USB:บทที่ 714 หายไป
“ฝึกวิชางั้นเหรอ?” "ข้านี่นะ?" เมื่อได้ยินคำถามของบิดา โอวหยางซิงเหวินก็พูดไม่ออก
อาจกล่าวได้ว่าในช่วงเวลานี้เป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะฝึกฝนอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถปลุกพรสวรรค์ทางด้านเวทมนต์ได้ ดังนั้นไม่ว่าเขาจะพยายามมากแค่ไหนก็ตามก็ไม่เกิดปฏิกริยาใดๆ ในร่างกายของเขาเลยแม้แต่น้อย และไม่มีร่องรอยของพลังเวทย์มนตร์ใดๆ เกิดขึ้นอีกด้วย
“อะไร? แกมีอะไรจะพูด?” โอวหยางเทียนขมวดคิ้วและถาม
“นั่น นั่นน่ะเหรอ?” เมื่อเห็นว่าท่าทางของบิดาของเขาได้เปลี่ยนไป โอวหยางซิงเหวินก็ยิ่งกลัวที่จะพูดมากขึ้น
โอวหยางเทียนได้เห็นความผิดปกติของโอวหยางซิงเหวินและใบหน้าของเขาก็ยิ่งไม่น่าดูยิ่งขึ้น จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในร่างของโอวหยางซิงเหวินและสัมผัสถึงพลังเวทย์มนตร์ในตัวเขา แม้ว่าความแข็งแกร่งของโอวหยางเทียนจะลดลง แต่เขายังคงเป็นนักเวทย์และยังเป็นนักเวทย์ระดับสูง ตราบใดที่มีพลังเวทย์มนตร์อยู่ภายในร่างกายของโอวหยางซิงเหวิน เขาก็จะสามารถสัมผัสถึงมันได้แม้ว่าเขาจะไม่สามารถระบุได้อย่างแม่นยำว่าตอนนี้เขาอยู่ในระดับใด
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ผ่านไปครึ่งวันแล้ว โอวหยางซิงเหวินก็เริ่มมีเหงื่อออกที่ด้านข้างแต่เขายังคงไม่รู้สึกถึงร่องรอยของพลังในร่างกายของเขา เขาไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อยเกี่ยวกับการใช้ยาเสริมปัญญา ดังนั้นเขาจึงรู้สึกว่าบางทีอาจะเป็นเพราะเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อครั้งก่อนและยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อโอวหยางซิงเหวินเห็นว่าใบหน้าของพ่อของเขาเริ่มตึงขึ้นเรื่อยๆ เขาก็รู้สึกกลัวอยู่ในใจมากขึ้นไปอีก เขาตะกุกตะกักพูดว่า: “จริงๆ แล้วข้าน่ะฝึกวิชาอย่างหนักตลอดเวลาอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์ของข้าจะยังไม่ถูกปลุกขึ้นมาแต่ไม่ต้องกังวลนะท่านพ่อ ข้ามีความรู้สึกว่าจะต้องปลุกมันให้ตื่นขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้นี้แหละ!"
คำสัญญาของโอวหยางซิงเหวินไม่เพียงแต่จะไม่ได้ทำให้อารมณ์ของโอวหยางเทียนดีขึ้นแลยแต่ยังทำให้แย่ลงไปอีก "อะไรนะ?" นี่แกจะบอกว่าแกไม่มีทักษะทางด้านเวทย์มนต์เลยงั้นเรอะ? แกมันไอ้สวะ?"เฮ้อออ!" เขากินยาเสริมปัญญานั่นไปตั้งนานโขแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถที่จะปลุกพรสวรรค์ทางด้านเวทมนตร์ได้เลย!นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันท่านพ่อ หลังจากที่ข้ากินยาเสริมปัญญานั่นเข้าไปแล้ว ข้าก็เริ่มฝึกฝนมาโดยตลอดแต่ข้าไม่สามารถปลุกพรสวรรค์ด้านเวทมนต์ได้เลย!” โอวหยางซิงเหวินรู้สึกเหมือนกำลังจะร้องไห้
นี่เป็นครั้งแรกที่โอวหยางเทียนสงสัยลูกชายของเขาเอง แม้ว่าโอวหยางซิงเหวินจะไม่เคยมีพรสวรรค์ทางด้านเวทมนต์เลยและคนอื่นๆ ต่างก็พากันนินทาลับหลังว่าเขาเป็นไอ้สวะ แต่โอวหยางเทียนก็ยังไม่เคยคิดที่จะยอมแพ้กับเรื่องนี้ เขาใช้เงินจำนวนมากเพื่อซื้อยายาเสริมปัญญามาเพื่อช่วยปลุกพรสวรรค์ทางด้านเวทมนต์ให้กับลูกชายของเขา
เขากินยาเม็ดเสริมปัญญามาเป็นเวลานานแล้วแต่ก็ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เกิดขึ้นเลย ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยได้ยินมาว่าแม้แต่คนที่มีความสามารถแย่กว่าก็ยังสามารถปลุกพรสวรรค์ด้านเวทมนต์ขึ้นมาได้ภายในหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่กินยาเสริมปัญญาแต่ลูกชายของเขาเองจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่เกิดผลใดๆ เลย
สำหรับสิ่งที่โอวหยางซิงเหวินพูด เขามีความรู้สึกอยู่แล้วว่าเขาจะสามารถปลุกพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์ได้ในไม่ช้า
"ไอ้สวะเอ้ย!" ในที่สุดโอวหยางเทียนที่กำลังวิตกกังวลก็ไม่สามารถระงับความโกรธในใจได้ และตบหน้าของโอวหยางซิงเหวินอย่างโหดเหี้ยมด้วยฝ่ามือของเขาเอง โอวหยางซิงเหวินที่ไม่ทันได้เตรียมตัวถูกตบลงไปกองอยู่กับพื้นทันที ฟันของเขาหลุดหายไปสองซี่และเลือดจำนวนมากก็ไหลออกจากมุมปากของเขา เขาลืมแม้แต่จะร้องออกมาดังๆ เพราะท่าทางที่ดุร้ายในปัจจุบันของพ่อในตอนนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนและนี่เป็นครั้งแรกที่เขาลงไม้ลงมือซึ่งเขาเป็นคนที่โหดเหี้ยมที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา
แต่เขาก็มีเหตุผลที่จะโกรธ เขาได้รับความเดือดร้อนจากผู้อาวุโสของตระกูลเนื่องจากกองทหารโลหิตสีชาดก่อนหน้านี้ ตอนนี้ในเมื่อลูกชายของเขายังไม่สามารถที่จะปลุกพรสวรรค์ทางด้านเวทมนตร์ได้แม้ว่าจะจ่ายค่ายาในราคามหาศาลไปแล้ว ตำแหน่งของทายาทของเขาจะต้องถูกยึดไปอย่างแน่นอน และระหว่างนั้นตำแหน่งของเขาก็อันตรายมากยิ่งขึ้นเช่นกันและจะมีข้อแก้ตัวเพิ่มเติมสำหรับเขาที่จะทำเช่นนั้น
“ไปเลยนะ ไสหัวไปเดี๋ยวนี้ ถ้าแกยังปลุกพรสวรรค์ทางด้านเวทย์มนต์ไม่ได้ก็อย่ามาให้ข้าเห็นหน้า!” โอวหยางเทียนชี้หน้าโอวหยางซิงเหวินและคำรามออกมา
“ขอรับ ขอรับ ท่านพ่ออย่าโมโหไปเลย” โอวหยางซิงเหวินตะกายออกจากห้องโถง ตอนนี้เขาเพียงต้องการที่จะหายตัวไปจากสายตาของพ่อให้เร็วที่สุด ถ้าไม่อย่างนั้นพ่อของเขาที่กำลังโกรธจัดอาจจะระงับอารมณ์ไม่อยู่ก็เป็นได้
เมื่อเห็นลูกชายของเขาอยู่ในสภาพที่น่าสงสาร โอวหยางเทียนก็โกรธมากจนอยากจะอาเจียนเป็นเลือด
“ไอ้ลูกนอกคอก ช่างนอกคอกเสียนี่กระไร!” โอวหยางเทียนรำพึงกับตัวเอง ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาผู้แสนจะฉลาดเฉลียวและทรงพลังถึงได้ให้กำเนิดบุตรชายที่ไร้ค่าเช่นนี้
หลังจากที่โอวหยางซิงเหวินออกไปได้ครู่หนึ่ง โอวหยางเทียนก็สงบลงในที่สุด หลังจากนั้นเขากลับไปที่ห้องของเขาและเปิดแหวนมิติออกเพื่อเตรียมศึกษาคาถาต้องห้าม
ครั้งล่าสุดที่เขาใช้คาถาต้องห้าม แม้ว่าจะมีข้อเสียมากมาย เช่น ความแข็งแกร่งของเขาลดลง ร่างกายของเขามีปฏิกิริยาสะท้อนกลับอย่างรุนแรง และในตอนนี้อาการบาดเจ็บภายในของเขาแทบจะไม่ฟื้นตัว แต่อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ซึ่งนั่นก็คือความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับคาถาต้องห้ามนั้นลึกซึ้งขึ้นมาอีกเล็กน้อย
ในวันนี้อาการบาดเจ็บภายในของเขาได้หายเป็นปกติแล้ว เขาอยากที่จะศึกษาคาถาต้องห้ามนั้นอีกครั้งเพื่อเพิ่มเติมความเข้าใจ ด้วยวิธีนี้เมื่อเขาใช้มันอีกในอนาคตเขาก็จะสามารถเชี่ยวชาญและสร้างพลังได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตามสีหน้าของเขาต้องชะงักลงอย่างรวดเร็ว เพราะเขาไม่พบม้วนคัมภีร์ต้องห้ามที่เก็บเอาไว้ในแหวนมิติ ตอนแรกเขาคิดว่ามันคงเป็นเพราะความสะเพร่าของเขาเองแต่หลังจากที่เขาค้นเอาทุกสิ่งในแหวนมิติออกมาและตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนแล้ว เขาก็ไม่พบวี่แววของม้วนคัมภีร์เลย
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? คาถาต้องห้ามหายไปไหน?” “ใครมาขโมยม้วนคัมภีร์ต้องห้ามของข้าไปกันแน่?” โอวหยางเทียนพูดกับตัวเอง แต่ไม่ว่าเขาจะคิดทบทวนยังไงเขาก็ไม่เข้าใจ เขาจำได้ว่าเขาได้ เก็บม้วนคัมภีร์ไว้ในแหวนมิติและเขาก็ได้สวมแหวนอยู่ตลอดเวลา
ดังนั้นหลังจากที่ครุ่นคิดอยู่นาน โอวหยางเทียนก็ยังไม่รู้ว่าเขาทำคัมภีร์หายไปได้อย่างไร ซึ่งก่อนหน้านี้เขาอารมณ์ไม่ดี และตอนนี้ก็ยังต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้อีกจนในที่สุดโอวหยางเทียนก็ทนไม่ได้อีกต่อไป เขาถ่มน้ำลายออกมาจนเป็นเลือดและร้องไห้คร่ำครวญอย่างน่าสงสารจนเขาหมดสติไป
โอวหยางเทียนที่เพิ่งตื่นขึ้นในตอนกลางคืน ถึงแม้เขาจะตื่นแล้วแต่มันก็เหมือนกับว่าเขากำลังป่วยหนัก ร่างทั้งร่างของเขาราวกับร่างไร้วิญญาณที่ทำได้แค่นอนอยู่บนเตียงเท่านั้น
โอวหยางเทียนป่วย!
ไม่นานนักข่าวนี้ก็ได้แพร่สะพัดไปทั่วทั้งตระกูลโอวหยาง
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved