ตอนที่ 467

USB:บทที่ 467 ลงมือ

“หึ นายคิดว่านายเป็นใครกันแน่ เป็นแค่รปภ.แท้ๆ คิดว่าตัวเองมีสิทธิ์มาสั่งฉันรึไง?” ชายหนุ่มชี้ไปที่อกของฮวงเฟิง ใบหน้าของเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยความรู้สึกรังเกียจ

ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้จักตัวตนของฮวงเฟิง แต่เพราะเขาส่งผู้ช่วยไปสอบถามคนอื่นจึงรู้ว่าฮวงเฟิงเป็นเพียงรปภ. ถึงจะเป็นระดับผู้จัดการ แต่รปภคนนี้กลับกล้าชี้หน้าด่าเขาต่อหน้าทุกแบบนี้ เขาไม่ยอมแน่

เมื่อเห็นอีกฝ่ายชี้มาที่หน้าอกของตัวเองแล้ว ฮวงเฟิงก็ขมวดคิ้วแล้วตอบว่า "ผมก็แค่บอกคุณอย่าทำแบบนั้นอีก ไม่อย่างนั้นผมรับรองได้เลยว่าคุณจะต้องเสียใจแน่!"

“เสียใจ? น่ากลัวจังเลย! นายคิดว่านายเป็นใครกันแน่? กล้าพูดกับฉันแบบนี้ นายคิดว่าคนอย่างฉันจะใจดีไม่เอาเรื่องนี้ไปฟ้องเจ้านายของนายรึไง?” เนื่องจากชายหนุ่มคิดว่าเฮฟเว่นไพร์กรุ๊ปต้องการให้เขาถ่ายโฆษณาให้ และเขาก็ได้ยอมรับคำขอจากอีกฝ่ายอย่างว่าง่าย

ในทางกลับกัน ถ้าหากว่าเขาขอให้อีกฝ่ายไล่รปภ.คนอีกออก ก็คงไม่เวอร์เกินไปละมั้ง?

ทว่าใบหน้านั้นปั้นยิ้มไม่นานก็เปลี่ยนเป็นใบหน้าเหยเกแล้วกรีดร้องออกมา "โอ๊ย! ปล่อย..ปล่อยนะ! นิ้วของฉันจะหักแล้ว ใครก็ได้มาจับผู้ชายคนนี้ไปที!"

ฮวงเฟิงหักนิ้วที่สั่นเทาของอีกฝ่ายเพราะเขาไม่ยอมทำตามที่เขาพูด แม้จะเห็นอีกฝ่ายกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่ใบหน้าของฮวงเฟิงกลับไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย

"นี่นายทำบ้าอะไร! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ นายจะฆ่าคนรึไง!" เมื่อเห็นว่าเจ้านายกำลังจนมุม ผู้ช่วยก็รีบเข้าไปช่วยทันที

แต่พวกเขาจะไปสู้ฮวงเฟิงคนนี้ได้ยังไงล่ะ?

ในเมื่อพละกำลังของพวกเขาเทียบฮวงเฟิงไม่ติด แม้พวกเขาจะร่วมมือกันก็ยังช่วยเจ้านายให้พ้นจากเงื้อมมือของฮวงเฟิงไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

ตอนนี้เหตุการณ์วุ่นวายมากเพราะเสียงโหวกเหวกโวยวายของเหล่าผู้ช่วย ผู้กำกับที่ถ่ายทำโฆษณาถึบกับเหงื่อตกและปวดประสาท งานกำลังจะเสร็จอยู่แล้ว ทำไมไม่มีใครฟังเขาเลย

ในตอนนี้ หนุ่มหน้าหวานหยุดโวยวายเพราะรู้สึกว่านิ้วของเขากำลังจะหักเต็มที ไม่ว่าเขาจะดิ้นรนอย่างไร เขาก็ไม่สามารถสลัดนิ้วออกจากมือของฮวงเฟิงได้ เขาจึงรีบเปลี่ยนท่าทีเป็นร้องขอความเมตตาจากอีกฝ่ายแทน

"พี่ชาย… พ่อคนดี ผมผิดไปแล้ว ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผมทำผิด ปล่อยมือผมเถอะนะ ผมจะเรียกคุณว่าคุณปู่ เพราะฉนั้นได้โปรดปล่อยผมไปเถอะนะ น้า..." หนุ่มหน้าหวานพูดด้วยท่าทางที่น่าสงสารราวกับว่าเขาใกล้จะร้องไห้ออกมาได้ทุกเมื่อ

ฮวงเฟิงมองดูชายหนุ่มที่ไร้ศักดิ์ศรีตรงหน้าแล้วขมวดคิ้ว จากนั้นเขาก็ปล่อยมือจากอีกฝ่าย หนุ่มหน้าหวานรีบถอยห่างจากฮวงเฟิงไปสามก้าวเพราะกลัวว่าฮวงเฟิงจะทำร้ายเขาอีก

"คนที่บริษัทสอนนายมาแบบนี้เหรอ? นายกลัาทำร้ายศิลปินของฉันได้ยัง? นายรู้ตัวไหมว่ากำลังทำผิดกฎหมาย ถ้านายหาเหตุผลมาอธิบายให้ฉันฟังไม่ได้ ฉันจะโทรแจ้งตำรวจแล้วก็ฟ้องศาลให้ได้เลย!" ทันทีที่เห็นว่าเจ้านายรอดพ้นจากอันตราย ผู้ช่วยก็กระโดดตัวไปข้างหน้าแล้วชี้หน้าด่ารองผู้จัดการทันที

ตำแหน่งของฮวงเฟิงสูงกว่าเขา อีกทั้งเขายังรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างฮวงเฟิงกับบอสทั้งสองนั้นดีมาก เพราะทั้งสองไม่เคยคิดว่าเขาเป็นแค่รปภ.คนหนึ่ง เขาจึงไม่กล้าขัดอีกฝ่าย

แต่ถึงอย่างนั้นหนุ่มหน้าหวานคนนี้ก็เป็นศิลปินที่บริษัทจ้างมา การที่อีกฝ่ายอยู่ที่นี่ก็เพื่อถ่ายโฆษณา ดังนั้นเขาจึงไม่ควรทำให้อีกฝ่ายหงุดหงิด เพราะถ้าเขาทำให้บริษัทขาดทุน เขาต้องเป็นคนรับผิดชอบ

"พวกคุณทำตัวหยาบคายเกินไปแล้วนะ ฉันจะไม่ถ่ายโฆษณานี้ต่อแล้ว! แล้วก็อย่าคิดว่าฉันจะปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ รอฉันก่อนเถอะ!" ทันทีที่เห็นว่าฮวงเฟิงกำลังจ้องเขาด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร เขาก็ถอยไปโดยไม่รู้ตัว หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกว่าตัวเองเป็ยฝ่ายเสียเปรียบจึงตะคอกกลับแล้วลากผู้ช่วยออกไป

“เฮ้อ แล้วทีนี้พวกเราจะทำยังไงต่อดีล่ะ?” เขาอยากจะรั้งอีกอีกฝ่าย แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่กลับมาอีกแล้ว อย่างน้อยก็คงไม่ใช่วันนี้

เขายังคงคิดว่าหลังจากที่บริษัทของเขาจ่ายค่าตอบแทนให้แล้ว อีกฝ่ายจะยอมมาถ่ายโฆษณาต่อ ทว่าพอเขาหันไปมองฮวงเฟิงแล้ว เหมือนกับว่าเขาไม่อยากให้อีกฝ่ายกลับมาเลย...

ฮวงเฟิงไม่เคยคิดว่าทุกอย่างจะลงเอยแบบนี้ แน่นอนเขาไม่เสียใจกับสิ่งที่เขาทำได้ทำลงไปหรือรู้สึกผิดต่ออีกฝ่ายเลยสักนิด

แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้นักแสดงนำชายกลับไปกะทันหัน การถ่ายโฆษณาจึงไม่สามารถดำเนินต่อได้ ทำให้เสียแรงและเสียเวลาไปไม่น้อย ทำให้หลายๆอย่างวุ่นวายไปหมด

“ไม่เป็นไร วันนี้ฉันยังพอมีเวลาอยู่ แล้วฉันก็ไม่ได้รีบขนาดนั้นด้วย” หลี่ปิงอวิ้นกล่าวขณะก้าวไปข้างหน้า

หากเป็นเมื่อก่อนตารางงานของเธอจะแน่นมาก ถ้ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมันจะกระทบต่องานและเวลาในการเดินทางของเธอทันที

ที่เธอบอกว่าไม่เป็นไรเป็นเนื่องจากในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เธอไม่ได้วางแผนจะทำอะไร ที่เธอไม่โทษฮวงเฟิงเป็นเพราะเธอรู้เหตุผลที่ฮวงเฟิงทำแบบนั้นดี

อีกอย่างคือคนที่ทำแบบนั้นก็คือฮวงเฟิงที่เป็นคนพิเศษสำหรับเธอ แล้วอย่างนี้เธอจะโทษเขาได้ยังไงกัน?

ฮวงเฟิงพยักหน้าให้หลี่ปิงอวิ้นแล้วพูดว่า "ไม่ว่ายังไง เราจะจัดการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด และเราก็จะถ่ายโฆษณาต่อให้เสร็จ ในบริษัทพอจะมีคนอื่นอีกไหมนะ?"

“แล้วคนอื่นหายหัวไปไหนหมด?!”

หลังจากที่ฮวงเฟิงบอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้อีกฝ่ายทราบ เซี่ยเมิ่งเจียวก็ตวาดลั่นใส่โทรศัพท์ แต่หลังจากเข้าใจสถานการณ์แล้ว เธอกลับไม่โกรธฮวงเฟิงเลยแม้แต่น้อย

เธอเองเป็นผู้หญิงเหมือนกัน และที่สำคัญคือเธอเกลียดการที่ผู้ชายเอาเปรียบผู้หญิงแบบนี้มากที่สุด

“แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ?” ฮวงเฟิงถามกลับ ตอนนี้เขาปวดหัวมาก แม้ว่าเขาจะทนไม่ได้ที่จะเห็นหนุ่มหน้าหวานทำแบบนั้น แต่โฆษณานี้ต้องถ่ายทำให้เสร็จ

ถึงหลี่ปิงอวิ้นจะบอกว่าเธอรอได้ แต่เพราะที่นี่ไม่ได้มีแค่เธอคนเดียว ยังมีคนอื่นอีก เขาไม่สามารถทำให้คนเหล่านั้นต้องมานั่งเสียเวลาอยู่แบบนี้

"ฉันไม่สน ในเมื่อนายเป็นคนสร้างปัญหา นายก็ต้องรับผิดชอบสิ" เซี่ยเมิ่งเจียวตอบอย่างไม่แยแส หลังจากที่เธอพูดจบเธอก็ไม่สนว่าฮวงเฟิงจะตอบยังไงแล้วตัดสายทิ้งทันที

"หา ว่าไงนะ?" ฮวงเฟิงมองดูโทรศัพท์เงียบๆ เซี่ยเมิ่งเจียวปัดความรับผิดชอบแบบนี้แล้วเขาเลือกอะไรได้บ้าง? เขาเป็นแค่ผู้จัดการรปภ. ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเลือกคนที่จะมาถ่ายโฆษณาในนามของบริษัทได้ เพราะต้องจัดการเรื่องค่าโฆษณาให้เหมาะสม

"เกิดอะไรขึ้น? ผู้อำนวยการเซี่ยว่าไงบ้าง?" หลี่ปิงอวิ้นเดินมาถาม

“เธอบอกให้ฉันจัดการ...” ฮวงเฟิงตอบ

“หา นายจะมาเล่นเป็นนักแสดงนำชายเหรอ?!” แน่นอนว่าหลี่ปิงอวิ้นกำลังเข้าใจผิดเต็มๆ