ตอนที่ 289

USB:บทที่ 289 ขอโทษที่มาช้า

"ขอโทษที่มาช้านะ"

ในขณะที่ชิวหนิงช่วงกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ทันใดนั้นประตูห้องผู้ป่วยก็เปิดออกและร่างของฮวงเฟิงก็ได้ปรากฎสู่สายตา

เมื่อเห็นว่าสิ่งของในห้องพักถูกเก็บอย่างเป็นระเบียบ ฮวงเฟิงรู้ว่าเขามาช้าไปจึงรู้สึกละอายใจ จริงๆแล้วเขาออกมาตั้งแต่เช้า แต่เพราะเป็นชั่วโมงเร่งด่วน ทำให้เขามาถึงที่นี่ไม่ทันเวลา

"มาแล้วเหรอ!" เมื่อชิวหนิงช่วงเห็นฮวงเฟิง ในตอนนั้นเองความกังวลบนใบหน้าของเธอก็พลันหายไปจนหมดสิ้น ชิวหนิงช่วงจึงเดินเข้าไปหาฮวงเฟิงด้วยใบหน้าแห่งความสุข

ทางด้านหลังของชิวหนิงช่วง แม่ของเธอมองไปทางผู้กำกับชิวที่เพิ่งคุยกับหมอเสร็จ และเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

“ในที่สุดก็ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ยินดีด้วยนะ” ฮวงเฟิงกล่าวพลางยื่นดอกไม้ที่อยู่ในมือให้ชิวหนิงช่วง

"ขอบคุณนะ..." ชิวหนิงช่วงรับดอกไม้จากมือฮวงเฟิงพร้อมกับยิ้มกว้าง ในตอนนี้ใบหน้าของเธอไม่หลงเหลือความกังวลและความรู้สึกเบื่อหน่ายจากก่อนหน้านี้อยู่เลย

“นายคงจะเป็นฮวงเฟิงสินะ” ในคืนนั้น เขาเคยเจอกับฮวงเฟิงครั้งหนึ่งแล้ว แต่เพราะทั้งสองยังไม่ได้แนะนำตัว ดังนั้นจึงไม่ถือว่าทั้งสองเป็นคนรู้จักกัน

“ใช่ครับ ผู้กำกับชิว สวัสดีและยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งครับ” ในอนาคต เขาจะก่อตั้งบริษัท เพื่อไม่ให้เป็นการสร้างความขัดแย้งระหว่างบริษัทกับตำรวจ

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงต้องอ่อนน้อมและสุภาพกับผู้กำกับชิวเข้าไว้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าอีกฝ่ายเป็นพ่อของชิวหนิงช่วงด้วยแล้ว

"เอ่อ นายเรียกฉันว่าลุงชิวก็พอ คืนนั้น ขอบใจนายมากที่ช่วยลูกสาวของฉันไว้" ผู้กำกับชิวตอบฮวงเฟิงด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม จนแทบไม่เหลือคราบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

“ลุงชิวเกรงใจกันเกินไปแล้วครับ” ในเมื่อเป็นความต้องการของผู้กำกับชิว ฮวงเฟิงจึงไม่มีเหตุผลที่เขาต้องปฏิเสธ

“สองสามวันที่ผ่านมานี้ตอนที่หนิงช่วงพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล ฉันยุ่งมาก ไหนๆวันนี้เธอก็มาในวันที่ฉันว่างพอดี เอาเป็นว่า ฉันจะเลี้ยงมื้อเที่ยงเป็นการตอบแทนเอง” ผู้กำกับชิวพูดกับฮวงเฟิง

"ลุงชิว ผมกับหนิงช่วงเป็นเพื่อนกัน ที่ผมช่วยเธอไว้เป็นเรื่องที่ควรทำแล้ว ลุงไม่จำเป็นต้องตอบแทนผมหรอกครับ" ฮวงเฟิงรีบกล่าวปฏิเสธ

“ฉันจะทำแบบนั้นได้ยังไงล่ะ? ในเมื่อทั้งสองคนเป็นเพื่อนกัน และฉันเป็นคนในครอบครัว อะไรที่ควรตอบแทน ฉันก็ต้องตอบแทนสิ” เดิมทีเขาต้องการซื้อขนมให้ฮวงเฟิงเป็นการตอบแทน

แต่เขาก็ตระหนักได้ว่าลูกสาวของเขาดูเหมือนจะสนใจฮวงเฟิง ด้วยเหตุนี้ เขาจึงต้องรับประทานอาหารร่วมกับอีกฝ่ายเพื่อเป็นการตอบแทน

“ใช่แล้ว ฮวงเฟิง นายไม่ต้องมาปฏิเสธเลย” แม้ว่าก่อนหน้านี้ ชิวหนิงช่วงจะรู้สึกเขินอาย แต่เธอก็แอบหวังว่า ฮวงเฟิงจะยอมรับประทานอาหารร่วมกับเธอ

ฮวงเฟิงไม่รู้จักพ่อแม่ของเธอ อีกฝ่ายเคยช่วยชีวิตเธอ และเธอเองก็เคยช่วยเขามานัดต่อนัด นอกจากนี้เธอยังสนใจฮวงเฟิง เป็นธรรมดาที่เธอจะอยากให้ฮวงเฟิงรู้จักกับคนในครอบครัว

“เอ่อ.. แต่ว่า..?” ฮวงเฟิงรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย เขามีธุระที่ต้องทำต่อจากนี้ หากเขาไม่มีธุระสำคัญ เขาก็ยินดีที่จะไปร่วมรับโต๊ะกับเจ้าเมืองชิงแล้ว

"ตอนเที่ยง เฟิงมีธุระเหรอลูก?" ดูท่าว่าแม่ของชิวหนิงช่วงจะสังเกตเห็นท่าทางของอีกฝ่าย

"ครับ ผมเปิดโรงงานเล็กๆและเตรียมการผลิตในวันนี้ หลังจากนี้ ผมต้องไปที่นั่นต่อ" ฮวงเฟิงตอบโดยไม่ปิดบัง เพราะถ้าไม่อย่างนั้น พ่อแม่ของชิวหนิงช่วงอาจคิดว่าเขาไม่อยากไป ซึ่งมันเป็นอะไรที่ไม่สมควรทำ

“นี่เฟิงกำลังจะบอกแม่ว่า เฟิงเปิดโรงงานของเองเหรอลูก?” แม่ของชิวหนิงช่วงถามด้วยความตกใจ

ก่อนหน้านี้เธอได้ทราบฐานะของฮวงเฟิงมาจากลูกสาว และเธอรู้มาว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงแค่ผู้จัดการรปภ.เท่านั้น

แม้แต่ชิวหนิงช่วงและผู้กำกับชิวต่างก็หันไปมองฮวงเฟิงด้วยความตกใจ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต่างคิดไม่ถึง โดยเฉพาะชิวหนิงช่วง

แม้สองสามวันนี้ เธอจะพักฟื้นที่โรงพยาบาล แต่เธอก็ทราบเรื่องเกี่ยวกับฮวงเฟิงไม่น้อย เพราะเธอชอบฮวงเฟิง เธอจึงอยากรู้จักอีกฝ่ายมากขึ้น

แต่ถึงอย่างนั้น เธอกลับคิดไม่ถึงเลยว่าสิ่งที่เธอรู้นั้นไม่ใช่ทั้งหมดเกี่ยวกับฮวงเฟิง

ชิวหนิงช่วงรีบนึกถึงของวิเศษที่เป็นถุงมือและผลไม้ที่ฮวงเฟิงป้อนเธอ เห็นได้ชัดว่าฮวงเฟิงเก็บซ่อนความลับอยู่ไม่น้อย ด้วยเหตุนี้ เธอจึงไม่รู้สึกแปลกใจที่รู้ตัวตนของอีกฝ่าย

“เอ่อ ก็แค่โรงงานเล็กๆที่ทำร่วมกับเพื่อนน่ะครับ” ฮวงเฟิงตอบด้วยท่าทางเก้อเขิน เขาไม่ได้พูดโกหก เพราะโรงงานของเขาเป็นโรงงานขนาดเล็กจริงๆ และมีพนักงานอยู่เพียงแค่ยี่สิบคนเท่านั้น

จากนั้นผู้กำกับชิวก็หันไปพูดกับคนแม่และชิวหนิงช่วงคนลูกว่า "เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ทั้งสองคนกลับไปก่อน หนิงช่วง ลูกกลับไปอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อย แล้วให้แม่พาไปรอที่ร้านอาหารสักแห่ง ส่วนพ่อจะไปดูโรงงานของเสี่ยงฮวง"

จากนั้น เขาก็หันไปพูดกับฮวงเฟิงว่า "เสี่ยวฮวง หวังว่านายจะอนุญาติให้ฉันไปด้วยนะ?"

ผู้กำกับชิวกำลังจะมอบโอกาสให้ฮวงเฟิง ด้วยการมาถึงของเขาที่โรงงานขนาดเล็กของฮวงเฟิง จะต้องไม่มีคนที่ไม่รู้จักในอนาคต

ในเมื่อได้ข้อสรุปแล้ว สามคนที่เหลือจึงปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด

แม้ว่าฮวงเฟิงจะไม่ชอบวิธีที่ผู้กำกับชิวพูดกับเขาเมื่อกี้ แต่มันก็เทียบไม่ได้กับตอนที่แม่ของเธอเรียกเขาว่า ‘เฟิง’ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็รู้สึกยินดีที่ผู้กำกับชิวอยากไปเยี่ยมชมโรงงานของเขา

"ครับ แน่นอนอยู่แล้ว" ฮวงเฟิงรู้ว่าผู้กำกับชิวจงใจทำให้เขาพาอีกฝ่ายไปที่โรงงานให้ได้ เพราะตอนเที่ยงเขาจะได้ไปทานข้าวกับอีกฝ่าย

นอกจากนี้ นี่เป็นการเชื้อเชิญจากอีกฝ่าย ในเมื่อผู้กำกับชิวอยากไป แม้ว่าฮวงเฟิงจะรู้สึกไม่ยินดีเท่าไหร่ แต่เขาก็จะไม่ปฏิเสธ

ก่อนหน้านี้แม้ว่า ฮวงเฟิงจะรู้สถานะของผู้กำกับชิว แต่เขาก็ไม่คิดจะหาผลประโยชน์จากอีกฝ่ายแบบนี้

ฮวงเฟิงแค่คิดว่าหลังจากที่ได้รู้จักคนๆนี้แล้ว หากอนาคต เขามีปัญหาอะไรที่ไม่สามารถจัดการได้ด้วยตนเอง เขาก็จะสามารถขอความช่วยเหลือจากอีกฝ่ายได้

เพียงแต่เขาคิดไม่ถึงว่าผู้กำกับชิวจะอยากไปเยี่ยมชมโรงงานของเขาก็เท่านั้น

เห็นได้ชัดว่าชิวหนิงช่วงเข้าใจทุกอย่าง เธอจึงพยักหน้าและตอบว่า "ค่ะ หนูจะไปรอคุณพ่อที่ร้านอาหารกับคุณแม่นะคะ"

จากนั้นชิวหนิงช่วงก็กลับไปพร้อมผู้เป็นแม่ ส่วนพ่อของเธอและฮวงเฟิงก็ได้เดินทางไปยังโรงงานด้วยกัน

หากแต่สิ่งที่ทำให้ฮวงเฟิงลำบากใจก็คือเขาไม่มีรถเป็นของตัวเอง ในตอนนี้ ทั้งสองก็นั่งในรถของพ่อของชิวหนิงช่วง

โชคดีที่พ่อของชิวหนิงช่วงไม่ได้ดูถูกฮวงเฟิง เป็นเพราะเขาเข้าใจหัวอกของฮวงเฟิงด้วย ด้วยฐานะทางบ้านและการสำเร็จการศึกษาในระดับที่ไม่สูงมาก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทำให้ทุกวันนี้ฮวงเฟิงยังไม่มีรถขับ

แต่สิ่งที่ทำให้พ่อของชิวหนิงช่วงสงสัยก็คือฮวงเฟิงไม่มีเงินไปซื้อรถ แต่กลับมีเงินสร้างโรงงาน เขาละไม่เข้าใจอีกฝ่ายเลยจริงๆ