USB:บทที่ 666 บังเอิญ
“เอ่อ พวกเราไปรอลิฟท์อีกตัวดีกว่านะ” เมื่อฮวงเฟิงเห็นร่างนั้น จิตใต้สำนึกของเขาก็สั่งให้หยุดจากนั้นก็กล่าวกับถังมู่เสวี่ยด้วยสีหน้าที่ไม่เป็นธรรมชาติ
“ก็นายบาดเจ็บอยู่นี่นาแล้วนายก็ไม่ต้องรีบร้อนหรอก ในลิฟท์คงมีคนไม่มากขนาดนั้นหรอกน่า” ถังมู่เสวี่ยเองนั้นไม่รู้ว่าฮวงเฟิงกำลังคิดอะไรอยู่ เธอเพียงต้องการที่จะช่วงฮวงเฟิงรักษาบาดแผลเท่านั้น
ขณะที่ฮวงเฟิงและถังมู่เสวี่ยกำลังคุยกันอยู่นั้น ร่างนั้นที่ยืนอยู่หน้าลิฟท์ก็ดูเหมือนว่าจะได้ยินบทสนทนานั้นและหันมามองยังทิศที่พวกเขายืนอยู่ ร่างนั้นตกตะลึงไปในทีแรก แต่หลังจากนั้นก็มีเสียงหัวเราะและตะโกนออกมาว่า “พี่ฮวง!”
“เฮ้อ บังเอิญจังเลย เธอก็อยู่ที่นี่ด้วย วันนี้เธอไม่ต้องไปทำงานงั้นเหรอ?” ฮวงเฟิงกล่าวด้วยความเคอะเขินเล็กน้อย
“วันนี้วันเสาร์นะ พี่ฮวงเฟิง คุณเองก็เหมือนกันนะคะเจ้านายอย่าเอาเปรียบลูกน้องขนาดนั้นเลย นี่คุณจะไม่ให้ฉันได้พักผ่อนเลยงั้นเหรอ” กัวเมิ่งหานกล่าวพร้อมกับมีรอยยิ้ม
คนที่กำลังรอลิฟท์อยู่นั้นก็คือกัวเมิ่งหาน ถึงแม้ว่าฮวงเฟิงและกัวเมิ่งหานจะพักอยู่ที่เดียวกันต่างกันแค่ชั้นบนและชั้นล่าง แต่พักนี้ฮวงเฟิงก็มัวแต่ยุ่งอยู่กับงานที่โรงเหล้าในขณะที่กัวเมิ่งหานนั้นอยู่ที่โรงงานอุปกรณ์บำบัดน้ำเสีย ทั้งสองคนจีงไม่ค่อยได้พบกันบ่อยนัก ดังนั้น กัวเมิ่งหานจึงดีใจมากที่ได้เจอฮวงเฟิงทีนี่
ความจริงแล้ว หลายครั้งที่กัวเมิ่งหานอยากจะขึ้นไปและพูดคุยกับฮวงเฟิง อย่างไรก็ตามเธอก็รู้สึกเขินอายอยู่ในใจและไม่เคยกล้าที่จะขึ้นไปสักครั้งแต่ในครั้งนี้เธอกลับพบเขาด้วยความบังเอิญ
เพียงแค่ว่าหลังจากที่กัวเมิ่งหานได้เห็นถังมู่เสวี่ยที่ยืนอยู่ข้างๆ ฮวงเฟิง เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนยืนอยู่ที่นั่นซึ่งเห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนไม่ใช่คนแปลกหน้าซึ่งกันและกันดังนั้นเธอจึงถามออกมาด้วยความสงสัยว่า “พี่ฮวงแล้วนี่คือ?”
“อ้อ เธอเป็นเพื่อนผมเองน่ะ เธอชื่อว่าถังมู่เสวี่ย” ฮวงเฟิงกล่าว จากนั้นเขาก็กล่าวกับถังมู่เสวี่ยว่า “นี่คือกัวเมิ่งหาน ใช่แล้ว เป็นเพื่อนบ้านของผมและยังเป็นเพื่อนร่วมงานของผมอีกด้วย”
“สวัสดีค่ะ” กัวเมิ่งหานกล่าวกับถังมู่เสวี่ย
“สวัสดีค่ะ” ถังมู่เสวี่ยตอบ
ถึงแม้ว่าทั้งสองสาวจะดูเป็นมิตรต่อกันเป็นอย่างมากแต่ก็ไม่มีสิ่งผิดปกติใดๆ เกิดขึ้น อย่างน้อยสิ่งที่ฮวงเฟิงแต่เพียงแค่ว่าทั้งสองสาวสามารถสัมผัสความกดดันที่แฝงอยู่
ลิฟท์มาถึงอย่างรวดเร็ว และทั้งสามคนก็เข้าไปในลิฟท์ ซึ่งทั้งลิฟท์มีเพียงพวกเขาเพียงสามคนเท่านั้น และบรรยายก็ตึงเครียดมากยิ่งกว่าเดิม สายตาของถังมู่เสวี่ยกำลังสำรวจทั้งฮวงเฟิงและกัวเมิ่งหาน เขาไม่เชื่อจริงๆ กับคำแนะนำตัวของฮวงเฟิง ส่วนสายตาที่กัวเมิ่งหานมองฮวงเฟิงนั้นก็เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เป็นแค่เพื่อนบ้านหรือเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง
ส่วนสายตาของกัวเมิ่งหานนั้นก็กวาดมองไปทั่วร่างของทั้งฮวงเฟิงและถังมู่เสวี่ย ราวกับว่าเธอไม่เชื่อในคำกล่าวแนะนำตัวของฮวงเฟิงก่อนหน้านี้เช่นกัน ความสัมพันธ์ระหว่างฮวงเฟิงและเธอนั้นต้องไม่ใช่แบบเพื่อนธรรมดาอย่างแน่นอน
ในเวลานี้ฮวงเฟิงดูเหมือนว่าจะรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่ตึงเครียดและเขาก็ทั้งหัวเราะและร้องไห้อยู่ในใจ นี่เป็นเหตุผลที่เขาไม่อยากจะขึ้นลิฟท์ตัวนี้เลย แต่ฮวงเฟิงก็พลันคิดได้ว่าไม่มีอะไรที่เขาจะต้องกลัวเพราะว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรกับทั้งสองสาวนี้
“พี่ฮวง ฉันเองก็ไม่มีอะไรจะทำ ถ้างั้นฉันขอไปที่บ้านของพี่ด้วยจะได้ไหม?” เมื่อเห็นว่าลิฟท์ได้มาจอดที่ชั้นที่เธอพักแล้ว กัวเมิ่งหานก็รวบรวมกำลังใจและกล่าวออกมา โดยปกติแล้วเธอจะรู้สึกเขินอายเป็นอย่างมากถ้าต้องพูดออกมาก่อน แต่หลังจากที่เห็นว่าถังมู่เสวี่ยและฮวงเฟิงอยู่ด้วยกัน เธอจึงไม่อยากที่จะไปจากคนทั้งคู่เธอไม่ต้องการที่จะปล่อยให้ฮวงเฟิงและถังมู่เสวี่ยอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง
ฮวงเฟิงเองก็อยากที่จะปฏิเสธแต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีข้ออ้างดีๆ เลย แต่เมื่อเขากำลังที่จะตอบตกลงจู่ๆ ถังมู่เสวี่ยก็กล่าวออกมาทันทีว่า “พวกเรามีเรื่องที่ต้องทำ เพราะงั้นคงจะไม่ค่อยสะดวกค่ะ”
เจตนาของถังมู่เสวี่ยก็คือต้องการที่จะช่วยฮวงเฟิงทำแผล และสำหรับแผลที่โดนยิงนั้นมันคงจะดีกว่าถ้าจะให้มีคนรู้เรื่องนี้น้อยที่สุด อย่างไรก็ตามคำพูดของเธอก็ได้ทำให้กัวเมิ่งหานเข้าใจผิดเสียแล้ว
กัวเมิ่งหานที่ในตอนแรกไม่ตั้งใจที่จะขึ้นไปด้วยแต่ตอนนี้กลับรู้สึกไม่อยากที่จะยอมแพ้ “พี่ฮวง ถ้าพี่ไม่สะดวกที่จะให้ฉันรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น? ถ้าเป็นยังงั้น ฉันไม่ไปก็ได้ค่ะ”
กัวเมิ่งหานไม่ได้ถามถังมู่เสวี่ยแต่กลับถามฮวงเฟิงตรงๆ ซึ่งตอนนี้ฮวงเฟิงเองก็ไม่ได้พูดว่าเขาไม่สะดวก
“ไม่มีอะไรหรอก ถ้าเธอไม่มีอะไรจะทำ งั้นก็ไปนั่งเล่นด้วยกันก็ได้นะ” ฮวงเฟิงกล่าว ซึ่งอย่างไรเธอก็จะต้องพบกับไป่เสี่ยวโหรวอย่างแน่นอนเมื่อเธอขึ้นไปบนห้อง ดังนั้นจึงดูราวกับว่าคงจะไม่ใช่เรื่องใหญ่สักเท่าไรถ้าจะเพิ่มกัวเมิ่งหานผสมโรงเข้าไปด้วย ฮวงเฟิงรู้สึกว่าเขานั้นกำลังตกที่นั่งลำบาก
กัวเมิ่งหานมองไปที่ถังมู่เสวี่ยอย่างภูมิใจแต่ถังมู่เสวี่ยนั้นกลับแอบหยิกฮวงเฟิงในตำแหน่งที่กัวเมิงหานจะมองไม่เห็น เธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไมแต่เพียงวูบเดียวนั้นเธอกลับรู้สึกไม่พอใจที่เห็นว่าฮวงเฟิงบอกให้กัวเมิ่งหานให้ขึ้นไปได้
ฮวงเฟิงยิ้มแหยๆ เขาเองก็ไม่รู้ว่าเขาได้ทำให้ใครต้องขุ่นเคืองใจบ้างแต่เขาก็ยังคงอดทน
เมื่อเขาคิดว่าทั้งสองสาวจะมีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อเห็นไป่เสี่ยวโหรว ฮวงเฟิงก็รู้สึกเจ็บฟันและเขาก็รู้สึกเสียใจที่ตัดสินใจไปแบบนั้น ทำไมเขาถึงได้ตกลงให้สองสาวมาที่ห้องของเขาด้วยนะ?
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็มาถึงตรงนี้แล้ว ไม่ว่าฮวงเฟิงจะเสียใจแค่ไหนมันก็เปล่าประโยชน์ เขาจึงทำได้เพียงแค่เดินหน้าต่อไป
“คุณกลับมาแล้วเหรอ? ทำไมวันนี้คุณถึงกลับมาเร็วจัง?” ฮวงเฟิงที่เพิ่งจะไขกุญแจเปิดประตู เธอถามออกมาเมื่อเธอได้ยินเสียงของเขา
ถังมู่เสวี่ยและกัวเมิ่งหานต่างพากันตัวแข็งทื่เมื่อพวกเธอได้ยินเสียงของผู้หญิงที่อยู่ในห้อง หลังจากนั้นโดยที่ไม่ต้องสบตากันอีกต่อไปพวกเธอก็ตามฮวงเฟิงเข้ามาภายในห้อง
ฮวงเฟิงนั้นก็เห็นปฏิกริยาของทั้งถังมู่เสวี่ยและกัวเมิ่งหาน ฮวงเฟิงก็รู้สึกคันหัวอยู่นิดหน่อย
“ทำไมคุณไม่พูดอะไรเลยล่ะ?” ไป่เสี่ยวโหรวที่กำลังดูทีวีอยู่ในห้องรับแขก เมื่อเธอไม่ได้ยินเสียงตอบจากฮวงเฟิงเธอก็หันหน้าไปดูด้วยความสงสัย และจากนั้นเธอก็ต้องตกตะลึงเพราะว่าฮวงเฟิงนั้นไม่ได้เข้าห้องมาเพียงคนเดียว แต่ยังมีสาวสวยอีกสองคนคนหนึ่งอยู่ทางด้านขวาและอีกคนหนึ่งอยู่ทางด้านซ้าย ในเวลานี้สาวสวยทั้งสองคนต่างก็พากันจ้องมองเธอด้วยความตกใจ
“นี่พวกเขาเป็นใครกัน?” ไป่เสี่ยวโหรวมองไปที่ฮวงเฟิงและถามออกมา
จริงๆ แล้วนี่เป็นเพียงคำถามธรรมดาๆ แต่ในสายตาของถังมู่เสวี่ยและกัวเมิ่งหานนั้นรู้สึกต่างกัน พวกเธอรู้สึกว่าน้ำเสียงที่ไป่เสี่ยวโหรวกำลังถามฮวงเฟิงนั้นเหมือนกับเป็นเมียของเขาซึ่งนั้นก็ทำให้ทั้งสองคนรู้สึกขุ่นเคืองอยู่ในใจ
และกัวเมิ่งหานเองก็อดไม่ได้ที่จะคิดเป็นครั้งที่สองเพราะว่าฮวงเฟิงนั้นอยู่ที่นี่กับเธอคนนั้นและยิ่งไปกว่านั้นไป่เสี่ยวโหรวก็กำลังสวมเสื้อผ้าหลวมๆ แบบอยู่กับบ้าน เธอนั่งอยู่ในห้องรับแขกและกำลังดูทีวีแถมยังหยอกล้ออยู่กับ “น้องหมา” ซึ่งยิ่งดูก็ยิ่งเหมือนว่าเธอเป็นภรรยาของเขา ถังมู่เสวี่ยและกัวเมิ่งหานต่างก็พากันตกใจจนตัวแข็งทื่อ
“พวกเธอเป็นเพื่อนผมเอง” ฮวงเฟิงรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่กลายเป็นตึงเครียดยิ่งกว่าเดิม ดังนั้นเขาจึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุย “อย่าเพิ่งคุยอะไรกันตอนนี้เลยนะ ตอนนี้รีบมาช่วยผมก่อนเถอะ”
“เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?” ถึงแม้ว่าไป่เสี่ยวโหรวนั้นจะกำลังคุยกับฮวงเฟิงแต่สายตาของเธอก็จับจ้องไปยังถังมู่เสวี่ยและกัวเมิ่งหาน ทั้งสองสาวก็กำลังจ้องมองเธออยู่เช่นกัน ราวกับว่าสงครามเงียบกำลังเกิดขึ้นระหว่างคนทั้งสามคน
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved