USB:บทที่ 337 มารับที่สนามบิน
ในตอนที่ฮวงเฟิงไปถึงสนามบินนั้นก็เป็นเวลาเกือบสิบโมงแล้ว ยังพอมีเวลาอีกประมาณ 10 นาทีกว่าที่จะถึงเวลาที่เครื่องบินของหลี่ปิงหยุนจะลงจอด
ฮวงเฟิงพบความผิดปกติอย่างรวดเร็วที่สนามบิน ไม่ใช่เพราะว่าเขาเจอกับอันตรายเข้ากับตัวเอง แต่มีชายหญิงจำนวนมากกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันอยู่ที่ทางออกของสนามบิน พวกเขาต่างก็พากันชูตะเกียง แผ่นเสียง และแม้กระทั่งโปสเตอร์หนัง และมองไปที่ประตูทางเข้าผู้โดยสารขาเข้า
ถึงแม้ว่าฮวงเฟิงจะรู้จักถึงอิทธิพลและความมีชื่อเสียงที่ยาวนาน แต่ฮวงเฟิงก็ยังคงตกใจและประหลาดใจอยู่ลึกๆ ที่มีผู้คนมหาศาลมารวมตัวกันที่สนามบินเพื่อพบเธอ เพราะว่ามีคนที่มารอพบเธอที่สนามบินประมาณเกือบหนึ่งร้อยคน และฮวงเฟิงก็ยังเห็นแฟนคลับของหลี่ปิงหยุนอยู่ที่บริเวณร้านค้าด้านนอกสนามบินอีกส่วนหนึ่งด้วย
ในตอนนี้ฮวงเฟิงรู้แล้วว่าทำไมเซี่ยเมิ่งเจียวถึงได้ย้ำแล้วย้ำอีกก่อนที่เธอจะออกมารับหลี่ปิงหยุนให้มารับเธออย่างปลอดภัย เพราะว่ามีแฟนคลับจำนวนมากเช่นนี้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอก็น่าจะเป็นอันตรายต่อหลี่ปิงหยุน ยิ่งไปกว่านั้นฮวงเฟิงเองก็ไม่กล้าที่จะรับประกันว่าเธอสามารถพาหลี่ปิงหยุนหลบแฟนคลับได้สำเร็จหรือไม่
เดิมทีแล้วเที่ยวบินที่หลี่ปิงหยุนมานั้นไม่ได้ถูกประกาศอย่างเป็นทางการ แต่อย่างไรก็ตามแฟนคลับของเธอก็ต้องติดตามกำหนดการของไอดอลของพวกเขาอยู่แล้ว และก็คงจะมีบางคนที่รู้เป็นการภายในดังนั้นการที่พวกแฟนคลับจะรู้เที่ยวบินของหลี่ปิงหยุนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด
“นี่ พี่ชาย คุณก็มารับคนเหมือนกันงั้นเหรอ?” ขณะที่ฮวงเฟิงกำลังอยู่ที่ด้านนอกของฝูงชนเหล่านั้นและกำลังคิดหาวิธีทางที่จะแหวกเข้าไป ก็มีใครบางคนตบที่บ่าของเขา ฮวงเฟิงจึงได้หันไปดูและเห็นว่าเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่เขาไม่รู้จัก
“ใช่แล้วล่ะ แต่คนเยอะเหลือเกินกว่าจะแหวกเข้าไปได้” ฮวงเฟิงกล่าว
“แน่นอนครับ ปิงหยุนเธอมีแฟนคลับเยอะมาก ถ้าคุณมาเวลานี้คุณก็คงจะแหวกเข้าไปอยู่ข้างหน้าไม่ได้หรอก” เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มคนนี้ทำเหมือนว่าฮวงเฟิงเองเป็นแฟนคลับธรรมดาๆ คนหนึ่งที่มารอรับปิงหยุน
“นี่นายก็มารับปิงหยุนเหมือนกันงั้นเหรอ?” ฮวงเฟิงมองดูที่แผ่นเสียงที่อยู่ในมือของเขาที่มีรูปภาพของปิงหยุนอยู่บนนั้นและกล่าวว่า “นายก็มาสายเหมือนกัน นี่นายไม่ได้เพิ่งจะพูดเองเหรอว่าไปอยู่ด้านหน้าไม่ได้?”
“ใครบอกกันล่ะ? ก็คุณวิ่งมาหาผมเอง คุณต้องบอกว่าตัวเองโชคดีแล้วล่ะ คอยดูผมนะ” ชายหนุ่มกล่าว
จากนั้นฮวงเฟิงก็เห็นอีกฝ่ายก้มหัวลงต่ำและเริ่มที่จะแหวกฝูงชนไปทางด้านหน้า การเคลื่อนไหวและการควบคุมความแข็งแกร่งของเขานั้นกำลังต่อสู้กับคนนับร้อย ขณะที่ตาของฮวงเฟิงเป็นประกาและรีบแทรกตัวตามหลังชายหนุ่มไปติดๆ
ตลอดทางฮวงเฟิงที่เดินไปนั้นฮวงเฟิงได้ค้นพบว่าท่ามกลางแฟนคลับมากมายนั้นชายหนุ่มคนนี้ค่อนข้างเป็นที่รู้จัก มีแฟนคลับหลายคนที่รู้จักเขา เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นแฟนตัวยงของหลี่ปิงหยุนและมีอิทธิพลต่อบรรดาแฟนคลับดังนั้นการที่เขาแทรกตัวเดินไปที่ด้านหน้านั้นจึงค่อนข้างราบรื่น
เมื่อชายหนุ่มหยุดเดิน เขาก็เพิ่งจะเห็นว่าฮวงเฟิงนั้นอยู่ข้างๆ เขา และประหลาดใจอยู่ชั่วขณะ “พี่ชาย นี่คุณก็เคยทำแบบนี้มาก่อนงั้นเหรอ?”
เขาถามเช่นนี้ก็เพราะว่าเขานั้นต้องฝึกฝนที่จะแหวกผ่านฝูงชนแบบนี้มาก่อน เป็นเพราะว่าตอนที่เขาไปที่สนามบินเพื่อไปรับไอดอล เขาก็เคยเจอสถานการณ์เช่นนี้บ่อยครั้ง ดังนั้นเพื่อที่จะไปให้ถึงด้านหน้าให้ใกล้ไอดอลของเขามากที่สุดเขาจึงได้ฝึกฝนอย่างหนักสำหรับทักษะลับๆ นี้
“ใช่แล้ว ไล่ตามดาราไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะ” ฮวงเฟิงกล่าวเรียบๆ ขณะที่เขามองดูอีกฝ่ายที่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้ว่าฮวงเฟิงนั้นได้ตามหลังเขามาติดๆ
“นั่นก็เป็นเพราะว่าปิงหยุนน่ะมีชื่อเสียงมากและมีแฟนคลับมากมาย ถ้าคุณต้องไปไล่ตามดาราธรรมดาคุณก็ไม่จำเป็นต้องฝึกฝนหนักขนาดนี้ก็ได้” ชายหนุ่มกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
ฮวงเฟิงพยักหน้าเห็นด้วยกับที่เขาเล่ามา วันนี้เขาได้ประจักษ์แก่สายตาตัวเองแล้วถึงพลังแห่งแฟนคลับของหลี่ปิงหยุนและทั้งๆ ที่เธอไม่ได้เปิดเผยกำหนดการเดินทางเลย ซึ่งถ้ามันเปิดเผยต่อสาธารณะจริงๆ ก็คงจะเป็นไปได้ว่าต้องมีผู้คนมารับเขาที่สนามบินมากกว่านี้อย่างแน่นอน
ในเวลานี้เสียงประกาศในสนามบินได้ดังขึ้น เที่ยวบินของหลี่ปิงหยุนได้ลงจอดอย่างราบรื่นแล้วและในตอนนี้บรรดาแฟนคลับทั้งหลายก็พากันส่งเสียงเชียร์ดังขึ้น พวกเขาพากันเขย่งเท้ามองผู้โดยสายคนแล้วคนเล่าและป้ายไฟในมือของพวกเขาก็ยิ่งส่องสว่างมากขึ้น ชายหนุ่มที่อยู่ข้างฮวงเฟิงก็เช่นกันเขาไม่มีเวลาที่จะสนใจฮวงเฟิง เขามองดูผู้โดยสารที่ทะยอยออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ฮวงเฟิงเองคิดว่าเธอคงจะไม่ออกมาที่ทางออกวีไอพีอย่างแน่นอน เพราะว่าเธอคงจะรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าจะมีผู้คนมากมายมารอเธออยู่ที่นี่ และถ้าเธอไม่อยากที่จะมีปัญหาเธอก็ต้องหลีกเลี่ยงคนพวกนั้น
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ฮวงเฟิงกำลังคิดอยู่ก็หายไปเมื่อเขาได้เห็นร่างที่สวยงามร่างหนึ่งปรากฎตัวขึ้นมา ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพียงไม่กี่คนอยู่ล้อมรอบและเห็นได้ช้ดว่าพวกเขาก็รู้สถานการณ์ที่นี่ดีเช่นกัน
“ปิงหยุน ผมรักคุณ!”
“ปิงหยุน ผมอยากมีลูกกับคุณ!”
“พี่ปิงหยุน ขอลายเซ็นหน่อย!”
จากการปรากฏตัวของปิงหยุน สิ่งที่เห็นจึงถึงจุดอิ่มตัวในทันที ทั้งเสียงกรีดร้อง เสียงตะโกน เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนรู้สึกกับว่าหลังคาของสนามแทบจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ ซึ่งเป็นเหตุให้ผู้โดยสารหลายคนถึงกับหยุดมอง
หลี่ปิงหยุนสวมแว่นกันแดดอยู่บนใบหน้าขณะที่กำลังก้าวเดิน เธอก็โบกมือให้กับบรรดาแฟนคลับเป็นเหตุให้แฟนคลับที่อยู่โดยรอบยิ่งตื่นเต้น แม้แต่ฮวงเฟิงเองยังแอบกลัวว่าจะต้องมีใครสักคนเป็นลมไปจากท่าทางของเธอ
อย่างไรก็ตามตอนนี้ฮวงเฟิงไม่ได้สนใจอะไรมากนักเขาชูป้ายในมือขึ้น เขาโชคดีที่ชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ได้ช่วยเขาเอาไว้ไม่เช่นนั้นแล้วเขาก็คงจะต้องไปยืนอยู่ด้านหลัง และหลี่ปิงหยุนก็คงจะมองไม่เห็นป้ายในมือของเขา
เป็นเพราะว่าตำแหน่งที่ฮวงเฟิงยืนอยู่นั้นค่อนข้างดี หลี่ปิงหยุนจึงมองเห็นป้ายในมือของฮวงเฟิงอย่างรวดเร็วเพราะว่ามันเขียนชื่อของหลี่ปิงหยุนเอาไว้พร้อมทั้งมีชื่อของบริษัทเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปด้วย เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการที่จะบอกหลี่ปิงหยุนว่าเขาอยู่ที่นี่ในนามของเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ป
เมื่อหลี่ปิงหยุนเห็นป้ายในมือของฮวงเฟิงเธอก็ตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เดินเข้ามาหาฮวงเฟิง
“มาแล้ว ปิงหยุนกำลังเดินมาหาฉันแล้ว ว้าย ว้าย ฉันใกล้จะเป็นบ้าอยู่แล้ว! ปิงหยุนมองฉันสิ เห็นนี่ไหม!” เมื่อชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ฮวงเฟิงเห็นว่าหลี่ปิงหยุนกำลังเดินเข้ามาหา เขาก็ตื่นเต้นจนแทบบ้า เมื่อก่อนนี้ึถึงแม้ว่าบางครั้งเขาจะเคยได้ลายเซ็นของหลี่ปิงหยุนมาบ้างแต่เหตุการณ์ก็ไม่เหมือนในวันนี้ เธอกำลังเดินเข้ามาหาเขาอย่างจงใจซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน หรือจะเป็นเพราะว่าปิงหยุนจะมีความประทับใจบางอย่างหรือว่าเธอจะจำเขาได้?
ชายหนุ่มรู้สึกได้ทันทีว่าเขากำลังจะถึงจุดสุดยอดของเส้นทางของการไล่ตามดารา
เมื่อหลี่ปิงหยุนก้าวเข้ามาหาเขา แฟนคลับที่อยู่โดยรอบก็บีบวงล้อมเข้ามาหาเขา ฮวงเฟิงรู้สึกเหมือนเป็นเรือลำเล็กที่อยู่ท่ามกลางพายุ เขาถูกเหวี่ยงไปทางซ้ายทีขวาทีจนควบคุมร่างกายไม่ได้ โชคยังดีที่เขาพอจะมีความแข็งแกร่งอยู่บ้างจึงไม่ถูกผลักจนล้มลงไปดังนั้นเขาจึงสามารถที่จะยืนอยู่กับที่ได้
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved