ตอนที่ 336

USB:บทที่ 336 ทดสอบ

เช้าวันรุ่งขึ้นไป่เสี่ยวโหรได้จากไปอีกครั้งโดยไม่พูดอะไร เขาเคยชินกับการกระทำของเธอแล้ว แต่วันนี้เขามีความสุขมากจริงๆ นี่เป็นเพราะเขาคิดถึงเสื้อคลุมตัวนั้นมาตลอดทั้งคืน

เมื่อฮวงเฟิงแน่ใจแล้วว่าไป่เสี่ยวโหรวได้จากไปแล้วเขาก็รีบไปดูเสื้อคลุม

หลังจากนั้นเขาก็สวมเสื้อคลุมอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็ตระหนักด้วยว่าเสื้อคลุมนั้นสามารถล่องหนได้และสามารถสร้างสถานะได้สองสถานะคือมองไม่เห็นคนอื่นและคนอื่นมองไม่เห็น เกี่ยวกับสถานการณ์นี้ ฮวงเฟิงยังไม่คุ้นเคยกับมันเนื่องจากอุปกรณ์หลายอย่างในเกมมีการตั้งค่านี้ มันไม่มีประโยชน์ในเกม แต่มันมีประโยชน์มากสำหรับฮวงเฟิง ดังนั้นเมื่อเขาใช้เสื้อคลุมเขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับที่จะถูกคนอื่นมองเห็นเลย

หลังจากนั้นฮวงเฟิงก็เลือกที่จะใช้เทคนิคการลอยตัวและเขาก็ยังคงใช้อยู่เป็นเวลานาน เขามองดูเท้าของเขาที่ลอยขึ้นเหนือพื้น ลอยขึ้นเรื่อยๆ อย่างช้าๆ อย่างไรก็ตามเพราะว่าเขากำลังอยู่ในห้องนอนดังนั้นฮวงเฟิงจึงไม่ค่อยแน่ใจนักว่าเขาจะลอยขึ้นได้สูงสักเท่าไร

อย่างไรก็ตามเขาถึงแม้เขาจะไม่ค่อยมั่นใจเรื่องความสูงแต่ฮวงเฟิงก็ยังสามารถบังคับร่างกายของเขาที่ลอยอยู่บนอากาศได้ ในตอนแรกเขายังไม่ชินกับความรู้สึกที่เท้าลอยอยู่เหนือพื้นดินแต่ในที่สุดเขาก็คุ้นเคยกับมัน และบินไปลักษณะคลาน ความรู้สึกเช่นนี้เทียบไม่ได้กับตอนที่กำลังวิ่งอยู่ แต่มันน่าเสียดายที่พื้นที่ในห้องนอนนั้นมีจำกัดเพราะเขาไม่สามารถที่จะบินไปได้เร็วและไกลสักเท่าไรนัก

ฮวงเฟิงที่กำลังค่อยๆ ลอยไปทีละนิดๆ หลังจากที่คุ้นชินกับมันแล้วสักพักเขาก็สามารถที่จะบินได้อย่างราบรื่น เขาสามารถที่จะตีลังกากลางอากาศ เปลี่ยนระดับความสูง ฯลฯ และรู้สึกสนุกมากๆ แม้แต่เสี่ยวไป่ที่รออยู่ด้านล่างก็ตื่นเต้นมาก

อย่างไรก็ตามในขณะที่บินอยู่นั้นฮวงเฟิงก็รู้สึกได้ถึงพลังงานพิเศษภายในร่างกายของเขาที่ถูกใช้อย่างต่อเนื่อง โชคดีที่ปริมาณของพลังงานที่ใช้ไปนั้นไม่มากนัก ดังนั้นเขาจึงยังบินได้เป็นเวลานานโดยอาศัยพลังงานในร่างกายของเขา

เนื่องจากว่าฮวงเฟิงไม่เคยเล่นเกมนี้มาก่อนเขาจึงไม่รู้ว่าชั่วโมงบินของเขาอยู่ในเลเวลใดในเกม อย่างไรก็ตามเขาได้รับการฝึกฝนในช่วงเวลาสั้นๆ เพียงเท่านั้นและเขาก็ยังไม่มีความแข็งแกร่งภายในมากนัก

ในเกมนั้นแม้ว่าจะเป็นนักเวทย์ที่มีเวทย์มนตร์จำนวนมากพวกเขาจะบินได้เป็นเวลาประมาณสิบนาทีหรือมากกว่านั้นเมื่อใช้เสื้อคลุมนี้ แต่ฮวงเฟิงนั้นแข็งแกร่งกว่าพวกเขาอย่างเห็นได้ชัดแม้ว่าปริมาณพลังงานในร่างกายของเขาจะน้อย แต่คุณภาพของเขานั้นก็ยังสูงมาก

หลังจากลองใช้เทคนิคการลอยตัวแล้ว ฮวงเฟิงก็ได้ลองใช้ทักษะการล่องหน เขาไม่สามารถหาคนนอกมาทดสอบได้เพราะด้วยวิธีนั้นเขาจะไม่สามารถเก็บความลับเอาไว้ได้ แต่ฮวงเฟิงก็มีวิธีจัดการ

ฮวงเฟิงเดินมาที่กระจกบานใหญ่ในห้องน้ำและเริ่มใช้ทักษะการล่องหน  หลังจากนั้นเขาก็เห็นว่าร่างของเขาหายไปอย่างไร้ร่องรอยในกระจกเขามองไม่เห็นอะไรเลย หรือแม้แต่เสี่ยวไป่ที่อยู่ข้างๆ เขาก็เริ่มวนไปรอบๆ และเห่าเสียงดังเพราะว่ามันมองไม่เห็นเขาและหลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ชนกัน ขาของเขารู้สึกได้ถึงพลังลมปราณที่ไหลเวียนอยู่

อย่างไรก็ตามแม้ว่าฮวงเฟิงจะถูกเสี่ยวไปชน แต่การล่องหนของเขาก็ยังไม่หายไป หลังจากที่เขาขยับเพียงเล็กน้อยร่างของเขาก็ปรากฏขึ้นในกระจกเงาอีกครั้ง

"เป็นไปตามที่คาดไว้ มันเหมือนกับกับที่กล่าวในคำแนะนำเลย" ฮวงเฟิงกล่าวด้วยใบหน้าที่เปี่ยมสุข ทุกครั้งที่เขาได้ไอเท็มอะไรมาเขาจะรู้สึกมีความสุข

"อ้าวเฮ้ย ฉันมีความสุขมากจนเกือบลืมไปเลย วันนี้ฉันต้องไปทำงานนี่หว่า" จู่ๆ ฮวงเฟิงก็จำได้ว่าวันนี้เป็นวันจันทร์ ก่อนหน้านี้เขายุ่งอยู่กับการลองใช้ทักษะเสื้อคลุมของเขา ซึ่งก็ใช้เวลาไปพอสมควร

ฮวงเฟิงล้างหน้าและบ้วนปากทันทีโดยไม่สนใจเรื่องอาหารเช้าอีกต่อไป ในขณะที่เขารีบไปที่บริษัทอย่างเร่งรีบ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังมาสายและสิ่งที่น่าเศร้ายิ่งกว่านั้นก็คือเมื่อเขามาถึงที่ทำงาน เซี่ยเมิ่งเจียวก็อยู่ที่นั่นแล้วและเห็นได้ชัดว่ากำลังรอเขาอยู่

"เอาล่ะไหนฉันขอดูหน่อยสิ" เมื่อเซี่ยเมิ่งเจียวเห็นว่าฮวงเฟิงมาแล้ว เธอก็ก้มลงมองดูนาฬิกา: "คุณมาสายไปสิบห้านาที! ทัศนคติของคุณในฐานะผู้จัดการแผนกรักษาความปลอดภัยเป็นแบบนี้งั้นเหรอ?"

“ก็ ผมตื่นสายไปหน่อย” ฮวงเฟิงกล่าวอย่างเขินอายเล็กน้อย ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามการที่มาทำงานสายก็ถือว่าเป็นเรื่องผิด และถ้าเซี่ยเมิ่งเจียวกล่าวคำเหล่านี้กับเขาอย่างปกติ เขาก็คงไม่อารมณ์ดีขนาดนี้

“นี่ฉันไม่ได้เตือนคุณหรอกเหรอว่าคุณหลี่จะเข้ามาวันนี้น่ะ? นี่คุณลืมเรื่องสำคัญขนาดนี้ได้ยังไงกัน?” ถึงแม้ว่าทัศนคติของฮวงเฟิงจะไม่เลวนัก แต่เซี่ยเมิ่งเจียวก็ยังคงไม่พอใจเพราะว่าหลี่ปิงหยุนจะมาวันนี้เพื่อมาหารืองานสำคัญกับบริษัท แต่เพราะฮวงเฟิงลืมเรื่องนี้แล้วจะไม่ให้เธอโมโหได้อย่างไรกัน?

ในเวลานี้เซี่ยเมิ่งเจียวยังไม่รู้ว่าถงเฉียนจุ้นนั้นได้สูญเสียตำแหน่งของเขาไปแล้ว เธอคิดว่าบริษัทของเธอกำลังเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่และด้วยการมาถึงของหลี่ปิงหยุน พวกเธอจะสามารถแก้ไขวิกฤตที่อยู่ตรงหน้าได้ แต่ฮวงเฟิงกลับลืมเรื่องนี้ไปซะแล้ว

“ผมไม่ได้ลืม” ฮวงเฟิงกล่าว เขาไม่ได้ลืมจริงๆ เขารู้เพียงแค่ว่าวันนี้หลี่ปิงหยุนกำลังจะมา แต่เขาไม่รู้เวลาที่แน่นอน เมื่อมองไปที่ท่าทางของเซี่ยเมิ่งเจียว อาจเป็นไปได้ว่าหลี่ปิงหยุนได้มาถึงแล้วหรือเปล่า? นั่นก็เท่ากับว่าเขาได้ละทิ้งหน้าที่

โชคดีที่คำพูดต่อมาของเซี่ยเมิ่งเจียวทำให้เขารู้สึกสบายใจ หลี่ปิงหยุนยังไม่มาที่นี่หรืออาจกล่าวได้ว่าเธอยังมาไม่ถึงบริษัท

"คุณไม่ได้ลืมงั้นเหรอว่านี่มันสายมากแล้ว? เครื่องบินของคุณหลี่กำลังจะลงแล้ว คุณคงจะไม่กล้าปล่อยให้เธอต้องรออยู่ที่สนามบินหรอก จริงไหม?" เซี่ยเมิ่งเจียวกล่าว

"เดี๋ยวก่อน นี่คุณหมายความว่าผมต้องไปที่สนามบินเพื่อไปรับคุณหลี่ปิงหยุนยังงั้นเหรอ?" ฮวงเฟิงกล่าวขณะที่เขามองไปที่เซี่ยเมิ่งเจียวด้วยความตกใจ

"พูดจาไร้สาระ ถ้าไม่ใช่คุณที่ต้องไปรับ แล้วจะให้ฉันกับพี่หยูโม่ไปรับอย่างนั้นเหรอ?" เซี่ยเมิ่งเจียวกล่าวอย่างรวดเร็ว: "เช้านี้ฉันยังมีเรื่องต้องทำกับพี่หยูโม่อีกนะ ดังนั้นหลังจากที่คุณรับตัวคุณหลี่มาแล้วก็ให้ไปส่งเธอที่โรงแรมก่อน แล้วตอนกลางคืนค่อยพาเธอมาที่บริษัท พวกเราจะไปเยี่ยมชมบริษัทในตอนบ่าย แล้วก็เตรียมอาหารค่ำสำหรับพวกเราด้วยนะ” เซี่ยเมิ่งเจียวบอกฮวงเฟิง อย่างคร่าวๆ เกี่ยวกับการต้อนรับหลี่ปิงหยุนในวันนี้

“งั้นคุณไม่ต้องเรียกผมมาก็ได้” ฮวงเฟิงพึมพำ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้สนใจอาหารประเภทนี้จริงๆ เพราะมันไม่สบายใจเหมือนกินคนเดียว นอกจากนี้ทักษะการทำอาหารของเชฟจะสามารถเทียบเขาได้หรือไม่? อันนี้ยังไม่ชัดเจน

"ตกลง ผมเข้าใจแล้ว ผมจะไปรับเธอที่สนามบินตอนนี้เลย" ฮวงเฟิงกล่าว