ตอนที่ 468

USB:บทที่ 468 ทำเอง

“หา เธอว่าอะไรนะ?” ฮวงเฟิงตกใจกับคำพูดของหลี่ปิงอวิ้น

"เมื่อกี้นายบอกว่านายต้องจัดการมันเองไม่ใช่เหรอ? ไม่ใช่ว่านายจะเป็นคนมาเล่นเองเหรอ?" หลี่ปิงอวิ้นมองดูหวงเฟิงด้วยความสงสัย

"ฉันไม่ใช่นักแสดงแล้วจะไปถ่ายโฆษณาแบบนั้นได้ยังไงกัน?" ฮวงเฟิงพูดต่อว่า "ฉันบอกว่าผู้อำนวยการเซี่ยให้ฉันเป็นคนเลือกนักแสดงด้วยตัวเอง แล้วก็ต้องหานักแสดงที่เหมาะสมให้ได้ด้วย"

“อ่อ เป็นอย่างนี้นี่เอง” หลี่ปิงอวิ้นที่เข้าใจเรื่องทั้งหมดจึงเปลี่ยนความคิดทันที ท่าทางของเธอดูลำบากใจเล็กน้อย จากนั้นเธอก็พึมพำว่า "จริงๆฉันว่านายก็ทำได้นะ..."

ฮวงเฟิงไม่รู้ว่าตัวเองควรหัวเราะหรือร้องไห้ เขาไม่ใช่นักแสดง แล้วจะทำแบบนั้นได้ยังไง?

ว่าแต่ นักแสดงคนไหนเหมาะสมที่สุดล่ะ? เขาไม่สนิทกับคนพวกนั้น และเขาไม่สามารถเสียเวลารอให้พวกเขามาช่วยเขาได้ทันการ เขาไม่เหมือนคนที่จะทำอะไรแบบนั้นได้เลยสักนิด

สิ่งที่ทำให้ฮวงเฟิงรู้สึกกังวลมากคือการผู้กำกับมาถามเขาว่าวันนี้การถ่ายโฆษณยังสามารถดำเนินต่อไปได้หรือไม่ หากคำตอบคือไม่ วันนี้ เขาจะกลับแล้ว

นอกจากนั้น ผู้อำนวยการคนนี้มีเวลาให้เฮฟเว่นไพร์กรุ๊ปอีกแค่สองวันเท่านั้น หลังจากสองวันแล้ว เขามีงานอื่นที่ต้องทำ แน่นอนว่าเรื่องนี้ยิ่งทำให้ฮวงเฟิงรู้สึกโศกเศร้ามากขึ้น

“ทำไมนายไม่ลองดูล่ะ” ในตอนนั้นเอง หลี่ปิงอวิ้นเดินไปยืนข้างๆฮวงเฟิงแล้วพูดหยอกล้อเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เธอรู้ว่าฮวงเฟิงมีปัญหาและบอสทั้งสองของเฮฟเว่นไพร์กรุ๊ปดูเหมือนจะมีเรื่องต้องทำ

เหมือนกับว่าพวกเธอเป็นเจ้าของร้านที่โยนงานทุกอย่างมากองที่ฮวงเฟิง แม้แต่รองผู้จัดการของแผนกที่เป็นผู้รับผิดชอบฉากยังต้องฟังฮวงเฟิง

"ตลกแล้ว อย่างฉันถ่ายโฆษณาไม่ไหวหรอก" ฮวงเฟิงรีบโบกมือทันที จะให้เขาไปจัดการอีกฝ่ายหรือฆ่าคนเขาก็ได้ แต่ถ้าให้เขาถ่ายโฆษณา เขาไม่มีความมั่นใจในเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย

“ผู้จัดการฮวง ผมคิดว่าความคิดของคุณหลี่ใช้ได้เลยนะครับ หน้าตาของผู้จัดการฮวงเองก็ไม่เลว ไหนๆก็หาคนอื่นมาแทนไม่ได้ ทำไมคุณไม่ลองดูล่ะครับผู้จัดการฮวง” ในเวลาเดียวกัน รองผู้จัดการก็ได้ช่วยหลี่ปิงอวิ้นกลี้ยกล่อมฮวงเฟิง

อันที่จริงตอนแรกเขาไม่ได้มีความคิดแบบนั้น เซี่ยเมิ่งเจียวไม่ได้บอกความจริงกับฮวงเฟิง แม้ว่าเธอจะบอกว่าให้ฮวงเฟิงจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ทว่าสุดท้ายเรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัท รวมถึงความประทับใจของเซี่ยเมิ่งเจียวที่มีต่อฮวงเฟิงก็ไม่ค่อยดีนัก

ดังนั้นเธอจึงไม่ไว้วางใจรปภ.ที่เธอไม่รู้ว่าจะสามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้หรือไม่ หลังจากวางสายจากฮวงเฟิง เธอก็ได้ต่อสายฉุกเฉินหาคนมาช่วยจัดการ

ก่อนหน้านี้ เซี่ยเมิ่งเจียวได้โทรหาผู้ช่วยผู้จัดการแผนกและหวังว่าเขาจะสามารถแก้ไขสถานการณ์และหาคนอื่นมาได้ทันเวลา ทว่าแม้ว่าเซี่ยเมิ่งเจียวจะหาคนอื่นมาแทนได้แล้ว แต่เจ้าตัวก็ไม่สามารถไปที่นั่นในวันนี้ได้

เพียงเท่านั้น ตอนที่เธอรับสาย เธอไม่เข้าใจว่ารองผู้จัดการแผนกกำลังคิดอะไรอยู่ แต่เขาพูดเหมือนกับที่หลี่ปิงอวิ้นพูดเป๊ะๆ เซี่ยเหมิงเจียวถูกหลอกเข้าแล้ว

แต่ถึงอย่างนั้นเธอกลับไม่คิดว่าฮวงเฟิงจะเป็นคนที่เหมาะสมกับงานนี้ ในความคิดของเธอ ฮวงเฟิงเป็นหื่นกามแล้วจะเหมาะสมกับงานโฆษณาได้อย่างไร?

หัวใจของเซี่ยเมิ่งเจียวรู้สึกเจ็บปวดเพราะวันนี้ไม่มีคนอื่นมาแทนได้ อีกทั้งยังต้องจ่ายเงินให้กับผู้กำกับ

การที่จะให้ฮวงเฟิงมาถ่ายโฆษณาอาจเป็นความคิดที่ไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่ แต่นั้นไม่ใช่เพราะเธอไม่เชื่อมั่นในฝีมือของฮวงเฟิง แต่เป็นเพราะมันจะทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจและลำบากใจซะมากกว่า

“พี่ฮวง เห็นไหม ฉันไม่ใช่คนเดียวที่คิดว่าคุณเหมาะสมสักหน่อย” หลี่ปิงอวิ้นยกมือปิดปากแล้วหัวเราะ ทว่าเธอไม่ได้หัวเราะเยาะเขาหรือทำให้เขาดูแย่

ถึงหน้าตาของฮวงเฟิงจะไม่สามารถพูดออกมาได้เต็มปากว่าหล่อเหลา แต่เขาได้ฝึกฝนกำลังภายในและลมปราณนาน การฝึกยุทธ์ทำให้เขาเปลี่ยนไป และหลังจากที่เขากินยาเสริมความหลักแหลม นิสัยของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด

ด้วยเหตุนี้ แม้ว่าหน้าตาของฮวงเฟิงจะไม่ได้เปลี่ยนไป ทว่านิสัยของเขากลับดึงดูดความสนใจจากคนอื่นได้โดยเฉพาะผู้หญิงที่รักกันที่นิสัย ผู้หญิงประเภทนี้ไม่ได้มองผู้ชายที่หน้าตาแต่ให้ความสำคัญกับนิสัยของอีกฝ่ายมากกว่า

"เอาล่ะ ทั้งสองคนหยุดเดินไปรอบๆได้แล้ว" ฮวงเฟิงอดไม่ได้ที่จะพูดแบบนั้นออกมา

“คุณฮวง พวกเราเสียเวลากับที่นี่มามากพอแล้ว ทำไมคุณไม่ลองดูล่ะ ผมว่าหน้าตาคุณก็ไม่ได้แย่ไปกว่าชายคนนั้นเลยนะครับ” ครั้งนี้ ผู้กำกับก็ได้มาร่วมวงด้วย ในฐานะคนที่เคยแสดงภาพยนตร์มาก่อน เขาจึงมีสายตาที่เฉียบคม ไม่แปลกที่เขาจะพูดว่าความสามารถของฮวงเฟิงที่ซ่อนอยู่นั้นหากเทียบกับหนุ่มหน้าหวานแล้วยังถือว่าคนละระดับกัน

"พวกคุณทุกคนนี่มัน..." ฮวงเฟิงที่มองดูคนสามถึงกับพูดไม่ออก

"ถ้างั้นนายก็ยอมถ่ายโฆษณาเร็วๆสิ ฉันไม่ปล่อยนายไปง่ายๆหรอกนะ" หลี่ปิงอวิ้นดึงแขนฮวงเฟิงพลางกล่าว

ทันใดนั้นเธอก็จำได้ว่ายังมีคนอื่นอยู่ด้วย เธอจึงรีบปล่อยแขนของฮวงเฟิงทันทีและเกลี้ยกล่อมฮวงเฟิงต่อ แม้ว่าในใจ เธอจะคิดว่างานนี้ไม่มีทางเสร็จทันแน่

ฮวงเฟิงที่ถูกหลี่ปิงอวิ้นรบเร้าหนักเข้า จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมทำตามอีกฝ่ายแต่โดยดี

แต่ถึงอย่างนั้นเขายังคงรู้สึกกังวลและพูดกับอีกฝ่ายว่า "ถ้าฉันทำออกมาได้ไม่ดี อย่ามาโทษกันล่ะ"

"ได้เลยครับ" ผู้กำกับและผู้ช่วยตอบพร้อมกัน ก่อนหน้านี้พวกเขาทั้งสองได้เห็นแล้วว่าฮวงเฟิงปฏิบัติต่อหนุ่มหน้าหวานคนนั้นอย่างไร พวกเขาจะไม่หาเรื่องอีกฝ่ายเด็ดขาด หรือพูดอีกอย่างก็คือพวกเขาไม่มีความกล้ามากพอที่จะทำเช่นนั้น

“นี่มันอะไรกัน?” ฮวงเฟิงถูกหลี่ปิงอวิ้นพาไปแต่งหน้าทำผม อดคิดไม่ได้เลยว่าคนที่เป็นแค่คนขับรถและบอดี้การ์ดอย่างเขาดันกลายเป็นนายแบบ มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?

แต่เนื่องจากเขาตอบตกลงไปแล้ว อีกทั้งวันนี้เขาก็ยังหาคนมาแทนไม่ได้ ฮวงเฟิงจึงคิดว่าถ้าได้ลองสักครั้งก็คงไม่เสียหาย คิดซะว่าเขาได้เล่นเป็นเพื่อนหลี่ปิงอวิ้นก็แล้วกัน

ฮวงเฟิงได้ตัดสินใจแล้วว่าหลังจากที่เขาทำลายรูปถ่ายแล้ว เขาจะไปขอความช่วยเหลือจากซูหยูโม่ แม้เขาไม่รู้จักใครเลย แต่เขามั่นใจว่าซูหยูโม่จะต้องรู้จักแน่

การแต่งหน้าใช้เวลาไม่นานและไม่ถึงสิบนาทีเนื่องจากฮวงเฟิงไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าจัด

หลังจากนั้นฮวงเฟิงก็ต้องรู้สึกเสียใจภายหลัง เขาคือชายผู้ไม่หวาดกลัวเมื่อต้องสู้กับเหล่าจอมยุทธ์ ไม่เคยหวั่นแม้ต้องเผชิญหน้ากับลูกกระสุน

แต่เมื่อเขามองไปที่เลนส์กล้องตรงหน้าแล้ว เขาก็อดรู้สึกประหม่าไม่ได้ บอกได้เลยว่าตอนนี้ร่างกายของเขาเกร็งสุดๆไปเลย