USB:บทที่ 727 ใครรังแก
"พี่หยูโม่ ขนาดนี้แล้ว ทำไมพี่ยังเอาแต่ปกป้องไอ้ลูกไม่มีพ่อคนนั้นอยู่ได้? ไม่ ฉันทนไม่ไหวแล้ว ฉันจะโทรไปด่าเขาตอนนี้เลย!" เห็นได้ชัดว่าเซี่ยเหมิ่งเจียวไม่เชื่อคำพูดของซูหยูโม่ คืนนี้ซูหยูโม่จะต้องออกไปเดทกับฮวงเฟิงมาแน่ ๆ แล้วเธอก็หมกตัวอยู่ในห้องทันทีที่กลับมาบ้าน
"นั่นสิ พี่หยูโม่ ไม่ต้องห่วง พวกเราจะไม่ยอมให้พี่ถูกรังแก!" ในเวลาแบบนี้มันเป็นเรื่องยากสำหรับถังมู่เสวี่ยที่จะแก้ต่างให้กับฮวงเฟิงในเมื่อพี่สาวของเธอถูกเขารังแก และเธอก็ไม่อาจทนดูได้อีกต่อไป แม้ว่าลึก ๆ ในใจของเธอจะไม่อยากเชื่อเลยว่าฮวงเฟิงจะรังแกซูหยูโม่จริง ๆ แต่ดูจากท่าทางของซูหยูโม่แล้ว ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องจริง
"อย่า!" ซูหยูโม่ที่อยูภายในห้องร้องตะโกนออกมาด้วยความกระวนกระวาย เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าสองคนนั้นเพิ่งพูดอะไรออกมา ถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเธอก็ไม่ควรที่พูดออกมาเช่นนั้น ถ้าหากเซี่ยเหมิ่งเจียวโทรไปต่อว่าฮวงเฟิงจริง ๆ หรือแม้กระทั่งจะไปเอาเรื่องฮวงเฟิงด้วยตัวเอง ถ้าหากเป็นเช่นนั้นไม่เท่ากับว่าเธอเป็นคนทำร้ายฮวงเฟิงหรือไงกัน? ดังนั้นซูหยูโม่ไม่ห่วงกลัวความอายอีกต่อไป เธอรีบเปิดประตูในทันที แล้วพูกับเซี่ยเหมิ่งเจียวและถังมู่เสวี่ย "ฉันไม่ได้ถูกรักแก พวกเธอเข้าใจผิดแล้ว!"
เมื่อเห็นว่าซูหยูโม่ยอมเปิดประตูออกมาแล้ว สองสาวเพื่อสนิทก็หันกลับไปทันที อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นสภาพของซูหยูโม่เซี่ยเหมิ่งเจียวก็ยิ่งรู้สึกโกรธมากขึ้น "พี่หยูโม่ ดูสิเขารังแกพี่ยังไง ปากของพี่บวมเจ่อขนาดนี้แล้ว ทำไม่พี่ยังจะแก้ตัวแทนเขาอยู่ได้ ไม่ได้ ฉันจะต้องด่าเขาให้ตายไปเลย!"
ได้ยินคำเซี่ยเหมิ่งเจียวพูดเช่นนั้น ซูหยูโม่รู้จะหัวเราะหรือร้องให้ดี แต่เมื่อทำท่าจะอธิบาย ถังมู่เสวี่ยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มองไปที่ริมฝีปากเจ่อ ๆ ของซูหยูโม่ และดูเหมือนว่าเธอจะคิดบางอย่างคิดมาได้ แล้วเธอก็รีบดึงเซี่ยเหมิ่งเจียวเข้าไปหาเธอทันที
"มีอะไร? จิ้งจอกถัง เธอก็อยากช่วยเหลือไอ้ลูกไม่มีพ่อนั้นด้วย?" เซี่ยเหมิ่งเจียวถามขึ้นอย่างไม่พอใจ
"ฉันไม่ใช่จะช่วยเขา ที่เห็นนั่นมันไม่ใช่อย่างที่เธอคิด ฮวงเฟิงรังแกพี่หยูโม่จริง ๆ แต่ไม่ใช่ในแบบที่เราคิด" ถังมู่เสวี่ยพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า พอได้รู้เพียงแค่นั้นหัวใจของเธอก็รู้สึกขมขื่นขึ้นมาทันที ทว่าเธอไม่สามารถแสดงออกให้ใครเห็นได้
"พี่หยูโม่จะ...?" เซี่ยเหมิ่งเจียวขี้สงสัย มองไปที่ถังมู่เสวี่ยแล้วมองไปที่ซูหยู่โม่ที่อยู่ครู่หนึ่ง ราวกับว่าเธอยังไม่สามารถตอบสนองได้
หลังจากที่คำพูดของถังมู่เสวี่ยแล้ว ซูหยูโม่ก็เริ่มรู้สึกเขินอายมากขึ้น เนื่องจากเธอรู้แล้วว่าในตอนนี่ถังมู่เสียได้เดาเรื่องราวได้แล้ว และเมื่อเทียบกับเซี่ยเหมิ่งเจียว เห็นได้ชัดว่าถังมู่เสวี่ยมีความรู้เรื่องนี้มากกว่า
"ยัยบื้อ" ถังมู่เสวียตบหัวเซี่ยเหมิงเจียวแล้วพูดขึ้น "เธอเองก็อายุมากแล้ว ยังไม่ประสีประสาเรื่องแบบนี้อีกเหรอนี่? ฉันละเป็นห่วงแฟนในอนาคตของเธอจริง ๆ เลย"
"จิ้งจอกถัง เธอหมายความว่าไง?"
