ตอนที่ 373

USB:บทที่ 373 มอบวิชา

เมื่อได้ยินสิ่งที่ไป่เสี่ยวโหรวพูด ฮวงเฟิงก็รู้สึกละอายในใจ เขาเองก็รู้ดีว่าไป่เสี่ยวโหรวจะต้องทำเช่นนั้น และภารกิจทั้งหลายที่เธอทำในองค์กรความมั่นคงแห่งชาติก็ล้วนแล้วแต่ค่อนข้างอันตราย เมื่อเธอไม่มีกำลังภายในแล้วดังนั้นเธอจึงสูญเสียความแข็งแกร่งไปกว่าครึ่ง

เมื่อมองดูสีหน้าที่ผิดหวังของไป่เสี่ยวโหรวแล้วฮวงเฟิงเองก็รู้สึกอยากที่จะชดเชยให้เธอ เพราะว่าเขาเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอต้องเป็นเช่นนี้ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เจตนาก็ตาม

แล้วเขาจะชดเชยให้เธอยังไงกันล่ะ? ฮวงเฟิงคิด ถ้าหากว่าเขาให้เงินเธอไปมันก็คงจะไม่ใช่เรื่อง เมื่อมองดูจากท่าทางของไป่เสี่ยวโหรวแล้วเธอก็ดูไม่เหมือนคนที่ต้องการเงินทองซึ่งบางทียังมีคนอื่นอีกมากมายที่ต้องการเงินมากกว่าเธอ

ดังนั้นเขาจึงคิดหาหลายๆ วิธี แล้วดวงตาของฮวงเฟิงก็จับจ้องไปที่กล่องจักรวาล และสิ่งเดียวที่เขาเพิ่งจะเจอในกล่องจักรวาลและไป่เสี่ยวโหรวก็เป็นคนที่เจอมันอีกด้วย

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเขาจะได้รับไอเท็มดีๆ มาแล้วมากมายจากกล่องจักรวาล ของบางชิ้นเขาก็ได้นำไปใช้ซึ่งบางชิ้นตัวเขาเองก็ต้องการมันเป็นอย่างมาก

โดยสัตย์จริงแล้วถ้าผลไม้สีแดงเวอร์มิลเลียนฟรุตยังไม่ได้ถูกใช้ไปแล้วล่ะก็ การที่จะมอบผลไม้สีแดงเวอร์มิลเลียนฟรุตให้กับไป่เสี่ยวโหรวก็จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด เพราะว่าของสิ่งนี้สามารถที่จะช่วยเพิ่มความเร็วในการฝึกตนได้และมันก็ยังเหมาะกับไป่เสี่ยวโหรวที่ต้องการที่จะฟื้นฟูกำลังภายในอย่างรวดเร็วอีกด้วย

อย่างไรก็ตามผลไม้สีแดงเวอร์มิลเลียนฟรุตนั้นเขาได้ให้ชิวหนิงซวงกินไปแล้ว และเพื่อช่วยชีวิตของอีกฝ่ายไว้ก็เรียกได้ว่าไม่ได้เสียเปล่า ดังนั้นฮวงเฟิงจึงทำได้เพียงแค่เลือกวิชากำลังภายในนี้ให้เธอ

ตามที่ไป่เสี่ยวโหรวได้พูดไว้เมื่อครั้งก่อนและจากการเปรียบเทียบของฮวงเฟิงเอง ฮวงเฟิงได้พบว่าในความเป็นจริงแล้ว เคล็ดวิชาอยู่ยงคงกระพันเจ็ดดาวเคราะห์ดูเหมือนว่าจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งมากกว่าวิชากำลังภายใน อย่างน้อยๆ ก็มากกว่าเทคนิคกำลังภายในที่ไป่เสี่ยวโหรวเคยฝึกฝนก่อนหน้านี้ ยิ่งไปกว่านั้น ความเร็วในการฝึกตนของเธอก็จะเร็วขึ้นอีกนิดหน่อยมากกว่าเคล็ดวิชาอยู่ยงคงกระพันเจ็ดดาวเคราะห์เช่นกัน

สำหรับเวทมนต์นั้น ฮวงเฟิงรู้สึกลังเลอยู่ครู่หนึ่งและไม่ได้หยิบมันออกมา เหตุผลแรกก็เพราะว่าเขาไม่สามารถที่จะอธิบายได้และเหตุผลที่สองก็คือถ้าหากไม่มียาเสริมความฉลาดแล้ว ไป่เสี่ยวโหรวก็จะไม่สามารถที่จะเปิดพรสวรรค์ด้านเวทมนต์ได้เลย ดังนั้นเธอไม่สามารถที่จะฝึกฝนด้านเวทมนต์ได้อยู่แล้ว

“หัวหน้าทีม ผมขอโทษเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นนะ ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้ตั้งใจแต่มันก็ทำให้คุณต้องสูญเสียพลังลมปราณไปเพราะผม ถ้างั้นผมจะขอมอบสิ่งนี้ให้คุณแทนคำขอโทษจากผมก็แล้วกัน”

ฮวงเฟิงได้ถ่ายเอกสารเคล็ดวิชาอยู่ยงคงกระพันเจ็ดดาวเคราะห์และมอบให้กับไป่เสี่ยวโหรวที่อยู่ตรงหน้าเขา

“นี่มันอะไรกัน?” ไป่เสี่ยวโหรวถามด้วยความสงสัยแต่อารมณ์ของเธอก็ไม่ได้ดีขึ้นเลยสักหน่อย

“มันคือเคล็ดลับวิชากำลังภายในที่ผมกำลังฝึกฝนอยู่ เพราะจากที่ผมสังเกตแล้วดูเหมือนว่ามันจะแข็งแกร่งกว่าอันที่คุณเคยฝึกฝนมา” ฮวงเฟิงกล่าว

ไป่เสี่ยวโหรวไม่ได้โกรธเพราะว่าความจริงแล้วเธอเองก็ค่อนข้างดูถูกทักษะกำลังภายในที่เธอกำลังฝึกฝนอยู่ ความจริงแล้วมันมีความแตกต่างจริงๆ ในด้านของทักษะกำลังภายใน และวิชากำลังภายในที่เธอได้ฝึกฝนก่อนหน้านี้นั้นเป็นเพียงบางอย่างที่เธอได้รับมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งมันเป็นเพียงวิชากำลังภายในเบื้องต้นและถือได้ว่าไม่น่าจะฉลาดสักเท่าไร

ไป่เสี่ยวโหรรับเอาเคล็ดลับวิชากำลังภายในจากฮวงเฟิงและอ่านดูคร่าวๆ อย่างไรก็ตามเธอก็ยังไม่เห็นเคล็ดลับการฝึกฝนจิตขั้นสูงสุดซึ่งเป็นสิ่งที่คนที่ฝึกฝนจำเป็นจะต้องรู้

“เอาล่ะ ยังไงซะ ลมปราณของฉันก็ถูกคุณดูดซับไปจนหมดแล้วดังนั้นฉันจะไม่สุภาพกับคุณอีกต่อไปแล้วล่ะนะ ไว้ฉันจะไปอ่านสิ่งนี้ก็แล้วกัน” ไป่เสี่ยวโหรวไม่ได้ปฏิเสธเขาแต่ความจริงแล้วหลังจากที่สงบไปแล้วสักพัก เธอก็ได้คิดไตร่ตรองโดยถี่ถ้วนแล้วว่าเธอไม่ใช่คนขี้บ่น ในเมื่อเรื่องได้เกิดขึ้นแล้วไม่ว่าเธอจะเศร้าโศกเสียใจสักเพียงใดเธอก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว

ไป่เสี่ยวโหรวยังไม่ได้สิ้นหวังเกี่ยวกับอนาคตของเธอ เธอไม่ใช่คนที่จะหวั่นกลัวกับความยากลำบากและในตอนนี้เธอก็ไม่มีพลังลมปราณอีกแล้ว เธอก็จะสามารถเริ่มต้นและฝึกฝนให้หนักกว่าเมื่อก่อนนี้ เธอจะต้องรวบรวมกำลังภายในของเธอให้เหมือนเดิมได้ในสักวันหนึ่ง

หลังจากนั้น ไป่เสี่ยวโหรวก็โทรศัพท์ไปหาหรงหนิงและแจ้งเรื่องของเธอ อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้บอกว่าเป็นเพราะฮวงเฟิง แต่เธอกลับบอกว่าเธอได้สูญเสียกำลังภายในไปกว่าครึ่งระหว่างการฝึกฝนซึ่งเธออาจจะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ให้กับองค์ความมั่นคงแห่งชาติได้อีกต่อไป

หลังจากที่ฟังคำบอกเล่าของเธอแล้วเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้อนุมัติเกี่ยวกับการลาออกของไป่เสี่ยวโหรว เพราะไป่เสี่ยวโหรวนั้นเป็นหัวหน้าทีมที่ยอดเยี่ยมภายใต้การบังคับบัญชาของเขาและยิ่งไปกว่านั้นที่ผ่านมาเธอก็ได้ทำคุณประโยชน์ไว้มากมาย มันเป็นไปไม่ได้ที่เพียงแค่เกิดปัญหาขึ้นกับไป่เสี่ยวโหรวแล้วเขาจะไม่ต้องการเอาตัวเธอไว้

ไม่ว่าไป่เสี่ยวโหรวจะพูดอย่างไร หรงหนิงก็ไม่ยอมเห็นด้วย อย่างไรก็ตามหรงหนิงก็เข้าใจเธอเป็นอย่างดี ปัจจุบันนั้นเธอรับผิดชอบในเขตจังหวัดชิง ดังนั้นเธอจึงต้องรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นภายในจังหวัดชิงมาโดยตลอด เธอรับผิดชอบในการควบคุมฮวงเฟิงในการปฏิบัติภารกิจในคดีพิเศษที่เขาน่าจะทำให้สำเร็จได้ ยิ่งไปกว่านั้นระหว่างช่วงเวลานั้น เธอก็น่าจะได้พักผ่อนและพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บบ้าง

“ผมได้ยินนะว่าหัวหน้าสำนักงานพูดอะไร ดูเหมือนว่าคุณจะยังเป็นหัวหน้าทีมของผมอยู่นะ” หลังจากที่ไป่เสี่ยวโหรววางสาย ฮวงเฟิงก็กล่าวออกมาพร้อมกับหัวเราะ ไป่เสี่ยวโหรวนั้นเป็นคนดีและยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาทั้งสองคนก็ยังเข้าขากันได้ดีอีกด้วย ดังนั้นฮวงเฟิงจึงยินดีที่จะทำงานภายใต้การบังคับบัญชาของเธอและเขาก็ยังไม่รู้ว่าจะมีใครมาแทนที่เธอได้

“ดูเหมือนว่าฉันจะต้องพักอยู่กับคุณอีกสักระยะนะ ถ้าบังเอิญว่าฉันมีปัญหาอะไรระหว่างที่ฝึกฝนอยู่ฉันก็ถามคุณได้สินะ” ไป่เสี่ยวโหรวกล่าวถึงแม้ว่าเธอจะเคยฝึกฝนกำลังภายในมาก่อนหน้านี้ แต่การฝึกฝนของเธอนั้นก็แตกต่างอย่างสิ้นเชิงและฮวงเฟิงเองก็ได้ฝึกเคล็ดลับวิชาอยู่ยงคงกระพันเจ็ดดาวเคราะห์มาแล้วสักพัก ดังนั้นเขาจึงต้องเก่งกว่าเธออยู่แล้ว

แน่นอนว่าไป่เสี่ยวโหรวเองสามารถเลือกที่จะจ่ายเงินเพื่อพักที่โรงแรมข้างนอกได้ แต่อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าเธอไม่อยากจะไปจากที่นี่และถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดว่าที่เธอต้องตกมาอยู่ในสภาพเช่นนี้ก็เพราะฮวงเฟิง แต่มันเป็นเพราะเรื่องบังเอิญ เธอกำลังป่วยและฝีมือทำอาหารของฮวงเฟิงก็ไม่เลวเลยดังนั้นแน่นอนว่าเธอจึงเลือกสิ่งที่สบายกว่า

ถ้าเขาได้ยินว่าไป่เสี่ยวโหรวอยากจะพักอยู่ที่นี่ฮวงเฟิงจะต้องหัวเราะเยาะเธอเป็นแน่ เพราะว่าเขาไม่อยากจะให้ไป่เสี่ยวโหรวรู้เรื่องกล่องจักรวาลของเขารวมถึงเวทมนต์ที่เขากำลังฝึกฝนอยู่ด้วย

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ฮวงเฟิงกำลังตอบโต้อยู่นี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะพูดออกไปได้ มันเป็นเพราะว่าเขาที่ทำให้ไป่เสี่ยวโหรวต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้

“ได้สิ ได้แน่นอน!” ฮวงเฟิงรีบตอบตกลง

ดังนั้นฮวงเฟิงจึงต้องมาอยู่ร่วมชายเดียวกันกับสาวสวยเป็นครั้งแรก ถึงแม้ว่าการที่ต้องมาอยู่ด้วยกันในครั้งนี้จะไม่ได้มีจุดประสงค์อื่นใด แต่มันก็ต้องมีผลกระทบกับชีวิตของฮวงเฟิงอย่างแน่นอน