ตอนที่ 130

USB:บทที่ 130 ไอ้คนทะลึ่ง

ด้วยเป็นคำขอของเซี่ยเมิ่งเจียว ซูหยูโม่จึงไม่ปฏิเสธ เธอรู้ดีว่าเซี่ยเมิ่งเจียวคงจะเจ็บปวดมาในช่วงเวลานี้

ในตอนแรกเธอภูมิใจมาก แต่ในตอนนี้เธอเจ็บปวดมากและแน่นอนว่าเธอคงจะไม่สบายใจอย่างแน่นอน

ดังนั้นทั้งสองคนจึงยังไม่กลับเข้าบ้าน แต่พวกเขาสุ่มหาบาร์ตามรายทางที่ผ่านและเข้าไป

ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในบาร์ เซี่ยเมิ่งเจียวก็สั่งไวน์มาเป็นจำนวนมาก

ซูหยูโม่หัวเราะอย่างช่วยไม่ได้ แต่เธอก็เป็นเพื่อนนั่งดื่มกับเซี่ยเมิ่งเจียว แต่เธอก็ต้องบังคับตัวเองเป็นอย่างมากเพื่อที่จะไม่ให้ดื่มมากจนเกินไป

เมื่อซูหยูโม่เป็นเพื่อนเซี่ยเมิ่งเจียวดื่ม เธอไม่ได้สังเกตเห็นว่าฮวงเฟิงเองก็อยู่ภายในบริเวณบาร์แห่งนั้นเช่นกัน

พวกเขาทั้งสองคนอยู่ห่างกันค่อนข้างมากและที่บาร์แห่งนั้นก็มีผู้คนมากมาย ดังนั้นทั้งสองคนจึงไม่เจอกัน

ฮวงเฟิงเองก็ดื่มอยู่กันกัวเหลียงและโจวหรูหราน

ความหมายที่ซ่อนอยู่ภายในบทสนทนานั้นก็คือพวกเขาต้องการให้ทั้งสองคนรู้จักกันและกัน

ในเมื่อฮวงเฟิงรู้สึกได้ถึงจุดนี้ แน่นอนว่ากัวเมิ่งหานเองก็รู้สึกได้เช่นเดียวกัน

“ฉันขอไปห้องน้ำก่อนนะ พวกนายกินกันต่อเถอะ” ฮวงเฟิงตัดสินใจที่จะปลีกตัวไปจากกับดักของกัวเหลียงสักครู่

“เด็กน้อยเอ้ย” เมื่อเห็นว่าฮวงเฟิงกำลังพยายามที่จะหลบหนี กัวเหลียงก็พูดออกมาอย่างไม่พอใจ

“พอเถอะ เมิ่งหานก็อยู่ที่นี่ด้วยนะ” โจวหรูหรานพูดอย่างรวดเร็วกับแฟนหนุ่มของเธอ

“เมิ่งหาน ฉันจะบอกอะไรให้นะ ไอ้บ้าคนนี้มันเป็นคนดี และเธอเองก็ยังเป็นโสด เธอจะไม่พิจารณามันสักหน่อยหรือ?” กัวเหลียวกล่าว

“พี่กัว อย่าล้อฉันเล่นเลย” กัวเมิ่งหานกล่าวด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ

โจวหรูหรานมองดูกัวเหลียงและส่งสัญญาณไม่ให้เขาเชียร์เพื่อนมากเกินไป

คนทั้งสองคนควรที่จะตกลงใจกันเอง

ในท้ายที่สุด ไม่ว่าฮวงเฟิงและกัวเมิ่งหานจะคบหาดูใจกันหรือไม่ มันก็เป็นเรื่องของคนสองคน

กัวเหลียงเมื่อเห็นสัญญาณจากโจวหรูหราน จึงไม่ได้พูดอะไรต่อ

อีกด้านหนึ่งนั้น กัวเมิ่งหานก้มหน้าลงต่ำขณะที่เธอคิดเกี่ยวกับเรื่องราวของเธอ

ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้น ฮวงเฟิงตั้งใจที่จะไปเข้าห้องน้ำจริงๆ ไม่ใช่เพราะว่าไม่ชอบกัวเมิ่งหาน แต่ยิ่งกัวเหลียงพูดมากเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกกระอักกระอ่วนใจเขาจึงได้ปลีกตัวออกมา

ตอนนี้เขาและกัวเมิ่งหานมาพักอาศัยอยู่ในตึกเดียวกัน และยังห่างกันเพียงแค่ชั้นบนกับชั้นล่าง

เมื่อฮวงเฟิงออกมาจากห้องน้ำ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามา เธอรวบผมขึ้นไว้บนศรีษะและด้วยแสงไฟในห้องน้ำมันช่างริบหรี่ ทำให้ฮวงเฟิงไม่สามารถที่เห็นหน้าของเธอได้อย่างชัดเจน

อีกฝ่ายเองก็เห็นได้ชัดว่ากำลังจะเข้าห้องน้ำเช่นกัน และขณะที่ฮวงเฟิงกำลังจะหลีกทางให้แต่มันก็สายเกินไปเสียแล้ว เมื่ออีกฝ่ายได้อ้วกใส่ตัวของเขา

เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนั้นเมามาก

ฮวงเฟิงขมวดคิ้วขณะที่เขามองดูเสื้อผ้าที่เปรอะเปื้อนของเขา

ดูเหมือนว่าเขาจะถูกคนอื่นอ้วกใส่มาเยอะแล้ว ก่อนหน้านี้ก็คือซูหยูโม่ แล้วในตอนนี้ก็ยังเป็นผู้หญิงที่เขาไม่รู้จัก

หลังจากที่เธออ้วกใส่ฮวงเฟิงแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็ร่วงลงไปที่พื้น ถึงแม้ว่าฮวงเฟิงจะไม่พอใจที่อีกฝ่ายอ้วกใส่ แต่เขาก็ไม่ต้องการเห็นเธอร่วงลงไปกองกับพื้นเพราะอีกอย่างพื้นนั้นมันก็แข็ง

ฮวงเฟิงรีบประคองเธอขึ้นและบอกให้เธออยู่ห่างๆ จากกองอ้วก

“คนสวย คนสวย ตื่นสิ” ฮวงฟิงพยายามเขย่าผู้หญิงที่อยู่ในวงแขน

ดูเหมือนว่าเธอจะสะอื้นเล็กน้อย เมื่อเงยหน้าขึ้น เธอมองดูฮวงเฟิงด้วยความสงสัยบางอย่างและเมื่อเธอเห็นว่าเธออยู่ในอ้อมกอดของชายแปลกหน้า ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างขึั้นทันทีและเธอก็สติแตกเป็นอย่างมาก

จากนั้น ขณะที่เธอกำลังจะตบหน้าฮวงเฟิง ฮวงเฟิงก็ขมวดคิ้วและคลายอ้อมแขนแล้วคว้ามือของเธอเอาไว้ “คนสวย ทำไมคุณถึงจะตบผมอย่างไม่มีเหตุผลแบบนี้ล่ะ?”

“แก ไอ้คนทะลึ่ง ที่ฉันจะตบแกก็เป็นเพราะแกนั่นแหละ” เมื่อเห็นว่ามือของเธอนั้นถูกจับเอาไว้ สาวสวยจึงต้องการที่จะดิ้นให้หลดุ แต่ด้วยความแข็งแรงของฮวงเฟิงทำให้เธอไม่อาจทำได้ เธอติดอยู่แบบนั้นเป็นเวลานานแต่เธอก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้

“ไอ้สารเลย ปล่อยฉันนะ ไม่งั้นฉันจะร้องให้คนช่วย!” เมื่อเห็นว่าเธอไม่สามารถที่จะเป็นอิสระได้ สาวสวยจึงขู่ออกมาเสียงดัง

โชคดีที่ห้องน้ำนี้ค่อนข้างอยู่ในหลืบ จึงไม่มีใครสังเกตเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้านใน

“ทำไมคุณเป็นคนไม่มีเหตุผลแบบนี้ล่ะ?” “ข้อแรก คุณอ้วกใส่ผม แล้วผมเห็นว่าคุณกำลังจะล้มลงบนพื้นผมถึงได้ช่วยพยุงคุณขึ้นมา คุณไม่ขอบคุณผมแล้วยังจะมาตีผมอีก คุณนี่มันสถุลจริงๆ! ถ้าผมรู้ว่าจะเป็นแบบนี้นะ ผมปล่อยให้คุณร่วงลงไปตายซะก็ดี”

“แกกล้าเรียกฉันว่า สถุลงั้นเหรอ?” สาวสวยตะโกนใส่ฮวงเฟิง

“แล้วคุณไม่สถุลงั้นเหรอ?” ฮวงเฟิงตอบ

ความจริงแล้ว ในเวลานี้ สาวสวยจำได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เธอได้อ้วกใส่อีกฝ่ายจริงๆ และเมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าเธอกำลังจะล้มลงเขาจึงได้ช่วยพยุงเธอเอาไว้

แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเธอจะจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ แต่เธอก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแย่เมื่อฮวงเฟิงกอดเธอไว้ในอ้อมแขนและกำลังเอาเปรียบเธอ

ยิ่งไปกว่านั้นฮวงเฟิงยังด่าเธอว่าสถุล เพราะถึงแม้ว่าเธอเองจะหยาบคายกับเขาก่อนก็จริง แต่เธอก็ไม่ชอบให้คนอื่นมาพูดแบบนี้กับเธอ

“ฉันจะตีแกให้ตาย ไอ้คนทะลึ่ง!” สาวสวยกล่าวด้วยความโมโห

“นี่มันไม่มีเหตุผลเลยจริงๆ!” ฮวงเฟิงเองก็ขี้เกียจที่จะทะเลาะกับเธอ เขาจึงหันหลังกลับและเข้าไปในห้องน้ำเพื่อที่จะล้างตัว

“แก?” สาวสวยต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเห็นว่าฮวงเฟิงเพิกเฉยเธอจึงไม่ตอบโต้อะไรอีก

ยิ่งไปกว่านั้นเธอก็รู้สึกไม่ค่อยดีและราวกับว่าเธอกำลังจะอ้วกออกมาอีกครั้ง ดังนั้นเธอจึงรีบวิ่งตรงไปที่ห้องน้ำหญิงในทันที

เมื่อฮวงเฟิงกลับออกมาจากในห้องน้ำอีกคร้ง เขาก็ไม่เห็นผู้หญิงคนนั้นแล้ว เขาไม่สนใจและคิดเสียว่าเขาเจอคนบ้า

“เกิดอะไรขึ้นกับแกน่ะ? ทำไมเสื้อผ้าแกถึงได้เปียกอย่างนี้ล่ะ?” เมื่อฮวงเฟิงกลับเข้ามา เขาก็เปียกเป็นลูกหมาตกน้ำ

“ฉันไปเจอคนเมาแล้วมาอ้วกใส่ฉันน่ะ ฉันก็เลยไปล้างตัวมา” ฮวงเฟิงกล่าว

“แกนี่โชคไม่ดีเลยนะ ครั้งที่แล้วแกก็เจอเรื่องแบบนี้ที่ห้องน้ำ” กัวเหลียงเยาะเย้ยเขาอย่างไม่ใยดี

สำหรับโจวหรูหรานและกัวเหลียงคนทั้งคู่มองดูฮวงเฟิงพร้อมกับอมยิ้ม

เขาโชคไม่มีมากจริงๆ ฮวงเฟิงเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน

“เมิ่งเจียว กลับมาแล้วเหรอ? ทำไมเธอถึงไปเข้าห้องน้ำนานจังเลย?” ซูหยูโม่กล่าวกับเซี่ยเมิ่งเจียวที่เพิ่งจะกลับมา

ก่อนหน้านี้ เซี่ยเมิ่งเจียวบอกเธอว่าจะไปห้องน้ำแต่เมื่อเห็นว่าเธอเริ่มเมาซูหยูโม่ก็อาสาจะไปเป็นเพื่อน แต่เธอก็ปฏิเสธและยังออกตัวว่าเธอยังไม่เมา เพราะเธอไม่คิดว่าเธอจะหายไปนานขนาดนี้

“ฉันไปเจอไอ้ทะลึ่งคนหนึ่งมา ฉันกะว่าจะสั่งสอนมันสักหน่อย แต่กลายเป็นฉันเองที่ต้องวิ่งหนีมา” เธอพูดด้วยความโมโห

จริงๆ แล้วหลังจากที่เธอออกมาจากห้องน้ำแล้ว เธอยังไม่ได้กลับไปที่โต๊ะในทันที แต่รอฮวงเฟิงอยู่ที่ด้านนอก ใครจะไปรู้ว่าเธอรออยู่ตั้งนานแต่กลับไม่เห็นฮวงเฟิงออกมาจากห้องน้ำเลย?