ตอนที่ 658

USB:บทที่ 658 จบสงคราม

แม้ว่าฮวงเฟิงรวมถึงซูเผยและคนอื่นๆ ได้วางแผนที่จะขยายกองกำลังในตอนแรก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะต้องขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ท้ายที่สุด คนที่ต่อสู้ในสนามรบคือคนธรรมดาและพวกเขาก็เหนื่อยเป็น พวกเขาทุกคนล้วนรู้สึกเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ ดังนั้น เป้าหมายของฮวงเฟิงและคนอื่นๆ ยังคงการขยายกองลังอย่างต่อเนื่อง แต่ในระหว่างนี้ พวกเขาสามารถพักผ่อนได้

แต่ตอนนี้พวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่เมืองทั้งเมืองถูกล้อม สภาพแวดล้อมของพวกเขาปลอดภัยมากกว่าเดิม กองกำลังของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อย จำนวนเมืองและกำลังคนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้พวกเขาต้องแบ่งคนทั้งหมดออกเป็นกลุ่มย่อย โดยเฉพาะสงครามที่ฮวงเฟิงได้ทำศึก ทุกคนถูกเขาจับมา แม้ว่าเขาจะจับคนบางส่วนมาระหว่างทาง แต่ก็ยังมีอีกหลายเมืองที่เขาไม่ได้ทำสงครามด้วย

นอกจากนี้ เมืองที่พวกเขายึดครองจะต้องส่งคนไปสนับสนุนกองทัพ มันจึงใช้ทั้งเวลาและความอดทน

ในเวลานี้ คนที่มีความสุขที่สุดจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพ่อค้าที่สนับสนุนซูเผยมาตั้งแต่แรก และตระกูลใหญ่บางตระกูลในภูมิภาคนี้ ยิ่งซูเผยครอบครองเมืองได้มากเท่าไหร่ อำนาจของพวกเขาก็จะมากขึ้นเท่านั้น

คนในตระกูลเหล่านี้ไม่ได้คาดหวังว่าซูเผยจะขยายกองกำลังได้แข็งแกร่งและรวดเร็ว ในช่วงเวลาสั้นๆ เช่นนี้ เขาได้ยึดเมืองไปหลายเมืองแล้ว

และในขณะเดียวกันก็ยังช่วยให้คนเหล่านี้รู้ความสามารถของฮวงเฟิง ทางเข้าบ้านของฮวงเฟิงเกือบพังลงมาเนื่องจากผู้คนมากมายต้องการมาหาเขาและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

กิจการของฮวงเฟิงก็รุ่งเรืองมากพอๆกับตัวตนของเขาเอง ด้วยความช่วยเหลือจากซูเผยทำให้ร้านของเขาพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้ฮวงเฟิงและหนิงอู๋ซวงสามารถยืนหยัดอย่างมั่นคงในการค้าผ้า ในเวลาเดียวกัน พวกเขาได้รับการขนานนามมากขึ้นเรื่อยๆ

แต่อย่างไรก็ตาม ฮวงเฟิงยังรู้สึกไม่พอใจ เขายังต้องการเงิน ยิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งดี ถึงตอนนั้น นอกจากเขาจะนำมันกลับไปได้ด้วยแล้วยังสามารถแลกเปลี่ยนสิ่งของที่ใช้ประโยชนได้ในเวลาคับขันอีกด้วย

ด้วยเหตุนี้ ตราบใดที่กองทัพกบฏยังไม่เคลื่อนไหว เขาก็จะมุ่งความสนใจไปที่กิจการของเขา

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ในมิตินี้ ฮวงเฟิงเหลือเวลาน้อยลงเรื่อยๆ ภายใต้การชี้นำของเขา กองทัพพันธมิตร หลังจากการปฏิรูป ยังคงขยายอำนาจต่อไป และในเวลานี้ กองกำลังของกองทัพพันธมิตรนั้นแข็งแกร่งกว่าเดิมมาก แม้แต่ในกองทัพพันธมิตรทั้งหมด พวกเขาถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสามกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุด

แน่นอนว่าแรงกดดันจากจักรวรรดิที่พวกเขาได้รับนั้นเพิ่มขึ้นตามไปด้วย มักจะมีสิ่งต่าง ๆ เช่นการยิงนกเป็นต้น แต่โชคดีที่ฮวงเฟิงเป็นผู้มีความสามารถ เขาสามารถนำกองทัพกบฏไปหลบที่ปลอดภัยได้

อย่างน้อยที่สุด ในตอนที่ฮวงเฟิงไปถึง แม้ว่าเขาจะนำกองทัพไปยึดเมืองต่างๆ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถโค่นกองทัพจักรพรรดิได้ แม้ว่าจักรพรรดิจะอยู่ในสภาพเสื่อมโทรม แต่พวกเขาก็ยังยืนหยัดได้

ราชสำนักยังคงอยู่ที่นั่น แต่ฮวงเฟิงต้องไปแล้ว ยังดีที่พอได้พูดคุยกับซูเผยก่อนหน้านี้ เขาก็สามารถพาซุนเหลียงไปกับเขาและถ่ายทอดความรู้ให้เขาได้ ความจริง ฮวงเฟิงไม่ได้มีประสบการณ์โชกโชนมาตั้งแต่ต้น เขาจึงไม่ได้ดีไปกว่าซุนเหลียงมากนัก

แม้ว่าซุนเหลียงไม่รู้ว่าทำไมฮวงเฟิงถึงต้องทำเช่นนั้น แต่เขาก็ดีใจมากที่ได้ศึกษาสิ่งต่างๆ จากฮวงเฟิง

ดังนั้นเมื่อฮวงเฟิงกำลังจะจากไป แม้ว่าซุนเหลียงจะยังไม่เก่งเท่าเขาก่อนหน้านี้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็มีมีความสามารถในการรบ และไม่มีทางที่คนธรรมดาจะต่อกรกับเขาได้ ส่วนในเรื่องอื่น ซุนเหลียงยืนอยู่ไม่ไกลจากฮวงเฟิง และมันจะไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขาในการรับช่วงต่อจากฮวงเฟิงในตอนนี้

“ท่านต้องไปจริงๆ เหรอ” ซูเผยกล่าวขณะมองฮวงเฟิงด้วยแววตาซับซ้อน

แม้ว่าซูเผยจะคิดเสมอว่าเขาต้องอดทน แต่หลังจากที่ฮวงเฟิงรบชนะมากขึ้นเรื่อยๆ ชื่อเสียงของเขาในกองทัพก็เพิ่มขึ้นมาก แม้ในใจเขาจะรู้สึกสับสนเล็กน้อย เขาอยากให้ฮวงเฟิงจะนำทัพรบชนะทุกสมรภูมิ แต่เขาก็ยังอยากให้ฮวงเฟิงรบแพ้สักครั้ง เพื่อที่เขาจะใช้ประโยชน์จากชื่อเสียงของอีกฝ่าย

แต่ถึงอย่างไร ฮวงเฟิงยังคงเคารพเขาเสมอและไม่เคยคิดร้ายกับเขา ตอนที่ฮวงเฟิงได้พูดคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว อีกฝ่ายบอกเขามาตามตรงว่าเขาจะอยู่ในกองทัพเพียงปีเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็จะไปจากที่นี่

แม้ตอนนั้นซูเผยจะถามเขาว่าทำไม ฮวงเฟิงก็ไม่ได้ตอบเขา เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ ฮวงเฟิงใช้เวลาทั้งหมดไปกับการขยายกิจการและไม่เคยคิดเรื่องอำนาจ

สิ่งนี้ทำให้ฮวงเฟิงหมดห่วงเมื่อต้องออกไปรบ อีกทั้งซูเผยเกือบลืมไปเรื่องที่ฮวงเฟิงต้องไปจากที่นี่เช่นกัน หรือบางทีเขาอาจจำได้เพียงแต่ต้องการแกล้งฮวงเฟิงเท่านั้น

“ปีที่แล้ว ข้าบอกท่านว่าข้าจะจากไปเมื่อถึงเวลา” ฮวงเฟิงกล่าวด้วยท่าทางสงบ เขาไม่รู้สึกเสียใจหรือโศกเศร้าที่ต้องสละตำแหน่งแม้แต่น้อย

“ข้าคิดว่าท่านล้อเล่น” ซูเผยกล่าว "เช่นนั้นท่านบอกข้าได้หรือไม่ว่าท่านจะไปที่ไหน เพราะอะไร หากมีอะไรที่ข้าสามารถช่วยได้ เพียงแค่บอกมา ข้ายินดีช่วยสุดความสามรถ!"

ในใจของซูเผยเขารู้สึกขอบคุณฮวงเฟิงอย่างยิ่ง ไม่ใช่เพียงเพราะฮวงเฟิงช่วยเขาไว้ในตอนแรก ฮวงเฟิงยังนำกองทัพไปรบชนะอีกด้วย ทำให้ดินแดนของเขาขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และเขาก็ไม่ใช่ลูกปลาที่อาศัยอยู่ได้ทั้งบนบกและในน้ำ เขาเป็นถึงแม่ทัพที่สามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ได้ ซูเผยเชื่อว่าตราบใดที่ฮวงเฟิงช่วยเหลือเขาอีกสองสามปี เขาก็จะกลายเป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในโลก

และที่สำคัญกว่านั้น แม้ว่าชื่อเสียงของฮวงเฟิงจะโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ แต่เขาไม่เคยแสดงว่าเขาปรานาในอำนาจเลยสักครั้ง สิ่งนี้ทำให้ซูเผยรู้สึกโล่งใจและพอใจมาก

“ข้าทำเพื่อตัวข้าเอง ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็ต้องไปจากที่นี่” ฮวงเฟิงกล่าว มันเป็นกฎของกล่องจักรวาล เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไปจากที่นี่ แม้ว่าตัวเขายังลังเลเล็กน้อยที่จะแยกกับทุกคนที่อยู่ที่นี่ เพราะเขาเองก็คุ้นเคยกับทหารของกองทัพและได้เป็นเพื่อนกับพวกเขา