ตอนที่ 648

USB:บทที่ 648 สงคราม

ฮวงเฟิงคิดไม่ผิด เรื่องที่กองทัพกบฏในเมืองใกล้เคียงได้รับล้วนเป็นเช่นนี้จริงๆ และคนที่ส่งข่าวให้พวกเขาคือผู้นำของกองทัพพันธมิตรที่หลบหนีหลังจากมณฑลเมยถูกทำลายในคืนนั้น คนพวกนี้ไม่ยอมจำนนต่อกองทัพจักรวรรดิและไม่ติดตามซูเผย และเลือกพึ่งพากองทัพพันธมิตรในพื้นที่ใกล้เคียง เหตุเพราะความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับซูเผยไม่ลงรอยกัน จึงคิดว่ายอมอยู่กับกองทัพพันธมิตรอื่นดีกว่าติดตามซูเผย

ส่วนเรื่องการมาถึงของคนเหล่านี้ ผู้นำกองทัพพันธมิตรรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก เพราะทำให้กองกำลังของเขาเพิ่มขึ้น จากนั้นเขาก็ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นในมณฑลเม่ย น่าเสียดายที่วันนั้น พวกเขาออกจากเมือง จึงไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นในวันถัดมา ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงไม่ทราบว่าในช่วงเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งวัน ผู้นำมณฑลเม่ยถูกเปลี่ยนแล้ว

เป็นเพราะคนเหล่านั้นได้ข่าวช้ามากจนทำให้ผู้นำกองทัพและนายพลบางคนคิดว่าซูเผยที่เป็นแม่ทัพของมณฑลหลี่ไร้ฝีมือและพ่ายแพ้ให้แก่มณฑลเม่ย และไม่มีแม้แต่กองทัพตะวันตกคอยควบคุม

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ รับเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะปราบศัตรู หากอีกฝ่ายไม่ซาบซึ้งในไมตรีที่พวกเขาหยิบยื่นให้และปฏิเสธข้อเสนอ พวกเขาก็ไม่ต้องโจมตีซูเผยเช่นนี้

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงมั่นใจ มีเพียงการกระทำของพวกเขาเท่านั้นที่ทำให้ผู้คนที่อยู่ฝั่งของซูเผยตกตะลึง และไม่รู้จริง ๆ ว่าอีกฝายไปนำความมั่นใจตั้งมากมายนี้มาจากที่ใด ข้อมูลที่ซูเผยได้รับก็ลดลงเช่นกัน ดังนั้นจำนวนคนที่เข้าร่วมกับพวกเขาจึงน้อยลง อย่างต่ำก็สองหมื่นคน!

แต่ถึงอย่างไร กองกำลังของทหารพันธมิตรมีไม่มากเท่ากองทัพของซูเผย แม้พวกเขาจะแยกจากกองทัพของผู้นำฉีอู่ แต่เมื่อได้ทำศึกกับกองทัพตะวันตกโดยมีฮวงเฟิงเป็นผู้นำทัพแล้ว ประสบการณ์ของพวกเขาก็เริ่มสั่งสมอีกทั้งจิตใจยังแข็งแกร่งขึ้นด้วย นอกจากนี้ อาวุทที่พวกเขามีนั้นดีกว่า ด้วยเหตุนี้ กองกำลังของกองทัพของซูเผยจึงแข็งแกร่งกว่าทหารพันธมิตรของเมืองใกล้เคียงอย่างมาก

เนื่องจากพวกเขามีเป้าหมายแล้ว ฝ่ายของซูเผยก็เริ่มเคลื่อนไหว เก็บข้าวของ เตรียมออกเดินทาง ขณะเดียวกันก็ส่งคนออกไปรวบรวมข่าวสารต่างๆ

เดิมทีฝ่ายของซูเผยไม่มีหน่วยสอดแนม ทว่าความต้องการของคนกองทัพที่อยากสร้างหน่วยสอดแนมมีมาก ไม่เพียงแต่พวกเขาต้องการบุคคลที่แข็งแกร่งเท่านั้น ยังต้องมีทักษะที่หลากหลายอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังจากเข้าร่วมกองทัพตะวันตก ซูเผยและคนอื่นๆ ก็รับคนสอดแนมมาจำนวนหนึ่ง คนสอดแนมเหล่านี้ล้วนมากจากกองทัพตะวันตก กองทัพจักรวรรดิมีผู้ที่ถูกฝึกมากเพื่อเป็นหน่วยสอดแนม และพวกเขาก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เทียบไม่ได้กับกองทัพกบฎหรือพวกไร้ประโยชน์ เพราะนี่เป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบของการเข้ายึดกองทัพตะวันตก

“ท่านต้องไปออกรบอีกแล้ว?”

ที่บ้านฮวงเฟิง หนิงอู๋ซวงเอ่ยถามพลางมองอีกฝ่ายด้วยความกังวล ตอนนี้นางเป็นที่รู้จักในหมู่ผู้หญิงที่มีชื่อเสยงในแวดวงตามเมืองต่างๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฮวงเฟิง และอีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะกิจการของนาง ที่นั่นมีเสื้อผ้าที่สวยงามและแปลกใหม่วางขายเสมอ หญิงสาวจากเมืองต่างๆจึงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหนิงอู๋ซวง และพวกนางก็ต้องการเสื้อผ้าสวยๆเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

เป็นผลให้หนิงอู๋ซวงมีแหล่งข่าวมากมาย

"ใช่" แม้ว่าเขาจะมีแหวนมิติ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนจำนวนมาก การใช้แหวนมิติจึงไม่สะดวกเท่าไหร่

เมื่อเห็นท่าทีกังวลของหนิงอู๋ซวง ฮวงเฟิงส่งมือไปจับไหล่ของนางและพูดว่า "ไม่ต้องห่วง ข้าไม่เป็นไร"

“ข้ารู้ว่าท่านเก่ง แต่ในสนามรบ ดาบและกระบี่ไม่มีตา ข้าเป็นห่วงท่านไม่ได้หรือ?” หนิงอู๋ซวงยังคงรู้สึกความกังวล

“ไม่ใช่อย่างนั้น แต่ดาบและกระบี่พวกนั้นทำอะไรข้าไม่ได้หรอก ข้าจะไม่เป็นอะไร เจ้าก็ตั้งใจดูแลกิจการอยู่ที่บ้านเข้าละ ข้าหวังว่ากลับมาแล้วจะเห็นเจ้าช่วยข้าหาเงินมาได้เยอะๆ” " ฮวงเฟิงกล่าว

"ข้าจะตั้งใจทำงาน" หนิงอู๋ซวงสัญญาว่า "ส่วนคุท่านก็ต้องระวังตัวด้วยละ"

หนิงอู๋ซวงรู้ว่าฮวงเฟิงเป็นนายพลระดับสูงประจำกองทัพ เขาจึงมีหน้าที่ในสงครามครั้งนี้ ดังนั้น แม้ว่านางจะเป็นห่วง แต่ก็ทราบดีว่านางไม่สามารถหยุดเขาได้ นางจึงไม่พูดอะไรอีก

ขณะที่ซูเผยกำลังเตรียมทัพและพร้อมออกเดินทาง อีกด้านหนึ่ง ตัวแทนได้นำความเห็นของซูเผยกลับไปยังเมืองใกล้เคียง และทันทีที่ทหารระดับสูงของกองทัพกบฏทราบเรื่องนี้ พวกเขาก็รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก

กองทัพพันธมิตรเพิ่งเข้ายึดเมืองได้ไม่นานก็ปีกกล้าขาแข็ง นอกจากนี้ยังมีทหารที่แยกจากผู้นำฉีอู่มาเข้าร่วมกองทัพ ตอนนี้พวกเขามั่นใจมากจนไม่เห็นผู้กอบกูโลกอยู่ในสายตาแล้ว!

ที่พวกเขาไปหาซูเผยเป็นเพราะพวกเขาต้องการขยายกองทัพเช่นกัน ซูเผยเป็นกระดูกที่ดีที่สุดในสายตาของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงเพ่งเล็งไปที่ซูเผยและพวกพ้อง พวกเขาไม่เคยคิดที่จะไม่เปิดศึก ในความเห็นของพวกเขา ตราบใดที่อีกฝ่ายไม่ได้ยืนหยัดเคียงข้างพวกเขาก็ล้วนเป็นศัตรูทั้งสิ้น

หลังจากตัวแทนนำสารจากซูเผยมารายงาน พวกเขาก็บุกไปยังมณฑลหลี่โดยมีแม่ทัพใหญ่เป็นผู้นำทัพ ทหารในกองทัพพันธมิตรจำนานมากต้องการโจมตีมณฑลหลี่ ดังนั้นพวกเขาจึงได้เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทาง

เมื่อฮวงเฟิงและคนอื่นพร้อม กองทัพอีกฝ่าย ออกจากเมืองไปแล้ว

"ออกเดินทาง!" กองทัพหลี่ของเขา ภายใต้สายตาห่วงใยจากหนิงอู๋ซวงและซูเผย ฮวงเฟิงนำกองทัพออกเดินทาง

ศึกครั้งนี้ซูเผยไม่ได้ตามไปด้วย ในสายตาของนายพลหลายท่าน ศึกนี้ ท่านผู้นำไม่จำเป็นต้องไปด้วยตนเอง เพราะถึงซูเผยตามไปเท่ากับประเมินอีกฝ่ายสูงไป ดังนั้นผู้ที่นำทัพครั้งนี้จึงเป็นฮวงเฟิง

ก่อนที่ฮวงเฟิงจะมายังโลกนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ต่อสู้ในสงครามในฐานะผู้บัญชาการ แม้เขาจะไม่เคยกินหมูแต่เคยเห็นหมูวิ่ง เพราะในชีวิตจริงยังมีภาพยนตร์สงครามทุกรูปแบบออกอากาศทางโทรทัศน์

ดังนั้น ไม่เพียงแต่กองทัพจะเคลื่อนพล ฮวงเฟิงได้ส่งคนสอดแนมออกไปรวบรวมข้อมูลก่อนออกทัพแล้ว

ไม่นานนักหน่วยสอดแนมก็ส่งข่าวกลับมา และเขาก็รู้สึกตื่นเต้นมาก กองทัพพันธมิตรของเมืองใกล้เคียงเคลื่อนพลออกจากเมืองไปครึ่งทางแล้ว แต่กองทัพศัตรูขาดระเบียบและการจัดการที่ดี ไม่รีบร้อนเคลื่อนพลและไม่ได้ส่งคนมาสอดแนมแม้แต่คนเดียว