ตอนที่ 550

USB:บทที่ 550 วางแผน

"ไม่มีทางอื่นเลยรึไง?" เพียงแค่คิดว่าเขาอาจต้องสูญเสียเด็กสาวคนนี้ไปตลอดกาล ก็ทำให้ผู้นำฉีอู่ไร้ซึ่งความสุขทันที เห็นได้ชัดว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้เขาไม่เต็มใจยอมแพ้  ไม่ว่าเขาจะพยายามโน้มน้าวนางเท่าไหร่ อีกฝ่ายก็ไม่คิดที่จะไว้หน้าเขาสักนิด  นอกจากนั้นอีกยังเป็นตระกูลที่ร่ำรวยและมีชื่อเสียงในมณฑลเม่ย และเขาก็รู้สึกว่าเรื่องนี้จะเป็นไปได้ยาก

"ถ้าหากครอบครัวนี้คิดต่อต้านท่านผู้นำตั้งแต่แรก ข้าอาจะส่งสายเข้าไปบดขยี้พวกเขา แล้วนางก็ต้องตกเป็นผู้หญิงของท่านผู้นำแล้ว แต่ตอนนี้?"

อันที่จริงแล้วหลังจากที่พวกเขาเริ่มเข้าสู่เมืองเม่ย พวกเขาก็ได้ใช้วิธีนี้เพื่อแสวงหาความมั่งคังในเวลาอันสั้น ไม่เพียงแต่จะทําให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาร่ำรวยขึ้น เขาเองยังแอบเก็บซ่อนเงินไว้มากมาย  และผู้นําฉีอู่ก็ดีว่าทําไมคุณโกวถึงหยุดคำพูดลงเพียงเท่านั้น มันเป็นเพราะวิธีนี้ใช้ไม่ได้กับครอบครัวของหญิงสาว

ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้ให้ความช่วยเหลือเขาในตอนนั้น เขาอาจฉกเด็กสาวได้ทันที แต่ในตอนนี้ และถ้าผู้นําฉีอู่กล้าหักหาญน้ำใจกัน จำนวนเงินที่จะได้รับเพื่อใช้ในการสนับสนุนกองทัพก็อาจจะไม่เพียงพอ

"ลองหาทางอื่นดูสิ" ในที่สุดผู้นําฉีอู่ยังคงไม่อาจทนกับการที่ต้องสูญเสียผู้หญิงคนนั้นได้ ดังนั้นเขาจึงพูดด้วยใบหน้าหม่นหมอง "กองทัพของราชสำนักกําลังจะมาถึงเร็ว ๆ นี้ เราจะต้องการเงินสนับสนุนจากคนในเมืองนี้มากขึ้น มันเป็นหน้าที่ของเจ้าที่จะต้องจับตัวสายลับของพวกเขาให้ได้ เข้าใจไหม?"

"แต่ ?" นายท่านโกว เข้าใจดีว่า ผู้นำฉีอู่คนนี้ไม่ลังเลที่จะใส่ร้ายครอบครัวของนาง ผลประโยชน์ก็คือผู้หญิงคนนั้น และแน่นอนว่าการถูกจับในข้อกล่าวหาว่าเป็นสายของส่งข่าว ก็เป็นข้อกล่าวหาที่ดี แต่นายท่านโกวยังคงกังวลว่า ถ้าหากเรื่องนี้ถูกแพร่ออกไป ครอบครัวอื่น ๆ ในเมืองที่เคยให้การสนับสนุนพวกเขาจะรู้สึกถึงอันตรายและทัศนคติของพวกเขาก็จะเปลี่ยนไป

"ไม่มี คำว่าแต่!" ผู้นําฉีอู่ โบกมือและพูดด้วยความมั่นใจว่า "ข้ารู้ดี ว่าท่านกำลังกังวลถึงเรื่องอะไร แต่กับคนพวกนั้นไม่มีอะไรให้ต้องกังวล ตราบใดที่กองทัพของเรายังอยู่ในมือเรา”  การสนับสนุนจากครอบครัวในเมืองเม่ย ยังคงมีความสําคัญมากต่อผู้นําฉีอู่ เนื่องจากมันทำให้พวกเขาร่ำรวยขึ้น นอกจากนั้นแล้วพวกเขาก็ยังรู้สึกคุ้นเคยกับเมืองนี้มากขึ้น พวกเขาเป็นทรราชของแผ่นดิน ที่มาปักหลังอยู่ที่นี่ ดังนั้นผู้นำฉีอู่ยังคงต้องการเงินสนับสนุนจากผู้คนที่นี่อยู่อีกมากเพื่อบริหารเมืองแห่งนี้

