ตอนที่ 676

USB:บทที่ 676 ความรักนั้นหอมหวาน

ในช่วงครึ่งวันตอนบ่ายฮวงเฟิงได้ตามติดซูหยูโม่มาโดยตลอด ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองถือได้ว่าได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วในตอนนี้ ดังนั้นเมื่อต้องติดต่อกันจึงสนิทสนมกันมากกว่าปกติ อย่างน้อยในช่วงครึ่งวันนั้น ซูหยูโม่ก็จับแขนของฮวงเฟิงไว้เกือบจะตลอดเวลา

ซูหยูโม่และฮวงเฟิงไม่ใช่คนที่ชอบช้อปปิ้ง แต่การช้อปปิ้งกับคนที่พวกเขาชอบนั้นย่อมแตกต่างกันอยู่แล้ว เวลาครึ่งวันผ่านไปอย่างรวดเร็วแต่ทั้งสองคนก็ยังคงรู้สึกเหมือนว่ายังชอปปิ้งไม่เสร็จ

ในตอนกลางคืน ทั้งสองคนหาสถานที่ทานอาหารเย็น หลังจากนั้นพวกเขาทั้งสองก็แยกย้ายกันไปและฮวงเฟิงก็ไปส่งซูหยูโม่กลับบ้าน ไม่ใช่เพราะไม่มีโปรแกรมเดทที่ต้องทำ เดิมทีแล้วฮวงเฟิงอยากที่จะชวนซูหยูโม่ไปดูหนังกับเขา แต่คืนนี้เขามีอย่างอื่นที่ต้องดูแล ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงแค่ไปส่งซูหยูโม่กลับบ้านเพียงเท่านั้น

แม้ว่าซูหยูโม่จะแอบเสียใจอยู่สักหน่อย แต่เธอก็รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยหลังจากที่ทั้งสองคนเที่ยวเล่นด้วยกันมาครึ่งค่อนวันแล้ว เธอไม่ใช่ฮวงเฟิง ร่างกายของเธอรู้สึกผิดปกติอย่างมาก และหลังจากเดินไปตามถนนกว่าครึ่งวัน ซูหยูโม่จึงรู้สึกเหน็ดเหนื่อย

“รีบพักผ่อนเถอะนะ ผมไม่อยากขึ้นไปอีก เผื่อว่าเซี่ยเมิ่งเจียวจะมาทำร้ายผมอีก” ความจริงแล้วเขานั้นไม่ได้กลัวเซี่ยเมิ่งเจียวเลย และเขาก็ไม่ได้กลัวถังมู่เสวี่ยด้วย ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครัวจะถูกเปิดเผยแล้ว แต่ถ้าฮวงเฟิงขึ้นไปข้างบนด้วยก็คงจะพูดได้ยากหากว่าทั้งสองคนจะไม่คิดอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้น

“งั้นก็ขับรถดีๆ นะคะ” ซูหยูโม่สั่ง

เมื่อเห็นว่าซูหยูโม่กำลังจะจากไปหลังจากที่พูดจบ ฮวงเฟิงก็ดีงแขนของซูหยูโม่เอาไว้ ซูหยูโม่มองเขาด้วยความสับสนโดยที่ไม่รู้ว่าเขากำลังหมายถึงอะไร

“นี่คุณลืมอะไรหรือเปล่า?” ฮวงเฟิงกล่าวกับซูหยูโม่พร้อมด้วยรอยยิ้มประหลาด

“ลืมอะไรงั้นเหรอ? ไม่นี่นา” ซูหยู่โม่พยายามคิด เธอเองก็ไม่ได้ถืออะไรติดตัวมาด้วยเธอก็ไม่น่าจะลืมอะไรนี่นา

“ลืมนี่ไงล่ะ!” ฮวงเฟิงกล่าวพร้อมกับชี้ไปที่หน้าของเขา

ซูหยูโม่เข้าใจทันทีว่าฮวงเฟิงหมายความถึงอะไร เพราะว่าเธอก็เพิ่งจะโดนฮวงเฟิงแอบจู่โจมไป แล้วเธอจะไม่รู้ได้อย่างไรกัน? ดังนั้นใบหน้าของเธอจึงแดงระเรื่อขึ้นทันทีและเธอเองก็อยากที่จะหันหลังและออกไปเสียเดี๋ยวนี้

“จุ๊บ” ซูหยูโม่หน้าแดงและรีบจูบเข้าที่แก้มของฮวงเฟิงอย่างรวดเร็ว จากนั้นขณะที่เธอกำลังจะออกไปจากรถฮวงเฟิงก็กอดเธอเอาไว้และจูบเข้าที่แก้มของเธอเช่นกัน

“ฮวงเฟิง คุณมันคนหื่น!” ซูหยูโม่ตะโกน หลังจากนั้นซูหยูโม่ก็หันหลังกลับและวิ่งหนึไปด้วยความเขินอาย

ฮวงเฟิงยืนอยู่กับที่และมองร่างของซูหยูโม่ที่กำลังหนีไป เขาเลียริมฝีปากและเผยรอยยิ้มอย่างพึงพอใจ

แน่นอนว่าฮวงเฟิงอยากที่จะจูบที่ปากของซูหยูโม่แต่ทั้งสองคนก็เพิ่งจะตกลงในสัมพันธ์ เขาจึงรู้สึกละอายเสียมากที่จะต้องรุกเธอ อย่างไรก็ตามการที่ได้จูบแก้มของซูหยูโม่นั้นก็ทำให้ฮวงเฟิงพอใจมากแล้ว

เมื่อคิดถึงหนิงอู่ซวง ฮวงเฟิงก็รู้สึกละอายใจอยู่เหมือนกัน เขาสามารถบอกได้เลยว่าซูหยูโม่นั้นทำให้เขาตกหลุมรักอย่างหมดหัวใจ แต่ทว่าก็ยังคงมีใครอีกคนอยู่ในใจของเขา เขาเองก็สงสัยเหมือนกันว่าซูหยูโม่ทำให้เขาตกอยู่ในสภาพนี้ได้อย่างไรกัน

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ฮวงเฟิงได้ไปอาศัยอยู่ในกาลอวกาศถึงสามแห่งที่มีภรรยาได้ถึงสี่คนมาเป็นเวลานาน และได้เห็นเหตุการณ์เช่นนี้บ่อยๆ ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าเขาจะต้องทำให้ซูหยูโม่ต้องเสียใจแต่เขาก็ยังคงสามารถที่จะยอมรับเหตุการณ์เช่นนั้นได้ เขาไม่ได้คิดถึงทางเลือกทั้งสองแต่คิดว่าจะทำอย่างไรให้ซูหยูโม่ยอมรับเรื่องนี้ได้และสำหรับตัวหนิงอู่ซวงนั้นมันไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาเลยแม้แต่น้อย

“ช่างมันเถอะ ยังไงซะฉันก็ก้าวมาขั้นหนึ่งแล้ว ยังไงฉันก็ต้องหาทางแก้ได้อยู่แล้วล่ะนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามฉันไม่มีทางยอมแพ้เรื่องของซูหยูโม่เด็ดขาด” ฮวงเฟิงคิด

บางทีมันอาจจะเป็นเพราะกล่องจักรวาล หรือบางทีอาจะเป็นเพราะว่าเขานั้นอยู่ทำตำแหน่งที่สูงในกาลอวกาศอื่น

ฮวงเฟิงไม่ได้รู้สภาพจิตใจที่เขาเคยมีอีกต่อไปแล้ว ปัจจุบันเขากลายถูกครอบงำมากขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งเพียงแค่เขายังไม่รู้ตัว

อันที่จริงแล้วการเปลี่ยนแปลงแบบนี้สามารถเข้าใจได้อย่างมากมาก ในอีกกาลอวกาศหนึ่ง ตราบใดที่ฮวงเฟิงเป็นคนสั่งการก็ไม่มีใครกล้าที่จะไม่เชื่อฟัง แม้แต่ตัวของซูเป่ยเองก็ยังให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของฮวงเฟิงเป็นอย่างมาก ในสถานการณ์แบบนี้ หลังจากใช้ชีวิตมาหนึ่งปี มันคงจะแปลกถ้าความคิดของฮวงเฟิงจะไม่เปลี่ยนแปลงไป

ในทางกลับกัน ซูหยูโม่ไม่รู้ว่าแฟนของเธอกำลังคิดหาวิธีที่จะทำให้เธอยอมรับปัญหาของเขาที่จะมีภรรยาสามคนและนางสนมอีกสี่คน ในเวลานี้ เธอกำลังรู้สึกถึงความอ่อนหวานและความเขินอายเล็กน้อยอยู่ในใจในขณะที่เธอกลับมาถึงบ้านของเธอเอง

ทันทีที่ซูหยูโม่เข้ามา เธอก็เห็นเซี่ยเมิ่งเจียวยืนอยู่ไม่ไกลจากประตู จ้องมองมาที่เธออย่างจับผิด “พี่หยูโม่นี่พวกพี่พัฒนามาถึงขนาดนี้แล้วงั้นเหรอ?”

"อะไรนะ?" ซูหยูโม่มองไปที่เซี่ยเมิ่งเจียวด้วยความสงสัย

“ก็ฉันเพิ่งเห็นคุณสองคนกอดและจูบกันที่ชั้นล่าง พี่หยูโม่ พี่จะปล่อยให้คุณรปภ. ต๊อกต๋อยนั้นได้ตัวพี่เร็วเกินไปหน่อยไหม?” แม้ว่าเธอมีความสัมพันธ์กับฮวงเฟิง แต่เธอก็เป็นฝ่ายเริ่มก่อนและไม่ยอมให้ฮวงเฟิงถึงเนื้อถึงตัวเธอได้ง่ายๆ ใครจะไปรู้ว่าพี่หยูโม่ดูเหมือนจะไม่ใช่ฝ่ายเริ่มก่อนในตอนนี้?

เธอไม่คิดว่าน้องสาวของเธอจะได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นจริงๆ อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าเธอเข้าใจผิด เธอไม่ได้จูบกับฮวงเฟิง อาจเป็นเพราะระยะที่ไกลก็เป็นได้

แต่มันยากสำหรับซูหยูโม่ที่จะอธิบาย เป็นไปได้ไหมที่เธอไม่ได้จูบกับฮวงเฟิงแต่ฮวงเฟิงเพียงแค่จูบแก้มของเธอ ซึ่งในสายตาของซูหยูโม่มันก็ไม่ได้ต่างจากเมื่อก่อนมากนัก? ดังนั้น เธอจึงทำได้เพียงพูดว่า: "นี่เธอหมายความว่ายังไง 'ไม่สามารถรับมือได้' มันฟังดูไม่รื่นหูเลยนะ"

จากนั้นซูหยูโม่ก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาและพูดกับเซี่ยเมิ่งเจียวว่า "อ้อ ใช่แล้ว มู่เสวี่ยอยู่ที่ไหนล่ะ ทำไมฉันไม่เห็นเธอเลย"

“ก็เหมือนพี่นั่นล่ะ เธอไปหาคนรักของเธอน่ะสิ เธอเอาหม้อซุปไปด้วยตั้งนานแล้ว ฉันนี่มันน่าสงสารจริงๆ ฉันก็แค่หมาตัวหนึ่ง น่ารังเกียจจริงๆ เลย!” เซี่ยเมิ่งเจียวกล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศกและความขุ่นเคือง

“งั้นเธอก็ไปหาแฟนมาสักคนสิ” ซูหยูโม่พูดกับเซี่ยเมิ่งเจียวอย่างไม่ตั้งใจขณะที่เธอวางกระเป๋าลง ในหัวใจของเธอยังคงสงสัยอย่างมากเกี่ยวกับคนที่ถังมู่เสวี่ยถึงกับลงมือทำซุปให้ อย่างไรก็ตาม เธอไม่มีนิสัยชอบถามถึงความลับของผู้อื่น ดังนั้นเธอจึงไม่ถามเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้