่เพียงแต่นัวเนียกับแฟนคลับเท่านั้น แต่เขายังปล่อยให้ผู้ช่วยมาร่วมวงด้วย เป็นคนหน้าด้านแบบนี้ได้ยังไงกัน?”

“ต้าเหว่ยคนนี้พยายามตามตื๊อหลี่ปิงอวิ้นของฉันจริงๆ ด้วย คงจะอยากตายมากสินะ โชคดีนะที่ถูกจับได้ซะก่อน”

มีความคิดเห็นมากมายบนโลกออนไลน์ที่ปรากฎที่ด้านล่างของวิดีโอนั้น และจำนวนของความคิดเห็นเหล่านั้นยังคงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ซึ่งในเวลานี้เป็นชั่วโมงทองของค่ำคืนนี้ที่ทุกคนกำลังท่องโลกอินเตอร์เน็ตนั่นคือสาเหตุที่ว่าทำไมจึงมาคนมาท่องโลกอินเตอร์เน็ตมากมายนัก

ก่อนหน้านี้เขาเป็นคนที่ดูอ่อนปวกเปียก แต่เมื่อทุกคนได้เห็นวิดีโอนี้คนส่วนใหญ่ก็เปลี่ยนใจ แม้ว่าในวิดีโอพวกเขาจะไม่ได้พูดถึงเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปมากนัก แต่เขาก็พูดเกี่ยวกับหลี่ปิงอวิ้นไม่น้อยเลยและจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับหลี่ปิงอวิ้นทุกคนก็สามารถบอกได้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน

มันเป็นเพราะตัวของเขาเองแท้ๆ ตอนนี้ชาวเน็ตรู้สึกว่าพวกเขาได้เห็นธาตุแท้ของต่าเหว่ยอย่างชัดเจนแล้ว และเขาไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่เขาเคยแสดงเอาไว้เลย คำพูดก่อนหน้านี้ของเขาที่เกี่ยวข้องกับเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปจึงไม่มีความน่าเชื่อถือโดยปริยาย

หลังจากนั้นชาวเน็ตก็พบว่าจำนวนวิดีโอบนอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับต้าเหว่ยคนนี้ได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง หลายเว็บไซต์ไม่สามารถที่จะมองเห็นได้อีกต่อไป บรรดาชาวเน็ตที่ไม่ทราบในรายละเอียดมากนัก แต่พวกเขามีความรู้สึกแย่กับต้าเหว่ยคนนี้เสียแล้ว

"แม่งเอ้ย ผู้ชายคนนี้มันใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อถอดวิดีโอออกจากอินเตอร์เน็ต"

“เขาคงอยากลดความเดือดในตอนนี้ล่ะมั้ง”

"ฉันมาที่นี่ทำไมนะ โชคดีนะที่ฉันฉลาดฉันเลยดาวน์โหลดเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว"

"อิอิ ฉันก็เหมือนกัน พูดก็พูดเถอะ หุ่นของต้าเหว่ยน่ะดีมาก ถ้าฉันเป็นผู้หญิงฉันก็คงจะพุ่งเข้าหาเหมือนกันล่ะ”

การสนทนาทุกประเภทเกิดขึ้นในโลกออนไลน์ หลายคนคิดว่าเป็นการกระทำของทีมประชาสัมพันธ์ของต้าเหว่ย เขาต้องการที่จะลดความร้อนแรงที่ทำให้ชาวเน็ตหลายคนไม่พอใจและวิพากษ์วิจารณ์เขาทางโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้

ต้าเหว่ยตกอยู่ในหายนะ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่คนที่ถอดวิดีโอออกไปเพราะในความเป็นจริงแล้วเขาและทีมงานของเขายังคงอยู่ในโรงพยาบาลและยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกภายนอกเลยแม้แต่น้อย

"เจ้าอาชญากรสองคนนั้นมันยะโสเกินไปแล้ว คุณต้องจับตัวคนร้ายมาให้เร็วที่สุดเลยนะ ไม่งั้นผมจะเปิดโปงการกระทำของคุณบนโลกอินเตอร์เน็ต"

ภายในโรงพยาบาล ต้าเหว่ยกำลังข่มขู่พร้อมกับให้ปากคำกับตำรวจอยู่ในนั้น มือข้างขวาของเขากำลังเข้าเฝือกอยู่ ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำแม้แต่ใบหน้าของเขาที่ทนุถนอมมาโดยตลอดก็เป็นรอยฟกช้ำและถลอกปอกเปิกไปหมด แล้วจะไม่ให้เขาโมโหให้เจ้าสองคนนั้นที่เป็นคนทำร้ายร่างกายของเขาได้ยังไงกัน?

"ไม่ต้องกังวลไปนะครับ พวกเราจะคลี่คลายคดีนี้โดยเร็วที่สุด" แม้ว่าพวกเขาจะไม่พอใจกับน้ำเสียงของต้าเหว่ย แต่ตำรวจเหล่านี้ก็รู้ดีว่ามันเป็นหน้าที่ของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้พูดอะไร

"พวกคุณควรรีบไปจัดการเลยนะไม่เช่นนั้นคุณเตรียมตัวรอรับเรื่องร้องเรียนได้เลย!" น้ำเสียงของผู้ช่วยเต็มไปด้วยคำบ่นและสถานการณ์ของเขาก็ดูไม่ดีเช่นกัน ตาซ้ายของเขาฟกว้ำและยังมีเลือดอยู่ที่มุมปากของเขาอีกด้วยและแขนของเขาได้รับบาดเจ็บหนักเช่นกัน

หลังจากที่ให้สัญญาอีกครั้งตำรวจก็หันหลังกลับและออกมาจากห้องผู้ป่วย

"ผู้กอง คนพวกนี้ยะโสเหลือเกินนะครับ"

ที่ทางเดินของโรงพยาบาล ตำรวจสองสามคนกำลังคุยกันขณะที่เดินไปด้วยกัน ก่อนหน้านี้เจ้าพวกคนโง่เขลาไม่ได้ให้ความเคารพพวกเขาเลยแม้แต่น้อย ปากของพวกเขาข่มขู่พวกเขาอยู่ตลอดเวลาและสั่งให้พวกเขาคลี่คลายคดีนี้โดยเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาจะออกมาป่าวประกาศด้วยอิทธิพลของพวกเขาเอง

“ใช่แล้ว เขาคงยังคิดว่าตัวเองเป็นดาราระดับตัวท็อปเหมือนหลี่ปิงอวิ้นสินะ ดูสิว่าเขาอวดดีแค่ไหน” ตำรวจอีกคนกล่าว

“พอได้แล้ว ถึงแม้ว่าทัศนคติของเขาจะไม่ค่อยดีนักแต่เจ้าอันธพาลทั้งสองคนนั้นก็ชัดๆ ว่าพวกเขาเป็นคนผิด ตามจับพวกมันมาให้ได้นั่นคือหน้าที่ของพวกเรา” ถึงแม้ว่าผู้กองจะไม่ค่อยพอใจกับน้ำเสียงของต้าเหว่ย แต่เขาก็ไม่คิดที่จะละทิ้งความรับผิดชอบ เขาจะไม่ปล่อยให้ความรู้สึกส่วนตัวมายุ่งกับเรื่องทั้งหมด

“ผู้กอง ดูนี่สิครับ” จากนั้นตำรวจอีกคนหนึ่งก็ยื่นโทรศัพท์ของเขาให้แก่ผู้กอง ในนั้นเป็นวิดีโอของต้าเหว่ยที่ถูกอัพโหลดขึ้นบนโลกอินเตอร์เนต

“ไอ้คนหน้าไม่อาย!” หลังจากที่ดูวิดีโดนั้นจบ ผู้กองก็อดไม่ได้ที่จะก่นด่าออกมา ตำรวจอีกคนหนึ่งเองก็เช่นกันพวกเขากำลังนึกดูถูกต้าเหว่ย

“ผู้กอง คุณคิดว่าพวกเขาเพิ่งจะมารวมตัวกันหรือเปล่า?” ตำรวจอีกคนหนึ่งกล่าวด้วยเสียงเบา

เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ทุกคนต่างก็เบิกตากว้างถึงแม้ว่าพวกเขาจำเป็นต้องช่วยคลี่คลายคดีของต้าเหว่ย เพราะว่าตัวตนของพวกเขาไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะต้องชอบต้าเหว่ย แต่ในทางตรงกันข้ามพวกเขาเกลียดต้าเหว่ยซึ่งตอนนี้พวกเขามีโอกาสแล้วพวกเขาจึงไม่ปล่อยโอกาสนี้ที่จะทำให้ต้าเหว่ยต้องลำบาก

และในเวลานั้นเองโทรศัพท์ของผู้กองก็ดังขึ้น ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของเขานั่นเองที่เป็นคนสั่งการเขาโดยตรงว่าไม่จำเป็นต้องติดตามคดีของต้าเหว่ยแล้ว เพราะคนที่ไปทำร้ายเขานั้นเป็นคนของกองทัพและไม่ใช่แค่พลทหารทั่วไป

เขาจึงต้องปกป้องตระกูลของทหารไม่ว่าพวกนั้นจะอยู่ในกองทัพหรือในเมือง ผู้บังคับบัญชาของเขาสั่งเขาว่าตระกูลนี้ไม่ใช่ธรรมดาดังนั้นเขาจึงต้องปกป้องพวกเขา ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องไปสืบคดีที่ต้าเหว่ยถูกทำร้ายอีก

“อย่างไรก็ตาม คุณยังมีคดีอื่นที่ต้องไปสืบสวนอีก รีบพากำลังกลับมาได้แล้ว” ผู้บังคับบัญชากล่าวทางโทรศัพท์

“นี่มันเกี่ยวกับวิดีโอที่อยู่บนอินเตอร์เน็ตหรือเปล่านะ?” ผู้กองถาม

“ใช่ คุณก็เห็นวิดีโอนั่นเหมือนกันใช่ไหม?” มันต้องเกี่ยวข้องกันแน่ๆ เพราะเขาไปพัวพันกับเรื่องที่ตามตื๊อคนอื่นและเป็นคนก่อม๊อบขึ้น นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมต้องนำตัวเขากลับไปด้วยเพื่อตรวจสอบให้ละเอียด”

“เอาล่ะ ผมเข้าใจแล้ว” ผู้กองกล่าวตอบผู้บังคับบัญชาของเขา

“ไปกันเถอะ พวกเราต้องกลับไปเพื่อพบตัวเจ้าดาราที่อยู่ๆ ก็ดังคนนั้น” หลังจากที่วางสายแล้ว ผู้กองก็ยิ้มให้กับลูกน้องของเขา

ตำรวจอีกสองสามคนต่างก็พากันยิ้ม พวกเขารู้ถึงจุดประสงค์ของการเดินทางครั้งนี้แล้ว พวกเขาจะได้ปฏิบัติหน้าที่ไปพร้อมๆ กับได้แก้แค้นไปในตัว ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะเต็มใจที่จะเดินทาง