"มันชัดเจนมาก ริมฝีปากของพี่หยูโม่ที่บวมเจ่ออยู่นี่ไง เข้าใจหรือยัง? น่าสงสารรีบไปหาแฟนสักคนแล้วเธอจะเข้าใจ" ถังมู่เสวี่ยวพูด
"เธอนี่รู้มากเหลือเกิน!" เซี่ยเหมิ่งเจียวประชดขึ้น จากนั้นก็หันไปหาซูหยูโม่แล้วพูด "พี่หยูโม่ มันเรื่องจริงหรือเปล่าคะ?"
แม้ว่าซูหยูโม่จะรู้สึกอับอายเป็นอย่างมากที่เรื่องของเธอกับฮวงเฟิงกลายข้อถกเถียงเช่นนี้ แต่เธอก็ไม่คิดจะสนใจทั้งสองสาวอีกต่อไป เธอพยักหน้าอย่างรับ
"เห็นมั้ย? ฉันพูดไม่ผิด ใช่หรือเปล่า?" ถังมู่เสวี่ยพูดขึ้น
"พี่หยูโม่ พี่คงไม่ใช้พวกที่ชอบความรุนแรงหรอกน่ะ? เซี่ยเหมิ่งเจียวพูดขึ้นขณะที่มองไปยังซูหยูโม่
ว่าไปแล้วในบรรดาพวกเธอทั้งสามคน ซูหยูโม่อายุมากว่าทุกคนอีกอย่างเธอก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เป็นคนที่มีความคิดเป็นตัวของตัวเองมากที่สุดคนหนึ่ง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำให้เธอรู้สึกสูญเสียความเป็นตัวเองไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี ในเวลาเดียวกันนั้นก็รู้สึกโกรธฮวงเฟิงอยู่ในใจ
"พี่หยูโม่ เห็นที่เราต้องคุยกันแล้ว พวกพี่จูบกันที่ไหน? เขาใช้ท่าทีแบบไหน? เขาจูบพี่นานแค่ไหน? ตอนนั้นพี่คิดอะไรอยู่?" ถังมู่เสวี่ยยิงคำถามมาก แล้วมองไปที่ซูหยูโม่ด้วยใบหน้าอยากรู้อยากเห็นขณะที่เธอลากซูโม่ออกจากห้องของไปยังห้องโถงซึ่งตรงกันข้ามกับความรู้สึกของตกใจของเสวี่ยเหมิ่งเจียว" ในขณะนั้นก็ดูเหมือนว่าเซี่ยเหมิ่งเจียวเองก็เริ่มอยากรู้อยากเห็นและได้ถามคำถามเดียวกัน ดังนั้นซูหยูโม่จำทำได้แค่เพียงใช้ทั้งหมดของหัวใจเธอเพื่อจัดการกับสองเพื่อนสนิทที่กำลังซุบซิบกันอย่างดุเดือด
ในเวลานั้นฮวงเฟิงไม่รู้ถึงสถานการณ์ของซูหยูโม่เลย ในขณะที่ขับรถอยู่นั้นได้ฮัมเพลงในลำคออย่างมีความสุข สิ่งที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนี้ทำให้เขามีความสุขมาก อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่างเขากับซูหยูโม่ได้ใกล้ชิดมากขึ้น เมื่อกลับถึงที่พักของเขาก็อารมณ์ดีมากขึ้น นั่นเพราะเป็นอีกครั้งที่กล่องจักรวาลของเขามอบของใหม่ให้กับเขา บางสิ่งบางอย่างที่เขาจำเป็นมาก!
"แหวนมิติจริง ๆ ด้วย!" ภายในห้องของเขา ฮวงเฟิงตะโกนออกมาอย่างประหลาดใจ เขากำลังประสบปัญหาเรื่องแหวนมิติอยู่พอดี ถ้าหากไม่มีแหวนมิติในแต่ละครั้งเขาก็จะนำของไปส่งให้กับหนิงอู๋ซวงได้เพียงแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ทำให้แหวนมิติจึงเป็นของล้ำค่า และฮวงเฟิงไม่มีทางที่จะซื้อมันได้เนื่องจากราคาแพงเกินไป ภายในระยะเวลาสั้น ๆ นี้ถ้าหากฮวงเฟิงอยากได้แหวนมิติแค่เพียงทางเดียวคือต้องอาศัยกล่องจักรวาลเท่านั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฮวงเฟิงยังไม่มีของในลักษณะเดียวกันเพื่อทำการแลกเปลี่ยน เช่นนี้แล้วฮวงเฟิงจึงไม่ได้ตั้งความหวังไว้มากนักที่จะได้รับมันไม่อยากเชื่อเลยว่าวันนี้เขาได้มันมา ก่อนที่ความรู้สึกตื่นเต้นดีใจของฮวงเฟิงจะนิ่งสงบลง แหวนมิติที่อยู่บนมือของเขาจู่ ๆ ก็ลอยขึ้น แล้วของสองสิ่งก็ลอยออกมาจากแหวนวงนั้น
"มันจะเทเลพอร์ตอีกครั้งหรือนี่? โชคของฉันดีจริง ๆ" ฮวงเฟิงพูดขึ้นในขณะที่เขามองดูภาพเหตุการณ์ที่คุ้นเคยตรงหน้า
เพียงแต่ฮวงเฟิงไม่รู้ว่าเขาจะเทเลพอร์ตไปที่ใดและใกลแค่ไหน แต่ก็พอจะคาดเดาได้จากของวิเศษที่ลอยออกมา ซึ่งเป็นของหายากในโลกแห่งความจริงนี้ แต่ทว่าฮวงเฟิงกลับรู้สึกกังวลในเรื่องของความแข็งแกร่ง ในโลกแห่งอดีตเขาคือผู้ไร้เทียมทานเนื่องจากเป็นโลกแห่งการต่อสู้ระดับต่ำ ด้วยทักษะและความแข็งแกร่งของฮวงเฟิงจึงยากที่จะหาคู่ต่อสู้ อย่างไรก็ตามโลกที่เขากำลังจะเทเลพอร์ตไปในครั้งนี้เห็นได้ชัดว่าไม่เป็นเช่นนั้น เขาได้ฝึกฝนการใช้เวทย์มนตร์ในมิติแห่งนั้นจนกลายเป็นนักเวทย์ และอาศัยของวิเศษของศิปละการต่อสู้ด้วยเวทย์มนตร์ จนสามารถก้าวขึ้นเป็นสุดยอดฝีมือที่มีความแข็งแกร่งในขั้นสูงสุดในระดับสอง อย่างไรก็ตามในแง่ของเวทย์มนตร์เพียงอย่างเดียว เขายังไม่ได้เชี่ยวชาญมากนัก อีกทั้งยังไม่มีมีเวทมนตร์ที่ทรงพลังใด เนื่องจากฮวงเฟิ่งไม่เคยไปยังโลกแห่งเวทย์มนตร์ ไม่รู้ว่าเขาเรียนรู้ได้มากแค่ไหนและจำแนกเวทย์มนตร์ได้อย่างไร เป็นเพราะเหตุนี้ฮวงเฟิงจึงรู้สึกค่อนข้างเป็นวิตกถึงประตูแห่งการเทเลพอร์ตในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามไม่ว่าเขาจะมีความมั่นใจหรือรู้สึกวิตกกังวลก็ตาม การเทเลพอร์ตในครั้งนี้ก็ต้องเสร็จสิ้นลง กล่องจักวาลจะไม่สอบถามความคิดเห็นของเขา
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved