USB:บทที่ 582 ขอบคุณมาก
"เฮ้ พี่ค่ะ เดี๋ยวก่อนค่ะ ไม่ต้องรีบกลับมาก็ได้ พี่ทำงานอยู่นี่!" "เฮ้ แฮ้!" เทียนหลินเพียงแค่อยากจะบอกว่า ค่อยกลับมาตอนเย็นก็ได้ เนื่องจากเขายังอยู่ในเวลางาน และเจ้านายของเขาก็อยู่นี่ด้วย
"เอ่อ พี่ใหญ่ฮวง ฉันต้องขอโทษด้วย พี่ชายเป็นห่วงฉันมากเกินไป เพราะฉะนั้น..?" เมื่อเห็นว่าพี่ชายได้ตัดสายไปแล้ว และเขารีบกลับมาทันที เทียนหลินจึงพูดกับฮวงเฟิงด้วยความรู้สึกอึดอัดใจ
"ไม่เป็นไร พี่รู้ดี่ว่าพวกเธอสองพี่น้อง รักกันมาก พี่เข้าใจ" ในเวลานี้ฮวงเฟิงเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่าพี่ชายของเธอทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับเขา และเนื่องจากเขาคือเจ้านายของพี่ชายนี่เอง ทำให้เทียนหลินรู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก
"พี่ใหญ่ฮวง ขอบคุณมากค่ะ พี่เป็นคนดีจริง ๆ!" เทียนหลินพูดอย่างมีความสุข
"เอ่อ เอ่อ" ฮวงเฟิงรู้สึกมีความสุขอย่างมาก เมื่อได้เห็นรอยยิ้มสดใสของเทียนหลิน หลังจากนั้นไม่นานประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมกับเสียงของใครคนหนึ่ง แน่นอนว่าเขาก็คือเทียนจุน! หลังจากที่ได้รับโทรศัพท์จากน้องสาวแล้ว เทียนจุนก็อดใจไม่ไหวที่จะเห็นน้องสาวของเขายืนได้อีกครั้ง เพราะฉันนั้นเขาไม่คิดที่จะรออีกแม้แต่วินาทีเดียว เนื่องจากเขาไม่มีรถยนต์ ดังเขาจึงเรียกรถแท็กซี่เพื่อกลับบ้าน และตลอดทางเขายังได้กระตุ้นคนขับให้ขับเร็วขึ้นอีกแต่ความรู้สึกตื่นเต้นดีใจบนใบหน้าไม่เคยจางลงเลย เมื่อเทียนหลินได้ยินเสียงประตูเปิดออก เธอก็ลุกขึ้นยืนแล้วหันหน้าไปที่ประตู หากทว่าเมื่อประตูเปิดออกแล้ว กลับไม่มีเสียงใด ๆ เกิดขึ้นอีก คนที่เปิดประตูเข้ามานั่นคือเทียนจุนจริง ๆ ทว่าในในวินาทีนั้น ผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนตัวแข็งทื่อ สายตาจับจ้องอยู่ที่น้องสาวของตัวเองซึ่งยืนอยู่ใกล้กับประตูบานนั้น ถึงแม้ว่าที่ผ่านเขาเคยได้รับบาดมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่ก็ไม่เคยหลังน้ำตาออกมาแม้แต่ครั้งเดียว แต่ในเวลานี้น้ำตากลับไหลท้วมอยู่บนหน้า และเขาก็ไม่ใส่ใจที่สกดกลั้นมันเลยสักนิด
เทียนจุนที่ยังคงยืนอยู่ด้านนอกของประตู มองน้องน้องสาวของเขาพร้อมกับหยาดน้ำตาไหลบ่าออกมาอย่างไม่ยอมหยุด เขาไม่พูดแม้แต่คำเดียวเพราะกลัวว่าทุกอย่างที่เขาเห็นอยู่นี่ไม่ใช่เรื่องจริง และมันเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น ถ้าหากมีเสียงดังเขาก็จะตื่นขึ้น และเป็นอีกครั้งที่ต้องเห็นเทียนหลินนั่งอยู่บนวิลแชร์สับปะรังเคนั่น
"พี่ค่ะ นั่นพี่ใช่ไหม?" ในวินาทีนั้น หลังจากที่ได้ยินเสียงประตูเปิดออกแล้ว หากทว่ากลับไม่ได้ยินเสียงพูดของใครเลย หรือแม้แต่เสียงที่ฟังดูเหมือนว่ามีกำลังมีใครเดินเข้าในห้อง เทียนหลินก็ไม่สามารถอดได้ได้อีกจึงได้เอ่ยถามออกไป
"พี่เอง น้องสาว เป็นพี่เอง! พี่กลับมาแล้ว" เทียนจุนหักห้ามความตื่นตะลึง แล้วพูดกับน้องสาวด้วยรอยยิ้มบนหน้า น้ำเสียงเขาฟังดูแปลกไปมาก แท้จริงแล้วเขาทั้งหัวเราะและร้องให้ในเวลาเดียวกัน และมันก็ชัดเจนมากขึ้นเมื่อเกิดขึ้นผู้ชายที่รูปร่างสูงใหญ่เช่นเขา
"พี่ชาย ในเมื่อกลับมาแล้ว ทำไมยังไม่เข้ามาอีก? แถมยังไม่ยอมพูดอะไรอีก พี่นี่จริง ๆ เลย" เทียนหลินพูดขึ้น
"พี่จะเข้าไปเดี๋ยวนี้แหละ" เทียนจุนรีบพูดขึ้น แล้วเขาก็เดินเข้าห้องมาอย่ารวดเร็ว แต่ก็ยังไม่ลืมปิดประตู เขาเดินเข้าไปแล้วหยุดอยู่ข้างน้องแล้วช่วยพยุงเธอไว้ "น้องสาว นี่เธอสามารถยืนแล้วก็เดินได้เองแล้วจริงหรือนี่?"
"แน่นอนสิ แล้วตอนนี้ฉันไม่ได้กำลังยืนอยู่รึไง? พี่ชายหยุดอยู่ตรงนั้นแหละ ห้ามขยับ ฉันจะเดินสักสองสามก้าว เพื่อให้พี่ได้เห็นเต็ม ๆ ตา!" เมื่อได้ยินดังนั้น เทียนหลินจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความสุข เธอเพิ่งจะกลับมาเดินได้อีกครั้ง และตอนนี้เธอก็มีความสุขไม่ต่างไปจากเด็ก ๆ ที่ได้ของเล่นใหม่เลย
"ก็ได้ เอาเลย แล้วพี่จะคอยดู" เทียนจุนกล่าว
จากนั้นเทียนหลินก็ปล่อยมือออกจากแขนของพี่ชายแล้วเดินไปข้างหน้าด้วยตัวเอง เห็นได้ชัดว่าลำตัวของเธอยังแกว่งไปมาอยู่นิดหน่อย แต่เธอก็สามารถเดินได้ด้วยตัวเองแล้วจริง ๆ อีกทั้งยังดีกว่าช่วงก่อนหน้านี้ เทียนหลินมั่นใจว่าหลังจากผ่านไปอีกสักพักเธอจะสามารถกลับมาดินได้เหมือนคนปกติ
"พี่ชาย เป็นไงบ้าง? ฉันเดินได้ไม่เลวเลยใช่ไหม?" เทียนหลินเดินกลับ ถอยหลังและเดินไปข้างหน้า แล้วเธอก็กลับมาหยุดอยู่ข้าง ๆ เทียนจุนอีกครั้ง แล้วเธอก็พูดขึ้นเพื่อขอความมั่นใจ
"แน่นอน ท่วงท่าของเธอสวยงามกว่าพวกนางแบบเสียอีก ถ้าหากน้องสาวของพี่ได้เป็นนางแบบจริง ๆ เป็นไปได้สูง ที่เธอจะสามารถทำให้คนดูตาถลนออกมานอกเบ้าได้เลย!" เทียนจุนลูบไล้เส้นผมของน้องสาวแล้วพูดขึ้นอย่างเอ็นดู
"พี่ชาย พี่กำลังล้อฉันเล่น ฉันจะไปเทียบอะไรกับนางแบบพวกนั้น" เทียนหลินพูดขึ้น ขณะที่แก้มเธอแดงระเรื่อขึ้น
"ทำไมจะไม่ได้ ในสายตาของพี่ เธอสวยที่สุด นางแบบพวกนั้นไม่มีความหมายอะไรเลย!" เทียนจุนกล่าว
"พอเถอะ หยุดพูดได้แล้ว มันจะทำให้พี่ใหญ่ฮวงเฟิงเราะเยาะเอาเปล่า ๆ" เทียนหลินรีบปรามพี่ชาย ฮวงเฟิงยังอยู่นี่ต้องมาเห็นเป็นเรื่องน่าขันแน่ และในตอนนั้นเอง เทียนจุนก็นึกขึ้นมาได้ น้องสาวของเขาได้รับความช่วยเหลืออันยิ่งใหญ่จนสามารถกลับมาเดินได้อีกครั้ง เขาเดินเข้าไปหาฮวงเฟิงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกขอบคุณแล้วพูดขึ้น "ขอบคุณมาก ขอบคุณที่ช่วยรักษาข้าให้น้องสาวของผม"
"เอาอีกแล้ว!" ฮวงเฟิงพูดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ "ตอนนี้ น้องสาวของคุณได้ขอบคุณผมตั้งหลายครั้งแล้ว พวกคุณสองคนนี้สมกับที่เป็นพี่น้องกันจริง ๆ พวกคุณพูดเหมือนกันเลย"
"นั่นเป็นเพราะพวกเราเห็นถึงคุณค่าของมันจริง ๆ" เทียนจุนมองไปที่น้องสาวแล้วพูดขึ้นอีก "คุณอาจไม่เคยเจอกับเจอกับความสิ้นหวังมาก่อน ดังนั้นคุณจึงไม่อาจเข้าใจความรู้สึกของพวกเราได้ ไม่ว่าพวกเราจะกล่าวขอบคุณไปแล้วสักกี่ครั้ง แต่ก็ยังไม่อาจแสดงให้คุณได้เห็นความสำนึกในบุญคุณของพวกเราได้หมด!"
"ใช่แล้ว" เทียนหลินสนับสนุนคำพูดของพี่ชาย "ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ ฉันคงไม่มีหลุดออกจากวีลแชร์ตัวนี้ได้ไปตลอดชีวิต!"
เมื่อได้ยินน้องสาวพูดถึงเก้าอี้รถเข็น ดูเหมือนว่าเทียนจุนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้ เขาเดินเข้าไปในห้อง เห็นค้อนเล็กอันหนึ่ง เขาหยิบมันขึ้นมาควงเป็นวงกลม แล้วทุบเก้าอี้รถเข็นนั้นอย่างแรง
"ปัง!" เสียงที่ดังขึ้นทำให้เทียนหลินสะดุ้ง
"พี่ค่ะ พี่กำลังจะทำอะไรคะ?" เทียนหลินถามขึ้น
"พี่กำลังจะบดขยี้วีลแชร์ พวกเราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าของสิ่งนี้จะต้องแหลกออกเป็นชิ้น ๆ? อีกอย่างพี่ก็เกลียดของสิ่งนี้มานานแล้ว!" ทุก ๆ ครั้งที่เขาเห็นน้องสาวนั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็น เขารู้สึกเจ็บปวดที่สุด เขาเคยคิดอยู่เสมอว่าวันหนึ่ง น้องสาวของเขาจะสามารถลุกออกจากเก้าอี้รถเข็นแล้วเดินได้ด้วยตัวเอง และเมื่อถึงเวลานั้น เขาจะตั้งใจแน่วแน่ที่จับเก้าอี้รถเข็นตัวนี้สับออกเป็นชิ้น ๆ!
ความจริงแล้วในใจเธอรู้สึกเกลียดชังเก้าอี้รถเข็นมากกว่าพี่ชายของเธออีก เนื่องจากมันคือสิ่งตอกย้ำเธอ ว่าตัวเองคือคนพิการ และสำหรับคนพิการคนหนึ่ง ที่ผ่านมามีเพียงแค่สิ่งนี้เท่านั้นที่สามารถลากพาตัวเองไปไหนมาไหนได้! ตอนนี้เธอสามารถเดินได้ด้วยตัวเองแล้ว เพราะฉะนั้นเธอไม่ต้องการเห็นเก้าอี้รถเข็นตัวนี้อีก มันจะดีมากถ้าพี่ชายของเธอจับมันแยกส่วน เทียนจุนจัดการแยกส่วนเก้าอี้รถเข็นนั้นที่ละชิ้น ที่ละชิ้น จนกว่ามันจะถูกทำลายแบไม่เหลือชิ้นดี เขาถึงจะยอมหยุด
"เดี๋ยวพี่ค่อยเอามันไปทิ้งเอง ต่อไปนี้พวกเราไม่จำเป็นต้องใช้ของเน่า ๆ นี่แล้ว!" เทียนจุนพูดเสียงดัง ใบหน้าของเต็มไปด้วยความรู้สึกสะใจ!
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved