USB:บทที่ 502 นวัตกรรมใหม่

เมื่อเห็นท่าทีของแพนเดสแล้ว ถึงแม้ใบหน้าของบูด๊าซจะฉาบไปด้วยรอยยิ้มแห่งมิตรภาพ หากแต่ดวงตาของเผยให้เห็นถึงความเยือกเย็น แพนเดสผู้นี้แตกต่างไปจากน้อยชายของเขา บรูซ เป็นเพียงเด็กหนุ่มเจ้าสำราญผู้ซึ่งไม่คิดที่จะเรียนรู้อะไรเลย  และหากต่อไปภายภาคหน้าตระกูลชอว์ตันตกอยู่ในมือของเขา ในไม่ช้าเขาต้องพบกับความวิบัติแน่ แต่ทว่าแตกต่างกับแพนเดสอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่ที่เขาเรียนจบออกมาก ก็ได้เข้าทำงานในธุรกิจของครอบครัวตั้งแต่ตำแหน่งต่ำต้อย แล้วเขาก็ก้าวเดินขึ้นที่ละก้าวจนสามารถมาอยู่ในตำแหน่งปัจจุบันได้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพราะสถานะของเขาเอง แต่นั่นก็สามารถเห็นได้ถึงศักยภาพของเขานั้นไม่ด้อยเลย และการที่เขาต้องเผชิญกับเด็กหนุ่มรุ่นใหม่เช่นนี้ทำให้บูด๊าซรู้สึกไม่ปลอดภัย ช่วยไม่ได้ที่เขาจะรู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับสถานะของครอบครัวขึ้นมา

คนหนึ่งก็คือจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ อีกหนึ่งก็เป็นจิ้งจอกหนุ่มจอมเจ้าเล่ห์ไม่ต่างกัน นอกจากนั้นแล้วพ่อของแพนเดสยังเป็นตัวแทนภาคธุรกิจเข้าร่วมปรึกษาหารือในโปรเจ็กต์การลุงทุนกับภาครัฐของเมืองอีกด้วย เดิมทีฮวงเฟิงไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องนี้เลย จะอย่างไรก็ตามในเมื่อเขาได้ยินการพูดสนทนาของคนทั้งสองแล้ว มันก็สามารถดึงดูดความสนใจของเขาอย่างช่วยไม่ได้

ปรากฏว่าในที่นี้มี่เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่พูดถึงมลพิษของสภาพแวดล้อม และในเวลานี้ฮวงเฟิงได้รู้ว่าแล้วว่าเครื่องยนต์บนโลกใบนี้ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ลอยฟ้า หรือรถยนต์ที่วิ่งอยู่ตามท้องถนนทั่วไป ล้วนเป็นต้นเหตุของมลพิษทั้งสิ้น แต่เป็นเพราะคนในยุคปัจจุบันได้ให้ความใส่ใจเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมมากขึ้น อีกทั้งยังทุ้มเงินจำนวนมากเพื่อจัดการกับสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น ทำให้อากาศในโลกปัจจุบันนี้ดีกว่าโลกที่ฮวงเฟิงจากมา อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายในการจัดการกับสิ่งแวดล้อมก็เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะร่ำรวยมากเพียงใด แต่ก็ไม่อาจแบกรับค่าใช้จ่ายพวกนี้ไว้ได้ ดังนั้นไม่กี่ปีที่ผ่านมารัฐบาลจึงเปิดโอกาสให้ตระกูลใหญ่ หรือแม้กระทั่งประบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพได้มีส่วนร่วมในโครงการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมในเพื่อลดค่าใช้จ่าย

"ในช่วงนี้รัฐบาลกลางคอยควบคุมอุตสาหกรรมรถยนต์ ถึงแม้ว่าผลพิษที่เกิดขึ้นจากรถยนต์นั้นจะน้อยลงไปกว่าเมื่อก่อน เนื่องจากบริษัทรถยนต์ได้มีการปรับปรุงเทคโนโลยีในการผลิตที่ดีขึ้น แต่จากจำนวนรถยนต์ที่มีมากเกินไปนั้นยังคงทำให้เกิดมลพิษในปริมาณที่มากเกินไปอยู่ดี ดังนั้นรัฐบาลกลางจึงต้องการควบคุมการผลิตของบริษัทรถยนต์ ที่ก่อให้เกิดมลพิษในปริมาณมาก  และสนับสนุนการผลิตของบริษัทที่ก่อให้เกิดมลพิษในปริมาณน้อย" การบริหารงานของรัฐบาลกลางได้ถูกพูดคุยกันในหมู่แขกที่มาร่วมงานเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

สองตระกูลที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นตระกูลใหญ่ของเมืองนั้น คนจากทั้งสองตระกูลก็ได้เข้าร่วมในรัฐบาลกลาง เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากที่พวกเขาจะรู้ข่าวดังกล่าวได้ และการเข้าร่วมดังกล่าวก็ไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่ต้องปิดเป็นความลับ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามข้อบังดังกล่าวก็ถูกประกาศใช้เป็นกฎหมายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตระกูลชอว์ตันหรือเพย์ตัน ธุรกิจทั้งสองตระกูลก็เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมรถยนต์ เพราะฉะนั้นกฎหมายดังกล่าวจึงส่งผลกระทบต่อพวกเขาอย่างมาก เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาตัดสินใจถึงทิศทางของครอบครัวพวกเขา

อย่างที่คิดไว้เมื่อได้ยินคำพูดของสมาชิกสหพันธรัฐพูดกันนั้น ผู้นำของตระกูลชอว์ตัน หรือที่รู้จักกันในนามของแรนดอลล์ และลูกชายของเขา แพนเดส  ทั้งสองต่างขมวดคิ้วเข้าหากัน ตระกูลของพวกเขาผลิตยานยนต์ ทั้งทางอากาศหรือภาคพื้นดิน จะมากหรือน้อยก็ล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบต่อพวกเขาทั้งสิ้น นอกจากนั้นพวกเขายังรู้ดีว่ารถยนต์ที่พวกเขาผลิตขึ้นมานั้นมีข้อได้เปรียบคู่แข่งในเรื่องของความเร็วและความปลอดภัย แต่ในเรื่องของสภาพแวดล้อมนั้น ที่ผ่านมาพวกเขาไม่ได้ให้ความใส่ใจกับมันมากนัก อีกทั้งปัญหาสิ่งแวดล้อมถูกจัดการโดยสมาพันธรัฐมาโดยตลอด ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวมากนัก พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าสมาพันธรัฐเริ่มมองหาวิธีการทีจะจัดการกับธุรกิจสำคัญของพวกเขา และความคิดนี้ต้องถูกส่งไปถึงผู้นำของพวกเขาเร็ว ๆ นี้!

มีเพียงแต่บูด๊าซที่ยืนอยู้ข้าง ๆ แรนดอลล์ที่ยังคงไม่แสดงท่าทีวิตกกังวลใด ๆ ออกมาให้เห็นเลย นอกจากรอยยิ้มที่ยากจะควบคุมเอาไว้ได้บนใบหน้าของเขาเท่านั้น ในด้านของความเร็วและความปลอดภัยนั้น เขาไม่ใช่คู่ปรับของตระกูลชอว์ตัน หากแต่ในด้านของเทคโนโลยีที่ป้องกันสิ่งแวดล้อมแล้ว เขาเหนือกว่าตระกูลชอว์ตัน แน่นอนว่า นี่ไม่ใช่เพราะเขาให้ความใส่ใจที่จะช่วยเหลือชุมชน หากแต่เป็นเพราะพวกเขาตกเป็นรองตระกูลชอว์ตันในด้านของความเร็วและความปลอดภัย เพียงแต่เขาไม่คิดว่าสิ่งที่พวกเขายืนหยัดมาก่อนหน้านี้จะส่งผลดีต่อพวกเขาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อคิดถึงผลการวิจัยในห้องปฏิบัติติการครั้งล่าสุดของพวกเขา ร้อยยิ้มบนใบหน้าของบูด๊าซก็ยิ่งฉีกกว้างขึ้นอีก

ท่าทีของบูด๊าซนั้นถูกคนอื่น ๆ สังเกตเห็นได้ในไม่ช้า ตัวแทนคนอื่น ๆ จึงเอ่ยถามขึ้น "ทำไมครับ ท่านผู้นำบูด๊าซมีวิธีรับมือกับกฎหมายใหม่แล้วหรือครับ?"

"แน่นอน!" บูด๊าซกล่าวขึ้นอย่างไม่คิดจะปิดบังแต่อย่างใด "ตระกูลของเราให้ความสำคัญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมเสมอมา ดังนั้นกฎหมายใหม่นี้จึงไม่ส่งผลกระทบอะไรธุรกิจของครอบครัวพวกเราเลย"

"เรื่องนั้นยังไม่อาจพิสูจน์ได้!" สีหน้าของแรนดอลล์ค่อนข้างน่าเกลียดขึ้นเมื่อเขาพูดคำนั้นออกมา เขาเข้าใจถึงสถานการณ์ของตัวเองดี และรู้ดีว่าในด้านของการปกป้องสิ่งแวดล้อมนั้นเขาไม่อาจเทียบกับอีกฝ่ายหนึ่งได้ แต่ทั้งหมดเป็นเพราะเขาไม่อยากเห็นใครได้ดีเกินหน้าเกินตา

"ถึงแม้ว่ายานยนต์ของคุณจะได้เปรียบผมนิดหน่อยในเรื่องของสิ่งแวดล้อม แต่ ผมไม่คิดว่าคุณจะอยู่เหนือกว่าผม เมื่อเปรียบเทียบกับด้านอื่นของบริษัทยานตนต์หรอก จริงไหม?"

ดังนั้นจึงมีบริษัทรถยนต์จำนวนมากที่เกี่ยวข้อง ยานยนต์ที่ผลิตโดยตระกูลของบูด๊าซค่อนข้างได้เปรียบบริษัทอื่น ๆ ในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม แต่ภายในสมาพันธรัฐนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องจริงก็ได้