ตอนที่ 415

USB:บทที่ 415 สารภาพ

"ไม่มีปัญหา!" ฮวงเฟิงให้สัญญา เขาไม่เคยคิดที่จะฆ่าถงเฉียนจริงๆ การหักขาเขาสองข้างนั้น เพื่อเป็นการสั่งสอนเท่านั้น

เมื่อฮวงเฟิงรับปาก ใบหน้าของถงเฉียนจุนก็ปรากฎรอยแห่งความโล่งใจ สิ่งที่เขาทำ ก็ทำเพราะต้องการปกป้องลูกชาย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร

ที่ด้านนอกห้องสอบสวน ผู้กำกับชิวมองฮวงเฟิงด้วยความตกตะลึงและพูดว่า “คุณทำให้เขาเปิดปากได้ยังไง”

ผู้กำกับชิวไม่คิดว่าหลังจากที่เขาจากไปแค่พักเดียว ฮวงเฟิงสามารถโน้มน้าวใจให้ถงเฉียนจุนให้ความร่วมมือในการสืบสวนได้ มันทำให้เขาประหลาดใจมาก เพราะเขานั้นได้สอบสวนถงเฉียนจุนอยู่นาน แต่ถงเฉียนจุนก็ไม่ปริปากพูด

“ผมก็ไม่ได้พูดอะไร บางทีเขาอาจจะคิดได้เอง” ฮวงเฟิงพูดพลางยักไหล่ เขาบอกไม่ได้ว่าเพราะเขาขู่เอาชีวิตลูกชายของถงเฉียนจุน ถูกไหม? ไม่ต้องไปสนว่าผู้กำกับชิวจะคิดอย่างไร แม้ลูกน้องของผู้กำกับรู้ว่าใช้ไม้นี้ พวกเขาก็จะไม่ใช้วิธีนี้ เพราะเหตุผลสองข้อ หนึ่งเพราะไม่ได้รับอนุญาต และสองคือถงเฉียนจุนไม่เชื่อแน่ว่าตำรวจจะทำร้ายลูกชายเขา

แต่กับฮวงเฟิงจะต่างออกไป ฮวงเฟิงเคยหักขาของถงเฉียนมาก่อน และเขากับถงเฉียนก็เป็นอริกัน จึงอาจเป็นไปได้ที่ฮวงเฟิงจะฆ่าลูกชายเขาจริงๆ ถงเฉียนจุนจึงอดไม่ได้ที่จะมีความกังวลในเรื่องนี้

"โอ้ จริงสิ แล้วเรื่องของทางผู้กำกับเป็นยังไงบ้างครับ?" ฮวงเฟิงกล่าว เขารู้ว่าผู้กำกับชิวต้องการความช่วยเหลือ

“กับทางท่านถาน ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่เรื่องนี้ ท่านถาน ตัดสินใจเองคนเดียวไม่ได้ ท่านถาน ได้ติดต่อกับคนที่อยู่ในระดับสูงกว่าแล้ว หากคนในระดับสูงกว่านั้นเห็นด้วย รายชื่อคนในสมุดบัญชีจึงจะถูกดำเนินการ" แม้ว่าผู้กำกับชิวจะอยากรู้มากว่า ฮวงเฟิงทำให้ถงเฉียนจุนเปิดปากได้ยังไง แต่เมื่อเห็นว่าฮวงเฟิงไม่อยากจะพูดถึงมัน เขาจึงไม่ถามอีก ไม่ว่าจะยังไง ถงเฉียนจุนก็ตกลงใจแล้วที่จะให้ความร่วมมือซึ่งเป็นสิ่งที่ดี ส่วนฮวงเฟิงจะใช้วิธีไหนก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ

ฮวงเฟิงเข้าใจสิ่งที่ผู้กำกับชิวพูด สมุดบัญชีที่ได้มาในครั้งนี้ต่างจากเล่มก่อน ผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ใช่คนธรรมดา มีสิทธิพิเศษเหนือคนทั่วไป ไม่ใช่แค่ในเมือง ดังนั้นจึงต้องขออนุมัติจากคนในระดับที่สูงขึ้นไป

"เอาล่ะ ดูเหมือนผมไม่มีอะไรต้องทำที่นี่แล้ว งั้นผมขอตัวก่อน" ฮวงเฟิงกล่าวกับผู้กำกับชิว ฮวงเฟิงมาที่นี่เพื่อแสดงเจตคติ เพื่อระบุว่าสภาความมั่นคงแห่งชาติได้ให้เขาเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ  ส่วนการที่ถงเฉียนจุนให้ความร่วมมือนั้น เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดอย่างยิ่ง

"ได้สิ ไปเถอะ ไปทำธุระของตัวเองก่อน" ผู้กำกับชิวรู้ว่าฮวงเฟิงมีโรงงานเป็นของตัวเอง และฮวงเฟิงก็ได้ทำงานให้เขาแล้ว ที่นี่ก็ไม่มีอะไรให้ทำมากนัก แค่เขาต้องรอการอนุมัติของคนในระดับสูงกว่าก่อนที่จะปฏิบัติการได้

โอ้ จริงสิ ผู้กำกับต้องให้คนเอาตัวถงเฉียนและพวกนักเลงกลับมา ฮวงเฟิงเตือนเขาก่อนจากไป

"ไม่มีปัญหา"

หลังจากออกจากสถานีตำรวจฮวงเฟิงเจอธนาคารแห่งหนึ่ง จึงนำเงินสดทั้งหมดไปฝาก จากนั้นเขาก็โทรหาเจียเมิ่งหาน บอกเธอว่าเขาฝากเงินแล้ว ให้เธอส่งหมายเลขบัตรของเธอมาให้เขา

ณ เวลานี้เจียเมิ่งหานเข้าเรียนอยู่ เมื่อได้รับสายของฮวงเฟิงเธอทั้งประหลาดใจและสุขใจ

อันที่จริงเมื่อคืนหลังจากแยกกับฮวงเฟิง เธอกังวลอยู่นิดหน่อยกับการได้มาและเสียไป อารมณ์ต่างๆ ทั้งยุ่งยากใจและสุขใจ เมื่อมาคิดในภายหลัง ฮวงเฟิงนั้นไม่เหมือนกับคนรวยบางคน ตรงที่เขาพูดว่าเขาไม่มีเงิน

นอกจากนี้ เธอก็มักจะเคยเห็นท่าทีของบรรดาทายาทเศรษฐีมาก่อน คนพวกนั้นนะจะหยิ่งยโสมาก ราวกับกลัวว่าคนอื่นจะไม่รู้ว่าพวกเขานั้นร่ำรวย และพวกเขาก็จะขับรถออกไปในโรงเรียน บางครั้งเธอยังเคยแอบคิดว่าถ้าเป็นไปไม่ได้จริงๆ เธอควรมองหาบรรดาทายาทเศรษฐีเหล่านั้น

แต่เธอก็ไม่ต้องการให้เพื่อนร่วมชั้นของเธอรู้เกี่ยวกับตัวเธอ เธอรู้ว่าเพื่อนร่วมชั้นของเธอเป็นคนแบบไหน เธอรู้ดีว่าถ้าเธอต้องการให้พวกเขาใช้เงินหลายพันหรือหลายหมื่นหยวนเพื่อไปรับผู้หญิงคนหนึ่ง พวกเขาจะสามารถจ่ายได้ และหากเธอขอให้พวกเขาเอาเงินหลายแสนหยวนเพื่อซื้อผู้หญิงเป็นเมียเก็บ พวกเขาจะไม่สามารถทำได้ในทันที เพราะพวกเขาไม่มีความสามารถในการหาเงินได้ ทางเดียวที่พวกเขาทำได้คือแบมือขอเงินพ่อแม่

ยิ่งไปกว่านั้น ในสายตาของทายาทเศรษฐีที่นั่งอยู่บนกองเงินกองทองหลายแสนเหรียญ พวกเขาจะคั่วผู้หญิงหลายคน ไม่จำเป็นต้องยุ่งกับผู้หญิงคนเดียว เพราะมีเงินเยอะแยะที่จะใช้จ่ายกับผู้หญิงมากหน้าหลายตา

เพราะเหตุนี้เธอจึงไม่คิดที่จะมองหาเพื่อนร่วมชั้นของเธอให้มาอุปการะเธอ แม้ว่าเธอมักจะมีนักเรียนรวยบางคนตามจีบ แต่เธอก็ไม่ได้สนใจ

แม้เธอจะรู้สึกผิดหวังที่ฮวงเฟิงโกหกเธอ แต่เธอก็ไม่ได้เกลียดเขา ในใจเธอยังมีความประทับใจที่ดีต่อฮวงเฟิงและถ้าเธอต้องการคนมาเลี้ยงดูเธอจริงๆ ฮวงเฟิงก็นับเป็นตัวเลือกที่ดี

“เสียดายจัง ทำไมคุณฮวงถึงไม่มีเงินนะ” ขณะที่เธอเข้าชั้นเรียนเธอก็ใจลอย เพราะในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เธอมัวแต่คิดถึงอาการป่วยของแม่ ไม่มีอารมณ์ที่จะเข้าชั้นเรียน

และโทรศัพท์ของเธอก็สั่นขึ้น เมื่อเห็นว่าเป็นฮวงเฟิงโทรมา หัวใจของเธอก็ลิงโลดขึ้นมาอย่างไร้เหตุผลเธอมีหวังแล้ว ถ้าฮวงเฟิงโกหกเธอเธอก็จะไม่โทรหา

นี่เป็นครั้งแรกที่เธออกจากห้องเรียนขณะที่เรียนอยู่ และข้ออ้างที่จะออกจากห้องของเธอคือ ขอไปเข้าห้องน้ำ การโกหกเป็นเรื่องที่ไม่ดีต่อเธอ ดังนั้นเมื่อออกมาจากห้องเรียนหน้าเธอก็ยังคงแดงอยู่เล็กน้อย

แต่หน้าเธอก็เปลี่ยนเป็นแดงก่ำขึ้นทันที ไม่ใช่เพราะการที่เธอปด แต่เป็นเพราะฮวงเฟิงโทรมา เธอไม่คิดว่าฮวงเฟิงจะให้เงินกับเธอจริงๆ! สิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก แม้ว่าฮวงเฟิงได้ให้สัญญากับเธอไว้ และเธอก็รู้ว่าเขาจะให้เงินมา แต่เพราะเธอเดาเอาเอง เธอยังคงรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก

"คุณฮวง ขอบคุณจริงๆ ค่ะ เธอกล่าวขอบคุณ ฮวงเฟิงทางโทรศัพท์อย่างไม่หยุด

"พอแล้วๆ แค่จำที่เราตกลงกันไว้" ฮวงเฟิงกล่าว

"ค่ะ ฉันจำได้ หลังเลิกเรียนฉันจะมาหาและเซ็นสัญญากับคุณค่ะ" เธอกล่าว