USB:บทที่ 317 ตกลง
ในที่สุดเซี่ยเมิ่งเจียวและถังมู่เสวี่ยก็ออกไปทานผมว
อีกด้านหนึ่งนั้น ฮวงเฟิงนั้นกำลังรับประทานอาหารเย็นอยู่กับซูหยูโม่ อย่างไรก็ตามทั้งสองคนนั้นกำลังอารมณ์ดีเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งฮวงเฟิงที่แอบรู้สึกพึงใจเมื่อเขาคิดถึงสีหน้าของเซี่ยเมิ่งเจียวที่ถูกปฏิเสธเพราะเขา อีกด้านหนึ่งนั้นซูหยูโม่ก็กำลังคิดถึงเซี่ยเมิ่งเจียวและเธอก็จะต้องอธิบายทุกอย่างให้เธอได้ฟังตอนที่กลับถึงบ้านในคืนนี้
เมื่อฮวงเฟิงและซูหยูโม่กำลังทานอาหารอยู่นั้น ถงเฉียนเองก็กำลังรับประทานอาหารอยู่เช่นกันแต่เขาไม่ได้รับประทานอยู่คนเดียว แต่กำลังรับประทานอาหารอยู่กับคาวะชิมะดังนั้นบรรยากาศจึงไม่แย่สักเท่าไร
“ท่านลอร์ดคาวาชิมะ ลองทานจานนี้ดูสิครับ นี่เป็นเมนูแนะนำของที่นี่จะหาทานที่อื่นไม่ได้เลยนะ” เขากำลังเอาอกเอาใจคาวาชิมะ บางส่วนก็เป็นเพราะว่าเขามีบางอย่างที่อยากจะขอเขา และบางส่วนก็เพราะว่าเขาเป็นแขกผู้มีเกียรติของพ่อของเขาที่เขาจะต้องเอาใจเป็นพิเศษ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวมากนักและเขาก็รู้ว่าเขาจะต้องทำอะไร
เขาพยักหน้าและจ้องมองดูการกุลีกุจอของถงเฉียนและกล่าวว่า “พวกคนจีนนี่ไม่ค่อยจะมีความสามารถอะไรเลยนะ พวกคุณดีแต่เรื่องกินนี่แหละ”
ถงเฉียนไม่ได้ใส่ใจที่อีกฝ่ายนั้นจะประจบประแจงเขาจริงๆ หรือไม่และยังล้อเลียนเขาอีกด้วย เขาจึงเพียงยิ้มและพยักหน้า "นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดา”
“ถงเฉียน ทำไม่คุณจึงมาหาผมในวันนี้ล่ะ?” คาวาชิมะมองดูถงเฉียนและกล่าวออกมา
เป็นเพราะถงเฉียนจุ้นนั้นให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในการปกป้องลูกชายของเขา ป้องกันไม่ให้เขารู้เรื่องของตัวเองมากเกินไปและไม่อนุญาตให้เขาเผมไปเกี่ยวข้องกับเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวเองและญี่ปุ่น ดังนั้นแม้ว่าคาวะชิมะจะรู้จักถงเฉียนแต่ทั้งสองคนก็ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กันมากนักและไม่มีความสนิทสนมกันในรูปแบบใดๆ ในวันนี้ถงเฉียนปฏิบัติต่อเขาเช่นนี้เห็นได้ชัดว่าเขามีบางอย่างที่จะขอเขา
“ท่านคาวาชิมะนี่ฉลาดจริงๆ” ถงเฉียนประจบแต่เขาก็ไม่ได้ปิดบังอะไรและกล่าวว่า “ผมอยากจะขอท่านคาวาชิมะให้ช่วยฆ่าใครบางคน!”
“ฆ่าคนงั้นเหรอ!?” เขาไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำหรือว่าเขากลัวเรื่องนี้แต่เป็นเพราะว่าเขานั้นไม่ได้สนิทกับถงเฉียนและจริงๆ แล้วก็ยังแปลกใจอยู่ที่เขาเชิญมาทำอะไรเช่นนี้และยิ่งไปกว่านั้นในสายตาของเขาแล้วถงเฉียนนั้นเป็นเพียงทายาทคนรวยรุ่นที่สองที่ไม่มีฝีมืออะไรเลย และแน่นอนว่าเขานั้นเป็นที่อิจฉาของคนรวยรุ่นที่สองคนอื่นๆ
“ใช่แล้ว ไอ้คนน่ารำคาญคนหนึ่ง” ถงเฉียนกล่าวขณะที่กัดฟันไปด้วย เขาถูกพ่อของเขาเอาใจจนเสียคน ไม่เช่นนั้นแล้วเขาจะกลายเป็นคนไม่มีหัวคิดที่กล้าขอร้องคนอื่นที่ไม่คุ้นเคยให้ทำเรื่องประเภทนี้ได้อย่างไรกัน?
“ผมเสียใจนะถงเฉียน ผมเป็นเพียงนักธุรกิจ และผมก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ แน่นอนว่าผมจะไม่ไปบอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้เพื่อเห็นแก่คุณถง” หลังจากที่คาวะชิมะให้คะแนนลบกับถงเฉียนแล้วเขาก็ปฏิเสธคำขอร้องของอีกฝ่าย
“ผมจะให้เงินนะ! ท่านทำธุรกิจเพื่อหาเงินไม่ใช่เหรอ? ยิ่งไปกว่านั้นผมก็รู้มาว่าท่านนั้นมีฝีมือมากและสามารถที่จะฆ่าใครก็ได้อย่างง่ายดาย” เห็นได้ชัดว่าถงเฉียนนั้นยังไม่ยอมเลิกราง่ายๆ ความจริงแล้วเขาก็ไม่รู้หรอกว่าเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไรที่คาวะชิมะแห่งนี้และพ่อของเขาก็ร่วมด้วย
“ผมเสียใจนะคุณเฉียน คุณไปหาคนอื่นทำให้เถอะ” คาวาชิมะจะหว่านล้อมถงเฉียนได้อย่างไรด้วยคำพูดเพียงแค่ไม่กี่คำ? เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อฆ่าคนแต่เพื่อดูแลเรื่องของตัวเอง และในตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าพวกเขาจะถูกจับตามองเสียแล้ว
ถงเฉียนขมวดคิ้ว บ่อยครั้งที่เขาขอให้ใครทำอะไรให้มีน้อยคนนักที่จะปฏิเสธเขา อย่างไรก็ตามในตอนนี้ไม่ว่าเขาจะพูดเช่นไรอีกฝ่ายก็ยังไม่มีท่าทีที่จะตกลง
“นี่มันไม่ฉลาดเลยนะที่ท่านคาวาชิมะปฏิเสธ?” ถงเฉียนขมวดคิ้ว “พ่อของผมมีลูกชายแค่คนเดียว ธุรกิจของท่านก็จะต้องตกทอดมาสู่ผมในอนาคตและผมก็จะได้เผมครอบครองในไม่ช้า”
เพราะว่าอีกฝ่ายนั้นมีถงเฉียนเป็นลูกชายเพียงคนเดียว ดังนั้นถงเฉียนจุ้นจึงไม่ค่อยได้บอกให้เขารู้เกี่ยวกับธุรกิจแต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องชั่วคราวและหลังจากช่วงเวลานี้ไปถงเฉียนก็จะต้องเข้ามามีส่วนร่วมอย่างแน่นอน
ปัจจุบันคาวาชิมะไม่รู้ว่าถงเฉียนจุ้นกำลังคิดหาวิธีกำจัดพวกมันอยู่แล้ว และเขาจะไม่ปล่อยให้ถงเฉียนทำในสิ่งที่เขาทำต่อไป
