ตอนที่ 505

USB:บทที่ 505 คนทรยศ (3)

ถ้าหากเป็นช่วงสองสามวันก่อนหน้านี้ ศาสตราจารย์เนียลคงไม่เชื่อคำพูดที่ของเจสซี่ และคงจะรายงานเรื่องของเธอไปแล้ว ศาสตราจารย์ลูบแผลเป็นบนใบหน้า คงได้รับประสบการณ์โดยตรงกับความโหดร้ายของบูด๊าซ เพย์ตัน อีกทั้งเมื่อก่อนเขายังนับถือบูด๊าซอย่างมาก ถ้าหากเขาทำงานไม่สำเร็จป่านนี้คงกลายเป็นศัตรูกับตระกูลเพย์ตันไปแล้ว ในขณะเดียวกันศาสตราจารย์เนียลยังรู้สึกวิตกกับโชคะตาของตัวเอง ถ้าหากเขาไม่อาจทำงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วง บูด๊าซคงคิดว่าเขาเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ บวกกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ อีกฝ่ายคงไม่วันปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไป เมื่อคิดคิดถึงเรื่องราวที่นี่ ศาสตราจารย์เนียล ผู้ซึ่เคยรู้สึกยินดีที่สามารถรอดพ้นจากภัยพิบัติมาได้นั้น จู่ ๆ ความหวาดกลัวก็เล่นขึ้นมาจับขั้วหัวใจเขาอีกครั้ง

"ขอบคุณมากค่ะ ศาสตราจารย์เนียล ขอบคุณจริง ๆ ที่เข้าใจ" ดูเหมือนศาสตราจารย์เจสซี่จะลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก จากนั้นเธอยังพูดต่ออีกว่า "ศาสตราจารย์เนียลค่ะ ในฐานะที่เราเป็นเพื่อนร่วมงานกัน ฉันขอเตือนคุณ มันจะดีกว่าถ้าคุณคิดวางแผนไว้ล่วงหน้า ต่อให้คุณไม่คิดที่จะทรยศต่อตระกูลเพย์ตัน อย่างน้อยคุณก็ควรจะหาทางออกไปสำหรับตัวคุณเองไว้บ้าง"

สำหรับความหวังดีของเจสซี่นั้น ถ้าจะพูดกันตามความจริงแล้วละก็ พวกเขาเพิ่งรู้จักกันไม่นาน ถึงแม้ว่ามันจะน่าสัยที่เธออุทิศหัวใจและจิตวิญญาณทั้งหมดของเธอให้กับเขา อย่างไรก็ตามเนียลก็ยังคงคิดว่าทั้งหมดเพียงเพราะเจสซี่ชื่นชมเขา และนั่นทำให้เธอรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยเขา เมื่อคิดถึงจุดนี้ทำให้เขาไม่รู้สงสัยในความหวังดีของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย เมื่อเห็นว่าเจสซี่กำลังจะเดินจากไปเมื่อเธอพูดจบลง ท่าทีของเนียลดูลังเลใจ แต่สุดท้ายแล้ว เขาก็คว้าแขนของเจสซี่เอาไว้เมื่อตัดสินใจได้แล้ว เจสซี่จ้องเขาอย่างสงสัยอยู่ในที เนียลจึงเอ่ยถามด้วยเสียงอันแผ่วเบา "คุณได้ติดต่อตระกูลเฟยไว้แล้วใช่ไหม?"

ตระกูลที่ได้รับความเชื่อถือและมีอิทธิพลในเมืองนี้ เมื่อเทียบกับตระกูลเพย์ตันและชอว์ตันแล้วละก็ แน่นอนว่าไม่มีตระกูลใดที่สามารถเทียบกับพวกเขาได้ อย่างไรก็ตามตระกูลเฟยของพวกเขาก็ยังมีกิตศัพท์ที่ดีกว่าทั้งสองตระกูลดังกล่าว

"เอ่อ พวกเขาดีใจมากที่ฉันยอมทำงานให้กับพวกเขา น่าเสียดาย ถ้าเป็นคุณศาสตราจารย์ ที่นั่นคุณคงได้เป็นถึงซุปเปอรไวเซอร์" ศาสตราจารย์เจสซี่พูด

ดวงตาของศาสตราจารย์เปิดกว้างขึ้นทันทีเมื่อได้ยินดังนั้น "ถ้าหากผมไป พวกเขาจะยินดีต้อนรับผมเหรอครับ?"

"เป็นไปได้ไง!" เจสซี่ทำท่าทางเหมือนไม่อยากเชื่อหูตัวเอง "ศาสตราจารย์แบบคุณสามารถไปทำงานให้กับพวกเขาได้ คือสิ่งที่พวกเขาต้องการ ศาสตราจาร์เนียล ถ้าหากคุณคิดจะไปฉันติดต่อพวกเขาให้คุณได้น่ะค่ะ"

เนียลพยักหน้า "ครับ ตอนนี้ผมเองก็รู้สึกว่าตระกูลเพย์ตันค่อนข้างอันตราย ดังผมก็อยากจะออกไปจากที่นี่เหมือนกัน"

"เยี่ยมมาก ตระกูลเฟยจะต้องยินดีต้อนรับคุณแน่" เจสซี่กล่าวขึ้นอย่างปลื้มปีติ

นอกจากเขาจะเคยทรยศต่อตระกูลหนึ่งไปแล้ว (เขาคิดว่าเธอคงไม่รู้) แล้วตอนนี้เขากำลังจะทรยศอีกตระกูล การที่จะขอให้ตระกูลเฟยยอมรับเขานั้นค่อนข้างเป็นไปได้ยาก เมื่อคิดถึงจุดนี้ เขาก็หวนนึกไปถึงเรื่องที่เจสซีเคยพูดเอาไว้ ถ้าหากเขาสามารถพาอะไรออกไปได้ด้วย เชื่อว่าอีกฝ่ายต้องยอมรับเขาแน่นอน หากสิ่งนั้นมีค่าสูงพอ นอกจากนั้นแล้วด้วยตำแหน่งหน้าที่ของเขาสามารถจัดการเรื่องได้โดยไม่มีปัญหา ยิ่งครุ่นคิดมากเท่าไหร่ศาสตราจารย์เนียลยิ่งร้อนรนมากยิ่งขึ้น "ศาสตราจารย์เจสซี่ คุณบอกว่าคุณจะพาบางอย่างออกไปด้วย ผมสงสัยว่าคุณคงได้มันแล้ว?"

"ยังเลยค่ะ" เจสซี่ตอบ "ของสิ่งนั้นจะเอามาได้ง่าย ๆ ได้อย่างไรคะ?"

"ดี งั้นเรามาคิดหาทางกัน เวลาของพวกเราสองคนมาถึงแล้ว คุณคิดว่าไงครับ?" เขาไม่อาจลืมคำพูดของเจสซี่ได้ มันทำให้เขาได้คิด ดังนั้นเขาจึงต้องการออกไปจากที่นี่พร้อมกับเธอ เมื่อถึงเวลานั้นตระกูลเฟยจะต้องยอมรับพวกเขา

"แน่นอนค่ะ" เจสซี่เห็นด้วยโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด "ฉันมีเป้าหมายอยู่แล้ว บวกกับความช่วยเหลือของศาสตราจารย์เนียล แน่นอนว่ามันจะต้องง่ายขึ้น"

"มันคืออะไรครับ?" ศาสตราจารย์ไม่ได้แปลกใจเลยที่อีกฝ่ายหนึ่งมีเป้าหมายในใจอยู่แล้ว นอกจากนั้นเขาก็คิดไว้อยู่แล้ว การมีเป้าหมายไม่ใช่เรื่องแปลก แต่สิ่งที่เขาเป็นห่วงนั่นคือสิ่งที่อีกฝ่ายได้เลือกไว้

"ของขวัญชั้นดี" ต่างรู้กันดีว่า เรื่องนี้จะต้องมีผลกระทบโดยตรงต่อตระกูลเฟย

"ข้อมูลรถแบบใหม่ของตระกูลเพย์ตัน!" เจสซี่กล่าว ดวงตาของเธอเกิดเป็นแสงวาววับขึ้น

ส่วนอีกทางด้านหนึ่ง ฮวงเฟิงยังคงคอยเฝ้าสังเกตรอบ ๆ ห้องจัดเลี้ยง ถึงแม้ว่าจะมีรอบตัวเขาจะมีบางคนสังเกตเขาอยู่บ้าง นั่นคงเป็นเพราะมีผู้คนมากมายเข้าร่วมงาน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ดังนั้นจึงไม่มีใครคอยสงสัยฐานะของฮวงเฟิง เขาไม่ได้เดินเตร็ดเตร่ไปทั่วบริเวณงานเลี้ยง หากคอยสังเกตการณ์อยู่ไม่ไกลจากแพนเดส

เนื่องจากตอนนี้เขาจดจ่ออยู่กับนวัตกรรรมรถยนต์ใหม่ของตระกูลเพย์ตัน บนโลกใบนี้มลพิษที่เกิดจากท่อไอเสียรถยนต์นั้นค่อนข้างวิกฤต ถึงแม้ว่าจะมีรถยนต์ไฟฟ้าผลิตออกมาใช้บ้างแล้ว แต่ก็ยังคงมีรถยนต์ที่ขับเคลื่อนโดยการเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิงอยู่จำนวนมาก ถ้าหากเขาสามารถผลิตรถยนต์ที่ก่อให้เกิดมลพิษเกือบเป็นศูนย์ได้ ถึงแม้ว่าการขับเคลื่อนนั้นจะช้าสักนิด แต่ผลประกอบการทางตลาดก็น่าเป็นที่พอใจ อย่างไรก็ตามการที่จะได้ข้อมูลดังกล่าวนั้นมาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เขาไม่รู้เลยว่าตอนนี้ข้อมูลการวิจัยนั่นอยู่ไหน อีกทั้งยังไม่คุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมของที่นี่อีกด้วย ตอนนี้แพนเดสสืบรู้ข้อมูลนั้นแล้ว ฮวงเฟิงเพียงแค่รอ รอจนกว่าแพนเดสจะได้ข้อมูลนั้นมา จากนั้นก็จะช่วงชิงจากเขา เมื่อคิดดังนั้นฮวงเฟิงก็รู้สึกเสียใจต่อแพนเดสขึ้นมา เขาได้ช่วงชิงเอาอุบกรณ์บำบัดน้ำเสียและต้นแบบรถสปอร์ตจากแพนเดสมาแล้ว และตอนนี้พวกเขากำลังพุ่งเป้าไปที่เขาอีกครั้ง ถ้าหากฮวงเฟิงรู้ว่ารองเท้าหนังกับถุงมือที่เขาได้มานั้นจะมีส่วนพัวพันธ์กับตระกูลแพนเดส ใครจะรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ในใจ  แพนเดสเองก็ไม่รู้เหมือน อีกครั้งที่เขาตกเป็นเป้าหมายของฮวงเฟิง เขาเตรียมพร้อมที่จะสกดรอยตามจักจั่นเพื่อตามล่านกกระจอกตาขาว รอคอยข่าวจากสายของเขา

ฮวงเฟิงและแพนเดสไม่คิดเลยว่าสายของแพนเดสจะสามารถเอาข้อมูลงานวิจัยนั้นมาได้ก่อนงานเลี้ยงวันนี้จะสิ้นสุดลง