ตอนที่ 369

USB:บทที่ 369 ฝึก

ดังนั้น ครั้งนี้ไป๋เสี่ยวโหรวจึงอยากรู้และอยากเห็นว่าลูกน้องคนใหม่ของเธอคนนี้มีความสามารถแบบไหนบ้าง

ไม่นานหลังจากนั้น ฮวงเฟิงก็เตรียมอาหารเสร็จ ช่วงเย็นที่ผ่านเขาได้ทานอาหารกับเทียนจุนซึ่งเขาเองก็ไม่ได้กินอะไรมากนักและดื่มเพียงเล็กน้อย เช่นนั้นตอนนี้เขาจึงรู้สึกหิวขึ้นมานิดหน่อย เขาจึงตัดสินใจทานอาหารกับไป๋เสี่ยวโหรว

"ใช่ นี่ใบรับรองของนาย รับไปสิ" ในระหว่างที่ทานมื้อค่ำ ไป๋เสี่ยวโหรวก็ยื่นรับรองให้กับฮวงเฟิงซึ่งเขาเองก็รับมาในทันที "ใบอนุญาตการฆ่า" ในนั้นมีตราประทับโล่เหล็กขนาดใหญ่พร้อมกับชื่อหน่วยงารรักษาความมั่นคงแห่งชาติอยู่และแน่นอนว่าทั้งชื่อ รูปโปรไฟล์และตำแหน่งของเขาก็ถูกใส่ลงไปในนั้นเช่นกัน

"ดูเหมือนว่าสิ่งนี้จะไม่ได้ต่างจากสิ่งนั้นของคุณหรอกนะ" ฮวงเฟิงมองซ้ายขวาเหมือนกำลังหาบางสิ่ง เขาเคยเห็นบัตรประจำตัวของไป๋เสี่ยวโหรวมาก่อนเพราะนอกเหนือจากหน้าที่การเป็นหัวหน้าทีมสองแล้ว ดูเหมือนว่าสัญลักษณ์จะไม่มีอะไรแตกต่างกัน

"แน่นอนว่าไม่ต่างกันแน่เพราะนี่คือใบรับรองของสามาชิกอย่างเป็นทางการ!" ไป๋เสี่ยวโหรวกล่าวขณะทานอาหารที่ฮวงเฟฟิงเป็นคนทำมาให้ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ชายอย่างฮวงเฟิงถึงได้มีทักษะการทำอาหารที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้

"สมาชิกอย่างเป็นทางการเหรอ?" ฮวงเฟิงตกใจ จากนั้นจึงกล่าวต่อว่า: "ผมไม่ใช่สมาชิกนอกวงการเหรอ? อีกอย่างคนที่จะได้ใบนี้ไม่ใช่ว่าจะต้องผ่านบททดสอบก่อนถึงจะได้เป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการ? และที่ยิ่งไปกว่านั้น ผมก็มีธุระส่วนตัวที่ยังต้องไปจัดการที่นี่ ผมไม่ได้อยากอยู่ที่เมืองหลวงตลอดไปหรอกนะ”

แม้ว่าผลตอบแทนของการเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการจะค่อนข้างมาก แต่ฮวงเฟิงก็ค่อนข้างอยากจะเป็นสมาชิกนอกวงการมากกว่า นั่นเป็นเพราะถ้าเลือกเป็นเจ้าหน้าที่อย่างเป็นทางการ เขาจะมีข้อจำกัดมากขึ้นและเขาเองก็ไม่ได้อยากอยู่ในเมืองหลวงอยู่แล้วด้วย

“ ครั้งนี้นายทำภารกิจสำเร็จ นั่นก็ถือว่านายผ่านการทดสอบแล้ว” เพราะสิ่งที่ฮวงเฟิงเผชิญมาไม่ใช่สถานการณ์ธรรมดาทั่วไป แม้แต่ภารกิจของสมาชิกอย่างเป็นทางการยังไม่ยากเท่าของฮวงเฟิงเลย ดังนั้นการผ่านการทดสอบในครั้งนี้จึงไม่ใช่เรื่องยาก

“อีกอย่าง ฉันได้บอกหัวหน้าทีมเกี่ยวกับสถานการณ์ของนายแล้วด้วย ดังนั้นแม้ว่านายจะเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการการแล้วแต่นายก็ยังคงเป็นเหมือนสมาชิกนอกวงการอยู่ดี เพราะฉะนั้นนายไม่จำเป็นต้องไปเมืองหลวงและไม่ต้องอยู่ที่นั่นตลอด”เสี่ยวโหรวกล่าว

"นั่นถือว่าดีใช่ไหม?" ฮวงเฟิงกล่าวอย่างสงสัย ครั้งที่แล้วเสี่ยวโหรวไม่ได้พูดเช่นนี้เสียหน่อย

"แน่นอนว่าไม่ใช่สมาชิกทางการทุกคนที่สามารถทำแบบคุณได้ คุณถือเป็นกรณีพิเศษ" ไป๋เสี่ยวโหรวกล่าวด้วยความอิจฉาในใจเพราะตัวเธอเองก็ไม่ได้ทำตัวอิสระเท่าฮวงเฟิงได้

"ทำไมล่ะ?" ฮวงเฟิงถาม เขาเพิ่งจะมาเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการและไม่แม้แต่จะเคยพบกับพี่หรง ทำไมเขาถึงดูแลตนดีขนาดนี้

“มันเกี่ยวกับภารกิจที่นายทำสำเร็จในครั้งนี้น่ะ ไม่ต้องไปสนใจรายละเอียดพวกนั้นหรอก ยังไงเรื่องนี้ก็เป็นประโยชน์กับคุณ ” ไป๋เสี่ยวโหรวกล่าว

ในความเป็นจริงไป๋เสี่ยวโหรวรู้ว่าทำไมฮวงเฟิงถึงจะได้รับการดูแลเช่นนี้ โดยเรื่องนี้เกิดมาจากหลายสาเหตุ

ประการแรก เป็นเพราะตัวตนของหลี่ปิงอวิ้น เธอได้รับการช่วยเหลือจากฮวงเฟิงและพ่อแม่ของหลี่เหวยหมินต่างก็รู้สึกขอบคุณฮวงเฟิงเป็นอย่างมาก ซึ่งคนเหล่านี้ล้วนเป็นที่คนที่สามารถเจรจากับหรงหนิงได้ และแน่นอนว่าเรื่องที่พวกเขาเจรจานั้นเป็นเรื่องของฮวงเฟิง

ประการที่สองเนื่องจากคนของอีกฝ่ายมาจากกองทหารรับจ้าง แม้ว่ากองทหารพวกนี้จะไม่ได้มาจากกลุ่มทหารรับจ้างระดับสูงแต่พวกเขาก็ยังคงเป็นทหารรับจ้างที่มีชื่อเสียงและแข็งแกร่งพอสมควร ความจริงที่ว่าฮวงเฟิงสามารถสังหารพวกเขาทั้งหกคนได้ในขณะที่พวกเขามีตัวประกันอยู่ในมือและฮวงเฟิงยังมั่นใจว่าตัวประกันจะไม่ได้รับอันตรายใด ๆ ทั้ง ๆ ที่เขามาคนเดียวอีกด้วย ภารกิจครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยซึ่งนั่นก็แสดงให้เห็นได้ว่าฮวงเฟิงเก่งแค่ไหน

สำหรับสมาชิกนอกสำนัก แม้ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะได้รับการปฏิบัติที่น้อยกว่าแต่ภารกิจที่พวกเขาได้รับถือว่าไม่น้อยกว่าสาชิกทางการทั่วไปเลย โดยปกติแล้วหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติจะไม่จัดให้พวกเขาทำภารกิจที่ยากเกินไป แต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าฮวงเฟิงเป็นคนที่มีความสามารถเป็นอย่างมาก หน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติจะปล่อยให้คนเช่นเขาหลุดมือไปได้อย่างไร? จะยินดีปล่อยให้เขารับแต่ภารกิจทั่ว ๆ ไปได้อย่างไรกัน

ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น คือเหตุผลที่บอสหรงให้การปฏิบัติเป็นกรณีพิเศษกับฮวงเฟิงโดยมอบตำแหน่งสมาชิกอย่างเป็นทางการให้กับเขา แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปสำนักงานในเมืองหลวงเพื่อประจำการอยู่ที่นั่น เพราะแน่นอนว่ายังไงฮวงเฟิงก็ต้องปฏิบัติตามภาระและหน้าที่ของเขาที่ได้รับทั้งหมด

ฮวงเฟิงผู้ที่ไม่ได้สนใจสิ่งอื่นใดอยู่แล้ว เขาจึงพอใจเป็นอย่างมากที่ได้เข้าเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการที่เป็นตัวแทนจากเมืองหลวงแต่ไม่ต้องไปอยู่ในเมืองหลวง

"คุณพูดถูก" ฮวงเฟิงคิดอยู่สักพักแล้วจึงพูดออกมา เรื่องนี้ดูเหมือนเขาจะได้ประโยชน์มากกว่าเสีย

มีเพียงฮวงเฟิงเท่านั้นที่ไม่รู้ว่าก่อนหน้านั้นไป๋เสี่ยวโหรวไม่ได้บอกถึงความแตกต่างของภารกิจระหว่างสมาชิกนอกวงวการกับสมาชิกทางการ

หลังจากที่ทานมื้อค่ำกันเสร็จเรียบร้อย ไป๋เสี่ยวโหรวก็ไม่ได้มีความตระหนักรู้ในตนเองแล้วเรื่องล้างจาน เมื่อเสร็จกิจเธอก็ตรงดิ่งไปอาบน้ำอย่างไม่รู้ไม่เห็นเนื่องจจากเธอเคยมีประสบการณ์จากครั้งก่อนมาแล้วและการยอมรับเช่นนี้ทันก็ทำให้เธอสบายใจ

หลังจากที่ฮวงเฟิงล้างจานเสร็จเขาก็ไปอาบน้ำเช่นกัน จากนั้นเขาก็กลับไปยังห้องของเขาเพื่อศึกษาวิชาปราณภูตอุดรต่อโดยใช้การจดจำภาพที่เหลือทั้งหมด

อย่างไรก็ตามฮวงเฟิงยังไม่ได้หยุดพักในทันที เขาพยายามทบทวนการไหลเวียนพลังงานของวิชาปราณภูตอุดรซึ่งวิชานี้ชัดเจนว่าระบบการทำงานของมันนั้นตรงกันข้ามกับการทำงานของพลังภายในของเขาโดยสิ้นเชิง ถ้าเขาไม่สลายพลังภายในในร่างกายของทั้งหมดที่ได้เรียนรู้มา พลังงานทั้งสองจะหักล้างกันจนทำให้เกิดอันตรายระหว่างการฝึกฝนได้

โชคดีที่ในร่างกายของเขายังไม่ค่อยมีพลังงานใหม่ในร่างกาย แต่ยังไงฮวงเฟิงต้องการฝึกวิชาลมปราณภูตอุดรก่อนและหากเกิดการหักล้างกันซึ่งถ้าเขาต้องการที่จะหยุดมันก็จะเป็นเรื่องง่าย หากในอนาคตเขามีพลังใหม่ในร่างกายของเขามากเกินไปเขาอาจไม่สามารถทำอะไรได้เลยหากเกิดการหักล้างกันของพลัง

ฮวงเฟิงนั่งไขว่ห้างอยู่บนเตียงที่มีเสี่ยวไป๋นั่งอยู่ข้าง ๆ เขา หลังจากนั้นเขาก็หลับตาลงและเริ่มเคลื่อนพลังวิชาลมปราณภูตอุดรเพราะตอนนี้ในร่างกายของเขาไม่มีพลังอื่น ๆ หลงเหลือแล้วแม้แต่น้อย ดังนั้นเขาจึงพยายามค่อยๆเคลื่อนพลังลมปราณภูตอุดรเข้าไปในร่างกายโดยลักษณะของพลังเหมือนด้ายเส้นบาง ๆ กำลังเข้าไปในร่างกายเขาซึ่งพลังที่กำลังถูกเคลื่อนเข้านั้นไม่เร็วและไม่หนักจนเกินไป

ท่าทางของฮวงเฟิงที่แสดงออกมาเริ่มดูกระวนกระวาย เขาพยายามอย่างมากเพื่อควบคุมด้ายพลังพวกนั้นที่กำลังเคลื่อนเข้าสู่ร่างกายของเขาทั้งยังทำตามบันทึกภาพที่ดูมาก่อนหน้านั้นอีกด้วย จากนั้นก็ค่อย ๆ เคลื่อนพลังให้ไหลตามเข้าสู่ร่างกาย ตอนนี้ภายในเส้นเลือดมีเกลียวพลังงานกำลังไหลผ่านยังมีอีกพลังงานหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวอยู่เช่นกันซึ่งเส้นพลังนั้นมีทิศทางการเคลื่อนที่ไปในทางตรงกันข้ามกับเกลียวพลังที่ฮวงเฟิงกำลังควบคุมอยู่

ในตอนแรกฮวงเฟิงสามารถควบคุมการเคลื่อนตัวของพลังได้อย่างง่ายดายแต่เมื่อมันไหลไปเรื่อย ๆ เขาก็รู้สึกว่ามีแรงต้านเพิ่มมากขึ้น!