ตอนที่ 504

USB:บทที่ 504 คนทรยศ (2)

แพนเดสพยักหน้า เขารู้ดีว่าข้อมูลนั้นสำคัญมากขนาดใหน ดังนั้นเขาจึงเข้าใจจุดประสงค์ของพ่อได้เป็นอย่างดี จากนั้นเขาก็ติดต่อสายที่แฝงตัวอยู่ในตระกูลเพย์ตัน ไม่ว่าจะวิธีไหนก็ต้องขโมยผลวิจัยนั้นมาให้ได้ ขณะที่สองคนพ่อลูกกำลังปรึกษากันอยู่นั้น วูบหนึ่งสีหน้าของสายข่าวดูขึงขังมากขึ้นเมื่อได้รับคำสั่งสายของเขาที่ได้รับคำสั่ง เขารู้ถึงความสำคัญของข้อมูลพวกนั้น ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากสามารถขโมยข้อมูลพวกนั้นได้ นั่นก็หมายความถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิต เขารอโอกาสนี้มานานแล้ว

ถ้ามองจากจุดเดียวกันระหว่างเขากับศาสตราจารย์เนียล ก็ไม่ได้แตกต่างกันเลย คนทั้งสองไม่อยากทำงานในห้องแลปไปจนตาย พวกเขากระหายแสงสว่างต้องการการยกย่อง และนั่นคือเหตผลที่พวกเขาต้องทำงานหนักเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง เพียงแต่ศาสตราจารย์เนียลต้องพบกับความล้มเหลว หลังจากที่เขาขโมยข้อมูลการวิจัยไปจากตระกูลชอว์ตันแล้ว ไม่รู้ว่าทำไม เกิดอะไรขึ้นกับทางด้านของตระกูลเพย์ตัน สุดท้ายแล้วชีวิตของศาสตราจารย์เนียลกลับแย่ลงกว่าที่เคยเป็น เดิมที่บูด๊าซคิดที่จะฆ่าศาสตราจารย์เนียลทันทีที่เขาหมดประโยชน์  แต่ต่อมาบูด๊าซเกิดเปลี่ยนใจ ดังนั้นการที่ศาสตราจารย์เนียลยังมีชีวิตอยู่ก็นับว่าดีแล้ว หากมีผู้เชี่ยวชาญเพิ่มอีกคนมันก็จะทำให้ตระกูลของเขาอยู่เหนือตระกูลชอว์ตันง่ายขึ้น ดังนั้นการที่จะฆ่าศาสตราจารย์เนียลทิ้งมันจึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ดังนั้นบูด๊าซจึงให้ศาสตราจารย์ทำงานในห้องแลป ไร้ซึ่งอิสรภาพโดยสิ้นเชิง เขาถูกคุมขังอยู่แต่ในห้องแลปเพื่อทำงานวิจัยการทดลอง

ทั้งหมด แค่รอดจากความตายภายในใจของศาสตราจารย์เนียลก็รู้สึกยินดีมากแล้ว เขาคำนับให้กับบูด๊าซและรู้สึกขอบใจอย่างมากที่บูด๊าซยอมไว้ชีวิตเขา แน่นอนว่าชีวิตของเขาในช่วงนี้กำลังตกต่ำ ก่อนหน้านี้บูด๊าซทำร้ายเขาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เพียงเพราะต้องการหาอุปกรณ์บำบัดน้ำเสียนั่น สุดท้ายแล้วเขาก็ได้เข้าไปทำงานในห้องแลป อย่างไรก็ตามภาพลักษณ์ของเขาก็แล้วร้ายที่สุด เนื่องจากเขาทรยศต่อตระกูลชอว์ตัน ทำให้คนอื่น ๆ ในห้องแลปคอยจับตามองเขาอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าภายในใจของศาสตราจารย์เนียลจะไม่รู้สึกเป็นสุขเลย แต่จะทำอย่างไรได้ เขารู้ฐานะตัวเองดี เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อาจเทียบอะไรกับคนของที่นี่ได้เลย

"เอ๊ะ นั่นใช่ศาสตราจารย์เนียลหรือเปล่าคะ?"  "สวัสค่ะ"

ขณะที่ศาสตราจารย์กำลังทำงานด้วยควารู้สึกอันหดหู่ จู่ ๆ น้ำเสียงตื่นเต้นของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้น

"คุณคือ...?" ศาสตราจารย์เนียลมองดูท่าทางตื่นเต้นของใครคนหนึ่งด้วยความประหลาดใจ หล่อนไม่น่ารู้จักเขามาก่อน นอกจากนั้นแล้วคนที่นี่ยังดูค่อนข้างเย็นชากันเธอมาก

"เรียกฉันว่าเจสซี่ก็ได้ค่ะ" หญิงสาวคนหนึ่งเดินเขามาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า เธอจับมือศาสตราจารย์เนียลแล้วพูดขึ้นอีกว่า "ฉันชอบศึกษาวิทยานิพนธ์ของคุณ คุณเขียนได้ดีมากเลย และมันก็สร้างแรงบันดาลให้กับฉันอย่างมากด้วยค่ะ"

"สวัสดีครับ เจสซี่" ศาสตราจารย์ได้ยินดังนั้น รอยยิ้มก็ผุดขึ้นบนใบหน้า เขามักจะคิดว่าตัวยังคงเป็นศาสตราจาย์อยู่เสมอ และวิทยานิพนธ์ของเขาคือหัวใจสำคัญ

"ศาสตราจารย์เนียล คิดไม่ถึงเลบว่าจะเจอคุณที่นี่" เจสซี่พูดขึ้นอย่างแปลกใจ "แล้วนั้น เกิดอะไรขึ้นกับใบหน้าของคุณคะ?"

ท่าทีของศาสตราจารย์เนียลดูแปลกไปเล็กน้อย เขาลูบใบหน้าตัวเองที่ยังคงทิ้งร่องรอยของแผลเป็นเอาไว้ แล้วพูดขึ้น "ออ อ้อ ก็แค่อุบัติเหตุนิดหน่อยครับ"

"โอ้ว ถ้าอย่างนั้นศาสตราจารย์ก็ต้องระวังหน่อยนะค่ะ ถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้นกับคุณ มันคงต้องเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของโลกวิทยาศาสตร์ที่เดียวเลย" เจสซี่พูดขึ้นอย่างเป็นห่วง

"ขอบคุณครับ ผมจะระวัง" ความรู้สึกประทับใจของศาตราจารย์เนียลที่มีต่อเจสซี่นั้นเพิ่มมากขึ้นอย่างรวด ด้วยเพราะบรรยากาศรอบตัวที่ไม่เป็นมิตรกับเขา จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนอย่างเขาจะต้องการใครสักคนที่ห่วงใจและนับถือเขา

"ศาสาตราจารย์เนียล คุณก็เข้าร่วมกับตระกูลเพย์ตันด้วยหรือคะ? ฉันได้ยินมาว่าคุณทำงานให้กับตระกูลชอว์ตันนี่คะ แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่?" เจสซี่ถามขึ้นด้วยสีหน้าที่ดูจริงจัง

"ผมรู้สึกว่าผมจะมีโอกาสก้าวหน้าขึ้น ดั้งนั้นผมก็เลยมาที่นี่" ศาสตราจารย์เนียลคิดว่าเจสซี่คงไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะไม่พูดความจริง

"ศาสตราจารย์เนียล คุณผิดแล้ว" จู่ ๆ เจสซี่ก็พูดขึ้นอีก สีหน้าของเธอดูจริงจัง หลังจากหันมองดูรอบ ๆ แล้ว พบว่าไม่มีใครอยู่บริเวณนั้น แล้วเธอก็กระซิบ "เป็นเพราะฉันเลื่อมใสคุณมาก และฉันก็คิดว่าคุณคืออัจริยะสำหรับฉัน ฉันจะบอกคุณแค่คนเดียว ไม่เคยบอกคนอื่นเลย"

"เกิดอะไรขึ้น?" เมื่อได้ยินดังนั้น หัวใจของศาสตราจารย์ก็เต้นระทึกขึ้น

"ความจริงแล้ว ภายนอกตระกูลเพย์ตันของพวกเขาเหมือนจะดูดี แต่พวกเขาปฏิบัติกับเราแย่มาก ถ้าหากพวกเราหมดประโยชน์ ไม่พัฒนางานให้ก้าวหน้าขึ้น พวกเขาก็จะลอยแพพวกเรา นอกจากนั้นแล้วยังมีคำสั่งว่าเพื่อปกป้องพวกเขาจากตระกูลอื่น ๆ  ต่อให้ต้องฆ่าคนพวกเขาก็ทำได้ ฉันรู้เรื่องนี้มาโดยบังเอิญ ฉันกำลังคิดหาทางที่จะออกไปจากที่นี่" เจสซี่กระซิบบอกอีกฝ่ายด้วยสีหน้าจริงจัง

"อ่า เป็นไปได้ไง พวกเขาจะทำแบบนั้นกับพวกเราได้ไงกัน?" ศาสตราจารย์เพิ่งเข้ามาใหม่ ไม่รู้สถานการณ์ที่นี่ดีนัก อีกทั้งคนอื่นก็ไม่ชอบเขานัก จึงไม่มีใครบอกอะไรกับเขาเลย สำหรับเจสซี่แล้ว พวกเขาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ดังนั้นเธอจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องโกหกเขา ยิ่งไปกว่านั้นแล้วอีกฝ่ายยังชื่นชอบเขามาก ไม่มีทางเป็นไปได้ที่เธอจะหลอกเขา

"คุณ ย่อมรู้อยู่แล้วว่า คนอย่างพวกเขา คนที่ไม่เคยพบกับความสำเร็จมานาน เป็นเรื่องปกติที่ตระกูลเพย์ตันจะทำเรื่องโหดเหี้ยม" "และนี่คือเหตผลที่ฉันพูดว่า คนของตระกูลเพย์ตัน ไม่ใช่คน ฉันเตรียมที่จะออกจากที่นี่แล้วมองหาตระกูลที่น่าเชื่อถือไว้คอยหลบภัย" ขณะที่เจสซี่พูดอยู่นั้น จู่ ๆ ก็ดูเหมือนว่าเธอนึกอะไรขึ้นมาได้ แล้วพูดขึ้นอีกด้วยน้ำเสียงร้อนรน "ศาสตราจารย์เนียล อย่าพูดเรื่องนี้กับใครน่ะค่ะ ฉันพูดกับคุณเพราะฉันไว้ใจคุณ"

ศาสตราจารย์พยักหน้าแล้วพูด "ไม่หรอกครับ ผมจะไม่พูดถึงคุณ"

ศาสตราจารย์เนียลเข้าใจถึงความหมายของอีกฝ่าย เธอทำให้เขานึกถึงอดีต มันกับอดีตที่เขาเคยทำ เพียงแค่ข้อมูลนิดหน่อยพวกนั้นสามรถเปลี่ยนชีวิตเขาได้ ซึ่งมันทำให้เขานึกเสียใจอยู่ทุกวันนี้