สำหรับตระกูลถง พวกเขาเป็นหุ้นส่วนขององค์กรในทวีปและพวกเขามีความแข็งแกร่ง มีประสบการณ์และตกลงที่จะทำงานร่วมกัน ความร่วมมือเช่นนี้ไม่ได้หาได้ง่ายๆ ดังนั้นทั้งคาวาชิมะและองค์กรที่สนับสนุนเขาจึงไม่อยากยอมแพ้ให้กับตระกูลถง และในฐานะผู้สืบทอดตระกูลแต่เพียงผู้เดียวพวกเขาไม่ต้องการทำให้พวกเขาขุ่นเคืองด้วย
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้คาวาชิมะพูดกับถงเฉียนว่า "ถงเฉียน คุณช่วยบอกฉันเกี่ยวกับสถานการณ์ของอีกฝ่ายมาก่อน ส่วนผมจะยอมรับข้อเสนอของคุณหรือไม่เราค่อยคุยกันในภายหลัง”
ในเมื่อคาวะชิมะได้กล่าวไปแล้วจึงไม่มีปัญหามากนัก แน่นอนว่าหลังจากที่รู้ว่าฮวงเฟิงเป็นเพียงคุณหน้าที่รักษาความปลอดภัยและอาจมีฝืมือบางอย่าง คาวาชิมะก็คิดสักครู่ก่อนที่จะตอบตกลง แน่นอนคาวาชิมะไม่ใช่คนขี้แพ้ ดังนั้นเขาจึงใช้โอกาสนี้ในการร้องขอเรื่องอื่นๆ ไปยังถงเฉียน
เมื่อเปรียบเทียบกับประสบการณ์ของถงเฉียนจุ้นแล้ว ถงเฉียนยังไม่มีประสบการณ์มากนักและมันก็ง่ายที่จะหลอกล่อเขา คาวะชิมะถึงกับคิดว่าถงเฉียนนั้นควบคุมเรื่องนี้ได้ดีกว่าและคิดว่าเขาควรแนะนำองค์กรที่อยู่เบื้องหลังให้เปลี่ยนหุ้นส่วนธุรกิจของพวกเขาและทำให้ถงเฉียนจุ้นหายตัวไปเพื่อที่ถงเฉียนสามารถยึดครองตระกูลถงซึ่งจะทำให้พวกเขาควบคุมตระกูลถงได้อย่างสมบูรณ์ แน่นอนว่าถงเฉียนนั้นไม่ได้มีสมองมากนักดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายที่คนเช่นนี้จะเกิดปัญหา
เป้าหมายของถงเฉียนบรรลุแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเขาได้สร้างความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนของพ่อของเขา สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกอิ่มเอมใจเล็กน้อยและในอนาคตพ่อของเขาก็จะไม่พูดว่าเขาไร้ประโยชน์
ขณะที่ถงเฉียนกำลังสนทนากับคาวะชิมะอย่างมีความสุขอยู่นั้น เขาไม่รู้ว่าพ่อของเขากำลังพยายามคิดหาวิธีที่จะหลุดพ้นจากการควบคุมของพวกเขาและหยุดร่วมมือกับพวกเขาเสีย
แน่นอนว่านี่ไม่ได้หมายความว่าเขา ถงเฉียนจุ้น จะไม่ทำเช่นนี้อีกต่อไป แต่หากคือเขาต้องการที่จะไปร่วมมือกับผู้อื่นเพราะคนอื่นๆ ไม่มีภูมิหลังมากนักและจะไม่สามารถควบคุมเขาได้ ความรู้สึกของการถูกควบคุมโดยคนอื่นนั้นมันไม่ดีและเขาอยากจะกำจัดความรู้สึกนี้มาตั้งนานแล้ว
แน่นอนว่าฮวงเฟิงเองก็ไม่รู้เช่นกัน มันไม่ง่ายเหมือนกับการให้บทเรียนกับตัวเอง แต่ถึงฮวงเฟิงจะไม่รู้ แต่เขาก็เดาได้ว่าเขารู้ว่าถงเฉียนเป็นคนแบบไหน
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved