ตอนที่ 692

USB;บทที่ 692 ภารกิจ

"ก็ราบรื่นดี" ถังมู่เสวี่ยตอบ "แต่ก็ต้องคอยดูพี่หยูโม่และเซี่ยเหมิ่งเจียวไว้บ้าง ดูเหมือนว่าช่วงนี้พวกเธอดูกระวนกระวายนิดหน่อย บางที่พวกเธออาจมีปัญหาบางอย่าง"

อย่างไรก็ตามถังมู่เสวี่ยยังมีบริษัทของเองอีกแห่งให้ต้องดูแล ทำให้เธอช่วงนี้เธอไม่ค่อยรู้รายละเอียดที่เกิดขึ้นกับบริษัทเฮฟเว่นไพรกรุ๊ปมากนัก ฮวงเฟิงพยักหน้ารับรู้ ตั้งใจว่าคืนนี้เขาจะโทรหาซูหยูโม่เพื่อสอบถามดูว่าเธอมีปัญหายุ่งยากอะไรหรือเปล่า หรือมีอะไรที่เขาพอจะช่วยเธอได้บ้าง ดังนั้นหลังจากทานอาหารเสร็จพวกเขาก็พากันไปนั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่นได้สัพพัก หลังจากนั้นถังมู่เสวี่ยและกัวเหมิงหานก็ได้บอกลาแล้วกลับไป

"คุณนี่มีโชคเรื่องผู้หญิงดีจริง ๆ เลย"  ไป๋เสี่ยวโหรวได้แขวะฮวงเฟิงขึ้นหลังจากที่สองสาวได้ออกไปแล้ว

"คุณหมายความว่าไง 'โชคดีเรื่องผู้หญิง' " ฮวงเฟิงพูดอย่างเขินอายเล็กน้อย เมื่อนึกไปถึงตอนที่พวกเขาทั้งหมดทานอาหารร่วมกันเมื่อครู่นี้ ฮวงเฟิงสังเกตเห็นทั้งถังมู่เสวี่ยและกัวเหมิงฮานต่างแสดงความเป็นห่วงเป็นใยเขามากเกินไป

"เอาเถอะ หันมาพูดธุระกันดีกว่า" ไป๋เสี่ยวโหรวพูดขึ้นพร้อมกับใบหน้าที่ดูจริงจังมากขึ้น "พรุ่งนี้คุณต้องออกไปปฏิบัติภารกิจ"

"ภารกิจอะไร?" ฮวงเฟิงถามขึ้นอย่างประหลาดใจ ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นระหว่างหลี่ปิงอวิ๋นและถงเฉียนจุน เขาก็ไม่เคยได้รับภารกิจอะไรอีกเลย

"จากข้อมูลที่ได้มา ตอนนี้มีกลุ่มอาชญากรรวมหัวกับกองกำลังจากต่างประเทศวางแผนก่อกายร้ายขึ้นในประเทศของเรา  ตอนนี้สามาชิกอื่นขององค์กรรักษาความมั่นคงแห่งชาติได้สืบจนค้นพบที่อยู่ของคนพวกนี้แล้วไล่ต้อนพวกมันมาจนถึงมณฑลชิง ไม่ว่าจะอย่างไรฉันก็เป็นคนที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลจังหวัดชิง หัวหน้าจึงบอกให้เราพร้อมกับสมาชิกคนอื่น ๆ ช่วยกันจัดการเรื่องนี้" ไป๋เสี่ยวโหรวบอก

"เรื่องนี้มันเป็นความจริงเหรอ?" ฮวงเฟิงยังคงถามขึ้น

"ถัดจากนี้ไปก็จะเป็นป่าทึบในเขตเฉียงโจว ตอนนี้พวกมันอาจจะซ่อนตัวอยู่ที่นั่น" ไป๋เสี่ยวโหรวกล่าว

เมื่อได้ยินดังนั้นฮวงเฟิงก็พยักหน้า มณฑลหยิงอยู่ติดกับมณฑลเจียง ดังนั้นถ้าหากเขาขับรถไปก็น่าจะใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงกว่าจะไปถึง เขาจึงถามขึ้น "หรือว่าผมควรจะไปตอนนี้เลย?"

"ก็ดี พวกเราน่าจะไปถึงที่นั่นเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้" ไป๋เสี่ยวโหรวกล่าว "อย่างไรก็แล้วแต่ ไม่ใช่แกคุณคนเดียว แต่เป็นพวกเรา!"

"คุณจะไปด้วยเหรอ!?" ฮวงเฟิงถามขึ้นอย่ากตกใจ นับตั้งแต่ไปเสี่ยวโหรวสูญเสียกำบัวภายในไป เธอก็มักจะใช้ชีวิตไม่ต่างจาก โอตาคุ ที่วัน ๆ เอาแต่กินและดูทีวี ไม่ได้ออกไปทำภารกิจใดเลย หากมีภารกิจเข้ามาเธอก็จ่ะปล่อยให้เขาออกไปทำเพียงลำพัง จนเสร็จสิ้นภารกิจ

"มีอะไรเหรอ ไม่ได้หรือไง?" ไป๋เสี่ยวโหรวเลิกคิ้วขึ้นและกล่าวว่า "แม้ว่าฉันจะไม่มีกําลังภายในแต่การต่อสู้ที่แท้จริงของฉันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าคุณ"  แม้ว่าตอนนี้ไป๋เสี่ยวโหรวจะยังไม่สามารถฟื้นคืนกำลังภายในได้ แต่เธอก็ยังคงมีเทคนิคและประสบการณ์ในการต่อสู้ ซึ่งจะว่าไปแล้วมันก็ย่อมเหนือฮวงเฟิงผู้เป็นเด็กใหม่อย่างแน่นอน

"ไม่จําเป็นหรอก" ฮวงเฟิงตอบ "ทําไมรออยู่ที่นี่ละ? ผมจะไปเอง รับประกันได้เลยว่าไม่มีอะไรผิดพลาดแน่"

"ไม่" ไป๋เสี่ยวโหรวส่ายหน้าแล้วพูดว่า "คุณเป็นสมาชิกใหม่ที่เพิ่งเข้าร่วมองค์กร ตามกฎแล้วควรมีผู้อาวุโสที่พอให้คำแนะนำคุณได้ตามไปด้วย"

มื่อเห็นว่าไป๋เสี่ยวโหรวยังยืนกรานเช่นนั้นฮวงเฟิงก็ไม่ได้พูดอะไรอีก และเมื่อคิดไปคิดว่าแล้วถึงแม้ว่าไป๋เสี่ยวโหรวจะไม่กำลังภายใน แต่เธอก็มีประสบการณ์ดังนั้นจึงไม่น่าที่จะมีอันตรายใด ๆ เกิดขึ้นกับเธอได้ หลังจากทั้งสองคนได้พูดคุยถึงแผนการของพวกเขาแล้ว  ทั้งสองก็แยกย้ายกันกลับไปยังห้องของตัวเอง เนื่องจากพวกเขามีภารกิจบางอย่างที่ต้องทำในวันพรุ่งนี้พวกเขาจะต้องพักผ่อนเร็ววันนี้  อย่างไรก็ตามฮวงเฟิงก็ไม่ได้เข้านอนในทันที เขากลับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาซูหยูโม่

"หวัดดี เป็นไงบ้าง?"

"ฮวงเฟิง นีมันดึกมากแล้ว ทําไมถึงโทรเอาป่านนี้คะ?" ในตอนนี้ซูหยูโม่ได้เข้านอนแล้ว ต่างจากฮวงเฟิงที่เพิ่งกินเสร็จและพูดคุยถึงการทำงาน

"ไม่มีอะไรหรอก ผมก็แค่อยากถามว่าพรุ่งนี้คุณได้เตรียมความพร้อมเรื่องยาไว้อย่างไรบ้างก็เท่านั้น ถ้ามีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้ " ฮวงเฟิงไม่ทันได้พูดจบ เสียงอีกฝ่ายก็พูดแทรกขึ้นว่า

"ไม่เป็นไรค่ะ ทุกอย่างได้เตรียมการไว้พร้อมแล้ว" ซูหยูโม่ ลูบหน้าตัวเองแล้วพูดอย่างเหนื่อย ๆ วันนี้เธอและ เซี่ยเหมิ่งเจียวยุ่งตลอดทั้งวัน เพื่อตรวจสอบทุกอย่างให้มั่นใจว่าจะไม่มีข้อผิดผลาดใด ๆ เกิดขึ้น

"ฉันรู้ ว่าคุณห่วง ฉันไม่ได้พูดเพราะเกรงใจคุณหรอกนะ" ซูหยูโม่พูดด้วยรอยยิ้ม

"เอาล่ะ งั้นก็พักผ่อนแต่เนิ่น ๆ นะครับ พรุ่งนี้ผมยังมีงานต้องทํา" ฮวงเฟิงกล่าวในที่สุด จากการพูดคุยผ่านโทรศัพท์เขาสามารถบอกได้เลยว่า เหมือนซูหยูโม่ดูจะเหนื่อยหล้า หมดเรี่ยวแรงเอามาก ๆ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากรบกวนเธออีก

"อืม คุณก็พักผ่อนเร็วด้วยนะค่ะ" ซูหยูโม่ กล่าว  หลังจากที่ฮวงเฟิงวางสายเขาก็ครุ่นคิดว่าจะสามารถช่วยซูหยูโม่ได้อย่างไร แต่ที่เห็นในตอนนี้คือซูหยูโม่ไม่อยากที่จะกดดันเขา ดังนั้นต่อให้เธอต้องเจอกับปัญหาอะไรก็ตามเธอก็จะไม่มีวันบอกเขา

"ดูเหมือนว่าฉันต้องรีบก้าวหน้าขึ้นให้มาก ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่สามารถทำอะไรได้เลยต่อให้ฉันอยากทำมากแค่ไหน" ฮวงเฟิงครุ่นคิดถึงวิถทางที่จะช่วยเหลือแฟนสาว ในที่สุดจนไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะยังวิลล่าที่อยู่ในมิติอื่นและเรียกหุ่นยนต์และหนิงอู๋ซวงตามลําดับ

เนื่องจากคำแนะนำที่ชัดเจนจากฮวงเฟิงทำให้หุ่นยนต์จึงพัฒนาขึ้นได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เนื่องจากหลักคําสอนที่บางครั้งสิ่งต่าง ๆ พัฒนาช้า แต่ก็สามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีข้อผิดพลาดใหญ่เกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการพัฒนา ดังนั้น ฮวงเฟิงค่อนข้างจึงสะดวกสบายมากขึ้นที่มีหุ่นยนต์ตัวนี้คอยดูแลโรงไวน์ให้กับเขา  ในเวลาเดียวกันหนิงอู๋ซวงก็รู้สึกมีความสุขมากเมื่อเธอเห็นฮวงเฟิง ในตอนนี้ขณะที่เธออยู่ในอีกสถานที่หนึ่งอีกช่วงกาลเวลาหนึ่งนั้นมีเพียงเสี่ยวชุ่ยเท่านั้นที่เธอสามารถพูดคุยปรับทุกข์ด้วยได้

นับตั้งแต่ฮวงเฟิงจากไป เพื่อเป็นการฆ่าเวลาและช่วยฮวงเฟิงหาเงินให้มากขึ้นเธอใช้ความพยายามอย่างมากในธุรกิจของเธอ แม้ว่าพรสวรรค์ของเธอไม่สามารถเปรียบเทียบกับเสี่ยวชุ่ยได้ แต่เธอก็ไม่ได้โง่  แต่ละครั้งแหวนมิติจะนําสิ่งต่าง ๆ มากมายจากโลกมาด้วย ครั้งที่สามและครั้งสุดท้ายที่ฮวงเฟิงพบกับหนิงอู๋ซวงและเขาก็ไม่ได้มอบแหวนมิติไว้กับเธอด้วยถึงแม้ว่าจะดูเหมือนว่าท้ายที่สุดแหวนมิตินั้นดูจะมีประโยชน์กับเธอมากกว่าเขา หลังจากย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่สามนั้นเขาจะไม่สามารถพบกับหนิงอู๋ซวงได้อย่างน้อยหนึ่งวัน เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่ได้มอบแหวนมิติอู๋ซวงได้ยืม อย่างไรก็ตามฮวงเฟิงก็ต้องการแหวนมิติเพิ่มขึ้นอีกวง แต่เนื่องจากตอนนี้เขายังไม่มเงินมากพอที่จะซื้อแหวนมิให้หนิงอู๋ซวงได้