อย่างไรก็ตามในความเห็นของผู้นําฉีอู่นั้น ต่อให้เรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกไปจริง และอาจจะทำให้ครอบครัวอื่น ๆ รู้สึกไม่พอใจก็ตาม  แต่คนพวกนั้นจำข่มความรู้สึกนั้นเอาไว้ในใจ ไม่มีใครกล้าปริปากพูดอะไรแน่นอน นอกจากนั้นอำนาจและความแข็งแกร่งที่ได้มาจากการทำสงคราม รวมถึงกองกำลังที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ของพวกเขาในขณะนี้ แล้วทำไมพวกเขายังต้องกลัวการปฎิเสธความร่วมมือของคนในเมืองนี้ด้วย

"ขอรับ ท่านผู้นําฉลาดมาก!" ผู้เฒ่าโกวพูดขึ้นทันที เขายังรู้สึกว่าตราบใดที่พวกเขายังคงมีอำนาจอยู่แบบนี้ แม้ว่าคนเหล่านั้นจะไม่พอใจพวกเขา แต่ก็ไม่สามารถทําอะไรได้

"เอาล่ะ ท่านรีบไปจัดการได้เลย ข้าไม่อยากรอนานไปกว่านี้แล้ว!" ผู้นําฉีอู่พูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น เมื่อเขาคิดถึงรูปร่างหน้าตาของผู้หญิงคนนั้น

"ขอรับ ข้าจะรีบไปจัดการเดี๋ยวนี้เลย!" ในที่สุดผู้นำฉีอู่ก็เริ่มผ่อนคลายความรู้สึกออกจากเป้าหมายของเขาลงได้บ้าง

ในเวลาเดียวกันในลานบ้านขนาดใหญ่ในมณฑลเม่ย หญิงสาวอายุยี่สิบแปดปีนั่งอยู่ในศาลาที่ใจกลางลานบ้าน ภายใต้การดูแลของสาวรับใช้ นางกําลังกินขนมอบขณะที่นางเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงามของสวน

"คุณหนูเจ้าค่ะ บ่าวได้ยินมาว่าโจรกบฏต้องการตัวคุณหนู แล้วก็ได้ส่งคนมาทาบทามแล้วด้วย?" ในเวลานี้สาวรับใช้พูดกับหญิงสาว เนื่องจากทั้งคู่เติบโตมาด้วยกัน แม้ว่าพวกนางจะเป็นเพียงแค่เจ้านายกับบ่าวรับใช้ แต่สองสาวก็รักใคร่กันไม่ต่างจากพี่น้อง ดังนั้นสาวรับใช้คนนี้จึงกล้าที่จะพูดกับนางในเรื่องดังกล่าว  ได้ยินคําพูดของหญิงสาวรับใช้ หญิงสาวหยุดกินขนมทันที นางขมวดคิ้วเล็กน้อยทําให้คนอื่นรู้สึกเสียใจกับนาง "บ่าวเคยได้ยินมาอีกด้วยว่า นายท่านได้ปฏิเสธคนผู้นั้นไปแล้ว"

เมื่อนางคิดถึงชายวัยกลางคนที่นางพบเมื่อนางแอบหนีออกไปเดินเล่น นางไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร นางแค่คิดว่าเขามองนางด้วยสายตาที่น่ารังเกียจ ซึ่งทําให้หมดอารมณ์เดินเล่นลงทันที  หลังจากนั้นนางก็พบว่าอีกฝ่ายเป็นผู้นําของกองกำลังกบฏ คนที่ทําให้เกิดการสงครามครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่ได้ทำให้ความคิดของนางที่มีต่อผู้ชายคนนั้นเปลี่ยนไปเลย อย่างไรก็ตามคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะส่งคนมาทาบทามสู่ขอนางกับพ่อของนาง โชคดีที่พ่อของนางปฏิเสธการแต่งงานแทนนาง

"นายท่านเป็นคนฉลาด! ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ก้มลงมองดูตัวเองเลยจริง ๆ ทำตัวเป็นคางคกอยากกินเนื้อหงส์คิดที่จะแต่งงานกับคุณหนู! " ท่าทีของสาวรับใช้เห็นได้ชัดว่านางเองก็ไม่ได้รู้สึกดีต่อผู้นำฉีอู่เช่นกัน และในแง่ของการปราศรัย นางไม่ได้ให้ความนับถือเขาสักนิด

"เจ้า อย่าพูดไร้สาระ ระวังตัวไว้คนพวกนั้นอาจจะมาจับเจ้าไป!" หญิงสาวพูดขึ้น

"บ่าวรู้เจ้าค่ะ บ่าวก็พูดกับคุณหนูเท่านั้นหรอกเจ้าค่ะ ต่อหน้าคนอื่นบ่าวไม่กล้าพูดจาส่งเดช!" นับตั้งแต่ผู้นําฉีอู่ เข้าสู่เขตมณฑลเม่ย เมืองทั้งเมืองก็ไม่ได้พบกับความสงบสุขเลยจริง ๆ  ตอนแรกทุกคนคิดว่าหลังจากที่ทหารจากรัฐบาลจักรวรรดิถูกขับไล่ออกไปแล้ว ชีวิตของพวกเขาจะดีขึ้น ใครจะรู้ว่าการกระทำของกองทัพกบฏพวกนั้นไม่แตกต่างจากทหารจากรัฐบาลจักรวรรดิเลย

นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่พ่อของสาวสวยคนนี้ไม่เห็นด้วยที่จะยังคงให้การสนับสนุนผู้นำฉีอู่ต่อไป หลังจากเห็นการกระทำของกองทัพกบฏ เขาไม่เห็นถึงความคิดอันสูงส่งและชอบธรรมของผู้นำฉีอู่เลย ดังนั้นเขาจึงเป็นธรรมดาที่เขาไม่เต็มใจที่จะส่งลูกสาวของตัวเองเข้าไปในกองไฟ  เพียงแต่เขาไม่คิดว่าผู้นำฉีอู่จะให้ความสนใจในตัวบุตรสาวของเขามากถึงเพียงนี้ มากจนถึงกระทั่งที่ไม่สนใจว่าจะต้องใช้วิธีการใดเพื่อที่จะให้ได้ตัวนางมา

ตกเย็นวันนั้นเฒ่าโกวก็ได้ส่งมอบหยกหรูอี้ไปยังที่พักของท่านผู้นำฉีอู่ ทั้งที่ครั้งนี้เขาเองก็ไม่ได้เต็มใจนัก เนื่องจากเขาเองก็ชื่นชอบหยกชิ้นนี้มากเช่นเดียวกัน อย่างไรก็แล้วแต่เขาจำเป็นต้องเกาะแข้งเกาะขาผู้นำฉีอู่ไว้ให้แน่น ปกติแล้วเขาต้องแสร้งทำเป็นเกรงใจอีกฝ่ายเอาไว้ เพื่อที่เขาจะได้ลงมือทำเรื่องอื่นได้สะดวก

หลังจากนั้นเขาก็จะมีอํานาจและมีโอกาสหาของมีค่าได้และสิ่งดี ๆ มากขึ้น เมื่อผู้นําฉีอู่ เห็นหยกหรูอี้ มันสวยงามเป็นที่สะดุดตา จนสามารถดึงดูดความสนใจเขาได้  หยกหรูอี้ชิ้นนี้ไม่ได้มีสีเขียว แต่เป็นสีขาวขุ่นและเมื่อสัมผัสมันไว้ในมือ ก็รู้สึกอบอุ่นและสดชื่นขึ้น ทำให้เขาพึงพอใจในตัวเฒ่าโกวมากขึ้นยิ่งขึ้น

เขาสามารถหาวิธีจัดการกับเรื่องต่าง ๆ ได้ไม่เลวเลย สันนิษฐานว่าอีกฝ่ายก็น่าจะสามารถส่งผู้หญิงที่เขาชอบไปที่เตียงเขาได้  หลังจากที่ผู้นําฉีอู่ก็ได้เข้าไปพักผ่อน โดยที่หยกหรูอี้ชิ้นนั้นยังไม่ได้ถูกเก็บไว้ในคลังส่วนตัวของเขา เพราะเขารู้สึกว่าการเล่นกับมันจะช่วยให้เขารู้สึกสดชื่น ดังนั้นเขาจึงวางมันไว้บนโต๊ะในห้องด้านนอก ด้วยหวังว่าเขาจะสามารถเล่นกับมันได้ทุกครั้งเมื่อตื่นขึ้นมา

และที่หน้าห้องของเขาก็มียามทหารคอยเฟ้ารักษาการอยู่ตลอดเวลา  ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่กลัวว่าหยกจะถูกขโมยออกไปได้ แต่เมื่อผู้นำฉีอู่หลับลงแล้ว หยกหรูอี้ที่เขาวางไว้ที่ห้องด้านนอกก็ส่องแสงกระพริบขึ้น  หลังจากนั้นมันก็รูปร่างของมันเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด ไม่เพียงแค่ว่ามันจะดูขนาดความยาวของมันจะสั้นลงกว่าเดิมมากเท่านั้น แต่รูปทรงของมันก็ได้เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด  ถ้าหากตาไม่บอดก็คงเห็นได้ว่าขนาดความยาวของหยกหรูอี้นั้นไม่ยาวเท่ากับตอนแรกแล้ว