ตอนที่ 347

USB:บทที่ 347 บิน

ใบหน้าของหลี่ปิงอวิ๋นถึงกับซีดเผือดเนื่องจากเธอเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเต็มสองตา หลังเกิดเรื่องนั้นต่อให้คนที่อยู่ในรถไม่ถึงกับเสียชีวิตแต่ก็ต้องบาดเจ็บสาหัสแน่นอน

แน่นอนว่าเขาคนนั้นไม่สามารถขับรถต่อได้ และนั่นก็หมายความว่า ความหวังที่เธอจะรอดกลับไปได้หายไปในพริบตา

แต่หลี่ปิงอวิ๋นไม่ได้ห่วงแค่ความปลอดภัยของตัวเองเท่านั้น เธอยังเป็นห่วงคนที่อยู่ในรถคันนั้นอีกด้วย อีกฝ่ายต้องมาพบเจอกับเรื่องแบบนี้เพียงเพราะต้องการช่วยชีวิตเธอ

ดังนั้นไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร เธอก็จะรู้สึกขอบคุณและรู้สึกผิดต่อเขาคนนั้น

"ฉันหวังว่าคุณจะปลอดภัย..." หลี่ปิงอวิ๋นได้แต่ภาวนาให้บุคคลปริศนาปลอดภัย

ฮวงเฟิงยังคงไหวอยู่ แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บไม่น้อย แต่มันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหวของเขา

นอกจากนี้เขายังมีกำลังภายในไหลเวียนอยู่ในร่างกาย แม้ว่าพลังจะไม่มีประสิทธิภาพดีเท่ากับตอนที่เขาโคจรพลัง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังช่วยฟื้นฟูร่างกายของเขาได้บ้าง

ในตอนนี้ ฮวงเฟิงสามารถควบคุมร่างกายและเหาะเหินอยู่กลางอากาศ ถึงแม้จะมีแสงไฟตามข้างทาง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีบางจุดที่เป็นมุมมืดตามข้างทาง ฮวงเฟิงจึงเหาะไปตามทางที่ไม่มีแสงไฟส่องถึง

ก่อนหน้านี้ฮวงเฟิงไม่รู้ว่าตนนั้นสามารถเหาะได้สูงเท่าไหร่ เขาจึงตัดสินใจบินให้สูงและเร็วขึ้น ทว่าฮวงเฟิงกลับคิดได้ว่าตนนั้นไม่ได้ถูกจำกัดความสูงในการบิน

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเหาะสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ภาพรถราบนถนนที่เห็นจึงมีขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ

"ไม่จำกัดความสูงอย่างนั้นเหรอ?" ฮวงเฟิงแอบสงสัย แต่ก็ไม่มีเวลามากพอมานั่งทดลองต่อ เขาจึงเหาะขึ้นไปให้อยู่ในระดับที่สูงกว่ามุมกล้อง เพื่อไม่ให้กล้องตามท้องถนนหรือเรดาร์ตรวจจับได้ เขาถูกจัดให้เป็นสิ่งที่บินได้แบบที่ไม่มีชื่อเรียก

จากนั้น ฮวงเฟิงก็ควบคุมร่างกายให้พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ได้ยินเสียงลมพัดเข้าหูอย่างต่อเนื่อง และเสื้อผ้าของเขาก็ปลิวไสวตามแรงลม

"เร็ว.. เร็วอีกนิด" ฮวงเฟิงมีความสุขกับการบินสูงจากพื้นดินมาก นี่เป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยรู้สึกในตอนที่อยู่บนพื้นดิน

ความเร็วของฮวงเฟิงรวดเร็วและว่องไวมาก แม้ว่ามันจะไม่ได้ระบุข้อมูล แต่ความเร็วของเขาจะต้องเร็วกว่ารถที่กำลังเคลื่อนที่อยู่ข้างล่าง แถมความเร็วของเขายังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

"ไม่ต่างจากเครื่องบินรบเลยแหะ" ฮวงเฟิงว่า แต่นอกจากความเร็วที่เพิ่มขึ้นแล้ว เขายังบินได้สูงขึ้นอีกฝ่าย เขารู้สึกว่าตัวเองบินได้ แต่มีอิสระในการบินมากกว่าการบินโดยเครื่องบิน

ทว่าจู่ๆฮวงเฟิงก็รู้สึกว่าพลังงานในร่างกายเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง และยิ่งเขาบินเร็วมากขึ้น พลังของเขาก็จะถูกใช้ไปมากขึ้นเท่านั้น นี่คือข้อจำกัดที่ฮวงเฟิงบินต่อเนื่องโดยไม่หยุดพัก

แต่แน่นอนว่ากำลังภายในและพลังเวทของฮวงเฟิงก็สามารถฟื้นฟูได้ในเวลาเดียวกัน วิธีนี้ทำให้เขาเพิ่มเวลาในการเหาะเหินกลางอากาศได้

ฮวงเฟิงเหาะไปตามถนน หลังจากมองหาตามท้องถนน ในที่สุดเขาก็พบกับรถคันที่ลักพาตัวหลี่ปิงอวิ๋นไป จากนั้นเขาก็ควบคุมความเร็วและติดตามอีกฝ่ายไป

ส่วนทั้งสามคนที่อยู่ในรถบนพื้นดิน ไม่มีใครรู้ว่ามีใครบางคนกำลังติดตามพวกเขาอยู่บนท้องฟ้า เพราะพวกเขาไม่เชื่อในสิ่งที่เหนือธรรมชาติ

"เอ๊ะ พวกมันขับออกนอกทางแล้ว" ฮวงเฟิงเห็นว่ารถที่อยู่บนพื้นดินได้ออกจากทางหลังและขับไปตามถนนแคบๆเส้นหนึ่งที่มืดสนิท หากไม่มีไฟหน้ารถ ฮวงเฟิงก็ไม่มั่นใจเช่นกันว่าเขาจะระบุตำแหน่งที่แน่ชัดของอีกฝ่ายได้

หลังจากเวลาผ่านไป ฮวงเฟิงก็เห็นว่าอีกฝ่ายหยุดรถที่ทะเลสาบแห่งหนึ่ง

ฮวงเฟิงหยุดมองสภาพแวดล้อมรอบๆ นอกจากทะเลสาบก็มีเพียงป่าทึบ สภาพแวดล้อมที่มืดสนิทแบบนี้ทำให้ซ่อนตัวได้อย่างง่ายดาย

ฮวงเฟิงควบคุมร่างกายและลดระดับการบินให้ต่ำลงเล็กน้อย หากไม่มีคนเฝ้ายามที่นี่ ฮวงเฟิงก็ไม่จำเป็นต้องกลัวว่าจะถูกใครจับได้

จากนั้น ฮวงเฟิงก็สังเกตเห็นว่ามีคนลงจากรถสามคน สองคนเป็นผู้ชายที่เขาเห็นที่โรงแรมก่อนหน้านี้และคนสุดท้ายที่ลงจากรถเป็นผู้หญิง และเธอคนนั้นก็คือหลี่ปิงอวิ๋น!

หลี่ปิงหยุนตื่นแล้วและขณะนั้นเองอีกฝ่ายก็สะกิดเธอเพื่อให้เธอเดินไปที่กระท่อมหลังหนึ่ง

“เธออยู่ตรงนั้น!” ในที่สุดฮวงเฟิงก็หาหลี่ปิงอวิ๋นพบ

เมื่อเห็นทั้งสามเข้าไปในกระท่อม ฮวงเฟิงก็ค่อยๆบินลงต่ำไปที่กระท่อม และสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นภายในกระท่อมอย่างระมัดระวัง

"พวกนั้นยังมาไม่ถึงเลย" ทหารคนหนึ่งพูดขึ้น แต่เพราะอีกฝ่ายพูดภาษาอังกฤษ และภาษาอังกฤษของฮวงเฟิงอยู่ที่ระดับ 4 เท่านั้น ยังไม่ถึงระดับ 6 เขาเลยไม่เข้าใจที่คนในห้องคุยกัน ต่างจากหลี่ปิงอวิ๋นที่เข้าใจในสิ่งที่คนพวกนั้นพูดทุกอย่าง

“พวกนั้นน่าจะมีธุระ” ทหารอีกคนกล่าว

“ถ้างั้นก็รอไปก่อนก็แล้วกัน” ทหารรับจ้างจากที่ก่อนหน้านี้พูดว่า "แม่งเอ้ย! สภาพแวดล้อมที่นี่ห่วยแตกสุดๆ ยุงเยอะชะมัด!"

มีทั้งต้นไม้ ต้นหญ้าแล้วก็ยุงทุกชนิด โดยเฉพาะตอนนี้เป็นตอนกลางคืน แถวยังอยู่ในช่วงฤดูร้อน จึงไม่แปลกที่จะมียุงเต็มไปหมด

อย่างไรก็ตามทั้งสองเคยอาศัยในสภาพแวดล้อมทุกรูปแบบ และที่แย่กว่านั้นคือทั้งสองเคยประสบกับสถานการณ์ทุกประเภทเช่นกัน ดังนั้นเขาถึงทำได้แค่บ่นเท่านั้น เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เป็นสิ่งที่พวกเขาทนได้อยู่แล้ว

ทหารทั้งสองนั่งบนเก้าอี้ ในขณะที่หลี่ปิงอวิ๋นนั่งอยู่มุมห้องอย่างไม่สบอารมณ์ แม้ว่าจนถึงตอนนี้ทั้งสองยังไม่ได้ทำอะไรเกินเลยกับเธอ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าอีกฝ่ายเป็นคนดีมากพอที่จะปล่อยตัวเธอไป

ในทางตรงกันข้าม หากอีกฝ่ายยังไม่บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทั้งหมดที่พวกเขาทำมาก็จะสูญเปล่า

เป้าหมายนั้นเดาได้ไม่ยาก ซึ่งก็คือพี่ชายของเธอนั่นเอง ดังนั้นนอกจากหลี่ปิงอวิ๋นจะเป็นห่วงชะตากรรมของตัวเองแล้ว เธอยังเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของพี่ชายของเธออีกด้วย

เธอได้แต่หวังว่าพี่ชายของเธอจะมาช่วยชีวิต แต่ก็หวังว่าเขาจะไม่ปรากฎตัวที่นี่เช่นกัน

ฮวงเฟิงรออยู่ด้านนอกห้องครู่หนึ่งก็เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดอย่างแจ่มแจ้ง ตอนนี้เขามีศัตรูเพียงแค่สองคน แต่หลังจากนี้ก็ไม่มั่นใจว่าจะมีกำลังเสริมมาอีกไหม เพราะฉะนั้นเขาต้องรีบลงมือโดยเร็วที่สุด

ในขณะที่ฮวงเฟิงกำลังจะขยับตัว หนึ่งในสองทหารก็เดินออกมานอกห้อง ไม่ว่าจุดประสงค์ของอีกฝ่ายจะเป็นยิงกระต่ายหรือออกมาดูว่ามีคนอื่นอยู่อีกไหมก็ทำให้การเคลื่อนไหวของฮวงเฟิงถึงกับหยุดชะงัก เขาหยุดรอให้คนๆนั้นเดินออกไปก่อน

ส่วนทหารที่เพิ่งออกมาด้านนอก เขาไม่คิดว่าจะมีตัวอันตรายที่ไหนโผล่มาอีก เพราะเขาคิดว่าตั้งแต่ที่จัดการรถคันที่ตามมาได้สำเร็จก็เท่ากับว่าพวกเขาได้กำจัดเสี้ยนหนามไปแล้ว