USB:บทที่ 589 หาเรื่อง (5)

ผู้ติดตามของฟางหัวโตได้รับยกย่องให้เป็นหัวหน้าพาคนกลุ่มหนึ่งมุ่งหน้าไปที่ห้องวีไอพีของฮวงเฟิงแล้วบุกเข้าไปข้างใน เด็กหนุ่มที่คอยทำหน้าที่ส่งสารให้กับเทียนจุนละก็เป็นรวมอยู่ในกลุ่มคนพวกนี้ด้วยเช่นกัน   หน้าตาของคนพวกนี้เต็มไปความกระหายการฆ่า ในความคิดของพวกเขาการกระทำของฮวงเฟิงและเทียนจุนนั้นถือว่าเป็นการหมิ่นศักดิ์ศรีพวกเขาอย่างร้ายกาจ ดังนั้นพวกเขาจะต้องสั่งสอนให้ฮวงเฟิงและคนของเขาได้รู้สำนึกว่าพวกเขาไม่ใช่คนที่ควรมีเรื่องด้วย

"ปัง!" เป็นอีกครั้งที่ประตูห้องวีไอพีของฮวงเฟิงและเทียนจุนถูกถีบออก กลุ่มคนพวกนั้นเบียดเสียดเข้ามาในห้องทำให้ห้องดูเล็กลงไปถนัดตา

"เซี่ยวหยู นายเป็นไงบ้าง?"

เมื่อหัวหน้ากลุ่ม หนึ่งในผู้ติดตามของฟางหัวโต เห็นลูกน้องที่ยังคงนอนนิ่งอยู่กับพื้นก็ตรงเข้าไปตรวจดูอาการของเซี่ยวหยูทันที จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วมองไปที่ฮวงเฟิงและเทียนจุนด้วยใบหน้าที่เย็นชาแล้วเอ่ยถามขึ้น "พวกแกสองคนเป็นใครกันแน่? ทำไมต้องมาก่อกวนที่นี่ด้วย?"

เขารู้สึกได้ว่าฮวงเฟิงอาจไม่ใช่คนธรรมดา เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่คนธรรมดาทั่วไปที่อยู่ห่างพวกเขาในระยะไกลเช่นนี้จะสามารถขว้างขวดออกได้แรงจนทำให้คนของเขาหมดสติได้แบบนี้  ดังนั้นแผนการของเขาจึงต้องรู้ให้ได้เสียก่อนว่าที่แท้แล้วสองคนนี้เป็นใครกันแน่ อีกทั้งในสายงานของเขายังมีบางคนที่พวกเขาไม่ควรหยาบคายหรือทำให้ไม่พอใจ  อย่างไรก็ตามท่าทีของคนทั้งสองดูเหมือนจะได้ยินคำถามของเขา หากทว่าพวกเขาแสร้างทำเป็นไม่เห็นผู้คนจำนวนมากที่กรูกันเข้ามาในห้อง ทั้งฮวงเฟิงและเทียนจุนยังคงนั่นจิบเหล้าปลอม ๆ ของเขาเช่นเดิม ใบหน้าของหัวหน้าการ์ดดุดันขึ้น เนื่องจากการที่ถูกฮวงเฟิงและเทียนจุนเมินเฉยต่อหน้าลูกน้องจำนวนมากสร้างความไม่พอใจให้กับเขาเป็นที่สุด ถึงแม้ภายในใจของเขาจะรู้สึกไม่พอใจ แต่เขาก็ยังพยายามอดกลั้นเอาไว้แล้วพูดกับคนทั้งสองอีกว่า "สหายทั้งสอง ที่นี่อยู่ภายใต้เขตความดูแลของพี่ใหญ่ฟาง ถ้าหากพวกคุณต้องการอะไร พวกเราก็น่าจะเจรจากันได้?"

"โอ้ว ฟางหัวโตอย่างนั้นเหรอ? ฉันกำลังอยากเจอเขาพอดี? เขาอยู่นี่ไหม? บอกเขาให้มาพบฉันแล้วขอขมาพวกเราสำหรับเรื่องวันนี้ แล้วพวกเราจะไม่พูดถึง" ฮวงเฟิงพูดขึ้น

"ไอ้ลูกชู้! คิดว่าแกเป็นใคร? ถึงกล้าสั่งให้ลูกพี่ของเรามาขอโทษพวกแกหะ?"

"ไอ้สารเลว เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม มันคงอยากตายเพราะความอวดดีของสินะ?"

"ลูกพี่ของเราเป็นใครที่แกอยากพบแล้วต้องได้พบอย่างนั้นเหรอ?"

บรรดาสมุนของฟางหัวโตเห็นเริ่มเอะอะโวยวายเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่เห็นฮวงเฟิงอยู่ในสายตา รวมถึงหัวหน้าการ์ดเองก็แสดงท่าทีไม่พอใจออกมาเช่นเดียวกัน เมื่อได้ยินผู้ชายตรงหน้าเรียกชื่อฉายาลูกพี่เขาออกมาตรง ๆ ต่อหน้าบรรดาสมุนของเขาเองเช่นนี้  ที่สำคัญนั่นหมายความว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้เห็นลูกพี่ของอยู่ในสายตาเลยแม้แต้นิดเดียว

"พวกแกจะมัวโวยวายหาอะไรอยู่? ไม่ได้ยินที่เจ้านายของฉันพูดหรือไง? ไปเรียกฟางหัวโตมาแสดงความรับผิดชอบสี! ไม่งั้น เรื่องวันนี้ไม่จบแน่!" ทันใดนั้นเทียนจุนหันไปเผชิญหน้ากับกลุ่มคนพวกนั้น  หันไปมองดูรอบ ๆ แล้วพูดขึ้นกับสมุนของฟางหัวโต

"เป็นคุณนั่นเอง? เทียนจุน!" หัวหน้าการ์ด ผู้ติดตามของฟางหัวโตจำเทียนจุนได้ทันที เขาร้องตะโกนขึ้น

ในขณะเดียวกันเขาก็สร้างความประหลาดใจให้กับเด็กหนุ่มที่คอยส่งข่าวให้กับเทียนจุนด้วยเช่นกัน เขาคาดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าเทียนจุนจะเรียกผู้ชายคนนี้ว่าเจ้านาย  และเมื่อพิจารณาดูว่าเทียนจุนกลายเป็นหัวหน้าพวกเขาได้อย่างไร ดูเหมือนว่าว่าช่วงที่ผ่านมาเขาจะได้รับข้อมูลลับภายใน และเขาก็เตรียมการที่จะใช้มันให้เกิดประโยชน์ จนทำให้เขาเป็นที่สนใจได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นยังมีตำรวจพวกนั้นอีกด้วย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีบางอย่างเกี่ยวข้องกันเป็นพิเศษ และในตอนนั้น ผู้คนต่างก็ได้ถกเถียงกันเองว่าเกี่ยวคนที่อยู่เบื้องหลังเขา ดูจากสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ คนคนนั้นอาจจะเป็นผู้ชายคนนี้ก็ได้? เด็กหนุ่มคนนี้เป็นคนมีไหวพริบ ในช่วงวินาทีนี้เขาได้ครุ่นคิดประติดประต่อเรื่องราวมากมายเข้าด้วยกันเรียบร้อย

"นายรู้จักฉันด้วย?" ถึงแม้ว่าเทียนจุนจะได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าใหญ่ แต่เขาก็ไม่ได้หลงลำพองใจจนถึงจุดที่ว่าใคร ๆ ก็ต้องรู้จักเขา ท่ามกลางผู้คนที่อยู่รอบกายเขา นอกจากหัวหน้าใหญ่คนอื่น ๆ แล้ว ยังมีใครอีกบ้างที่อาจจะเคยได้ยินชื่อเขา หรือได้เห็นรูปของเขา  คนทั่วไปคงไม่มีทางรู้จักเขาแน่ อย่างไรก็ตามผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่แมลงหวี่แมลงวันตัวเล็ก ๆ  เขาน่าจะเป็นใครสักคนที่ได้รับความไว้วางใจจากฟางหัวโตอย่างมาก เพราะฉะนั้นเขาก็น่าจะพอรู้อะไรหลายอย่างมาจากปากของฟางหัวโต ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เขาจะรู้จักเทียนจุน ผู้ชายคนนั้นยังคงไม่ได้สนใจที่จะตอบคำถามของเทียนจุน ทว่าเขากลับทำหน้านิ่วคิ้วขมวดครุ่นมองไปที่ฮวงเฟิงและเทียนจุน ในขณะที่ในใจก็คาดเดาถึงฐานะของฮวงเฟิว เขาคิดหาเหตผลว่าทำไมเทียนจุนถึงได้มาก่อนเรื่องขึ้นที่นี่?  สำหรับเทียนจุนแล้วฐานะของเขาก็เทียบได้กับพี่ใหญ่คนหนึ่ง  เขาคงไม่มีวันบุกเข้ามาก่อเรื่องในถิ่นของคนอื่นด้วยไม่มีเหตผลแน่  เขาต้องมีเหตผลบางอย่าง ในขณะเดียว ในเมื่อมีเทียนจุนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ดูท่าเรื่องนี้จะไม่ใช่เรื่องที่ดีแล้ว

"เทียนจุน คุณคิดที่จะทำอะไรกันแน่?" หัวหน้าการ์ดคนนั้นมั่นใจว่าเทียนจุนคือตัวการสำหรับเรื่องในครั้งนี้ รวมทั้งเขาไม่เชื่อด้วยว่าเทียนจุนจะไม่พอใจเพียงแค่เรื่องของเหล้าปลอมนี้เท่านั้น

"ไม่มีอะไร ฉันก็แค่ต้องการให้หัวหน้าฟางออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อพวกเรา!" เทียนจุนยืนยัน

"เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้!" ผู้ชายคนนั้นยืนกราน เขาส่ายหน้าแล้วพูดขึ้น "ได้โปรดออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ ไม่งั้นอย่าโทษที่พวกเราที่ต้องเสียมารยาท!"

เนื่องจากหัวหน้าการ์ดรู้จักเทียนจุน เขาจึงไม่คิดที่จะลงมือทันทีหลังจากรู้ฐานะของอีกฝ่าย เนื่องจากถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับเทียนจุนที่นี่ มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ อาจนำไปสู่การสู้รบของสองฝ่าย ตราบใดที่ยังไม่มีคำสั่งจากหัวหน้า เขาก็ยังไม่กล้าลงมือ

"ถ้าหากฟางหัวโตไม่ยอมออกมาขอโทษ พวกเราก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น!" เทียนจุนกล่าว

"ถ้าอย่างนั้นก็อย่าโทษที่พวกเราต้องเสียมารยาท" หัวหน้าการ์ดพูดขึ้น "พวกเรา เชิญพวกเขาออกไป!"

เหล่าสมุนของฟางหัวโตพากันขบเขี้ยว เคี้ยวฟัน หมายที่จะให้บทเรียนกับคนทั้งสอง โดยที่ไม่รู้เลยว่าจักฮวงเฟิงเลย แต่ในสายตาของพวกเขา ฮวงเฟิงคือคนที่เข้ามาก่อกวนในเรื่อเขตปกครองของพวกเขา ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ไว้หน้ากัน และบทลงโทษสำหรับเรื่องนี้คือตาย ในที่สุดพวกเขาก็มีโอกาส มันช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะอยากจะให้กระสุนเจาะทะลุร่างของฮวงเฟิงและเทียนจุนเพื่อเป็นการให้บทเรียนกับพวกเขา  ถึงแม้ว่าเขาต้องการจะแก้แค้น แต่ก็รู้ดีว่าทักษะของฮวงเฟิงนั้นแข็งแกร่งมาก ถึงแม้ว่าเขาสามารถเอาชนะฮวงเฟิงได้ แต่คนพวกนั้นที่เข้าถึงพุ่งเข้าไปถึงตัวฮวงเฟิงก่อน ก็จะได้ลิ้มรสหมัดและเท้าของเขาก่อนแน่นอน เนื่องจากเขารู้ตัวดีว่าเขาตามหลังคนอื่น ๆ อยู่หนึ่งก้าว  เขาจึงอยากให้เพื่อน ๆ ของเขาลงมือก่อน

ฮวงเฟิงและเทียนจุน ไม่แปลกใจกับการกระทำของคนพวกนี้เลย ในเมื่อพวกเขามาที่นี่เพื่อที่จะเป็นฝ่ายก่อเรื่องขึ้นก่อน ถ้าหากอีกฝ่ายไม่ยอมลงมือพวกเขาก็คงจะเสียความตั้งใจ  เทียนจุนเองก็บีบนวดมือทั้งสองข้างของเขาราวกับว่าเขาเพียงแค่อยากคอยคุมเชิงอยู่รอบ ๆ เท่านั้น ก่อนหน้านี้เขาได้เห็นชั้นเชิงของฮวงเฟิงมาแล้ว  และเขาก็ตั้งใจไว้แล้วว่าเขาจะร่วมกับสู้เพื่อฮวงเฟิง ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต  ถ้าหากเขาถูกบังคับไม่ให้ให้สามารถทำอะไรได้ แล้วเขาจะมีประโยชน์อะไร?