ตอนที่ 705

USB:บทที่ 705  สยบข่าว

และท้ายที่สุดคนที่เข้ามาภายในร้านก็คือผู้สื่อข่าวมากมาย

ฮวงเฟิงเดินไปตรงหน้าของผู้สื่อข่าวเหล่านั้น มองไปที่พวกเขาอย่างระมัดระวังและอ่านดูบัตรนักข่าวของพวกเขา จากนั้นเขาก็กล่าวกับผู้สื่อข่าวเหล่านั้นว่า “ผมไม่สนใจหรอกนะว่าพวกคุณเป็นใคร แต่ถ้าพรุ่งนี้ผมเห็นว่าว่าสื่อรายงานข่าวด้านลบของเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ป พวกคุณทุกคนจะต้องจบเห่เหมือนคนพวกนั้น!”

จริงๆ แล้วตอนที่ท่านหวังเร่งมาช่วยฮวงเฟิงนั้นพวกเขาก็รู้แก่ใจแล้วว่าฮวงเฟิงคงจะไม่ใช่แค่ รปภ. ธรรมดา แล้วยังกล้าชกเจ้าหน้าที่ของรัฐต่อหน้าทุกคนและยังทำร้ายร่างกายตำรวจอีกด้วย แต่จนแล้วจนรอดเขากลับไม่ได้รับโทษอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นแม้แต่ผู้บัญชาการกรมตำรวจก็ยังออกหน้าช่วยเขา แล้วเขาจะเป็นแค่คนธรรมดาได้ยังไง?

ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สงสัยกับคำพูดของฮวงเฟิงเลยสักนิด ถึงแม้ว่าการทำมาหากินนั้นจะสำคัญแต่เห็นได้ชัดว่าชีวิตของพวกเขานั้นสำคัญกว่า

“ไม่ ไม่ครับ พวกเราจะเสนอแต่ข้อเท็จจริงของข่าวอย่างแน่นอน”

“ใช่แล้ว เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไรกับบริษัทที่มีมโนธรรมอย่างเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปได้อย่างไรกัน? มันต้องมีคนจัดฉากแน่ๆ”

“ใช่ ใช่”

ผู้สื่อข่าวทั้งหลายละล่ำละลักออกมาพร้อมๆ กัน พวกเขาต่างก็พากันการันตีว่าทุกอย่างที่อยู่กล้องของเขาจะถูกลบออก คราวนี้พวกเขาจึงต้องลบสิ่งเหล่านั้นออกถึงแม้ว่าจะหาเงินได้น้อยแต่อย่างน้อยก็ไม่กระทบกับงานของพวกเขา

“ดีมาก” ฮวงเฟิงกล่าว “แต่ไหนๆ พวกคุณทุกคนก็มีถึงนี่แล้วอย่าได้กลับไปมือเปล่าเลยนะ กลับไปแล้วก็ช่วยโฆษณาให้เฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปด้วย พวกคุณว่าไง?”

ในเวลานี้ ซูหยูโม่และเซี่ยเมิ่งเจียวก็พากันเข้ามาแล้ว และเมื่อได้ยินคำพูดของฮวงเฟิงซูหยูโม่ก็รีบส่งสัญญาณให้กับสต๊าฟที่อยู่ข้างๆ ไม่นานนักคนพวกนั้นก็นำซองอั่งเปาสีแดงออกมาด้วย

เดิมทีแล้วถ้าหากว่าพวกเขาไม่ได้รับซองอั่งเปาสีแดงพวกเขาก็อยากที่จะรายงานข่าวเกี่ยวกับเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปเพื่อเป็นการแก้แค้นฮวงเฟิง แต่แน่นอนว่าในเมื่อมันออกมาเป็นเชิงบวกซึ่งมันก็ไม่ได้หนักหนาเกินไปและมันก็น่าจะเพียงพอแล้วที่จะจัดการกับฮวงเฟิง

อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่คาดคิดว่าซูหยูโม่จะเป็นคนดีเช่นนี้ ถ้าเป็นเช่นนี้ไม่เพียงแต่พวกเขาจะได้ประโยชน์พวกเขาเองก็ยังไม่ต้องกังวลว่าจะถูกฮวงเฟิงตามไปแก้แค้นอีกด้วย

“แน่นอน พอฉันกลับไปแล้วฉันจะรีบไปเขียนสคริปท์ข่าวเลยทันที!”

“ใช่ เฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปนี่ดีจริงๆ แล้วจะถูกฝังได้ยังไงล่ะ เดี๋ยวพวกเราจะไปโฆษณาเพิ่มให้”

ผู้สื่อข่าวทั้งหลายต่างพากันยิ้ม

"ขอบคุณมากนะทุกคน" ซูหยูโม่ยิ้มและพูดกับผู้สื่อข่าว ฮวงเฟิงสามารถข่มขู่ผู้สื่อข่าวเหล่านี้ได้ แต่ในฐานะผู้บริหารของบริษัท เธอไม่สามารถรู้ถึงความสำคัญของเหยี่ยวข่าวเหล่านี้ได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขาเอาไว้

เมื่อเปรียบเทียบด้วยทัศนคติของฮวงเฟิงก่อนหน้านี้ ตอนนี้ซูหยูโม่เป็นคนสุภาพเช่นนี้มันทำให้ผู้สื่อข่าวเหล่านั้นพอใจมากขึ้นในทันที ความขุ่นเคืองเล็กน้อยที่พวกเขามีอยู่ในใจจากคำขู่ของฮวงเฟิงก็หายไปเช่นกัน

“อันที่จริง คุณไม่เห็นจำเป็นต้องให้ซองอั่งเปาก็ได้” ฮวงเฟิงมองไปที่ผู้สื่อข่าวที่ออกไปพร้อมกับซองแดงในมือ จากนั้นเขาก็หันกลับมาและพูดกับซูหยูโม่และเซี่ยเมิ่งเจียว

"ฉันไม่ได้ให้เงินมากนักหรอกน่า อีกอย่างนะการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขาก็คุ้มค่า" ซูหยูโม่หัวเราะและพูดว่า: "คุณเองก็เป็นนักธุรกิจ คุณต้องเข้าใจว่าแม้ว่าคุณจะไม่ไปประจบประแจงกับนักข่าวเหล่านี้ แต่คุณต้องไม่ทำให้พวกเขาต้องขุ่นเคืองใจ มิฉะนั้นแล้วพวกเขาจะฆ่าคุณแน่!"

“พวกมันกล้าเหรอ!” ฮวงเฟิงกล่าว

“เอ๊ะ คุณ รปภ. แม้แต่ตอนนี้ฉันก็ยังสงสัย นายรู้จักกับผู้บัญชาการกรมตำรวจได้ยังไงกัน? ทำไมนายถึงคิดว่าเขาใจดีกับนายได้ขนาดนี้?” เซี่ยเมิ่งเจียวจ้องและกล่าวกับฮวงเฟิง

อันที่จริงนี่เป็นคำถามที่ใหญ่ที่สุดในใจของทั้งเธอและซูหยูโม่ เพราะถ้าผู้บัญชาการหวังมาไม่ทัน พวกเธอก็จะไม่รู้ว่าจะจัดการกับเหตุการณ์ในวันนี้ได้อย่างไร ในสายตาของพวกเธอนั้นการกระทำของฮวงเฟิงนั้นสะเพร่าเกินไป

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการปรากฏตัวของผู้บัญชาการหวังพวกเธอทั้งสองจึงได้เข้าใจว่าฮวงเฟิงมีคนที่เขาสามารถพึ่งพาได้ มิฉะนั้นแล้วเขาก็คงจะไม่กล้าทำเช่นนั้น แต่ทว่าก่อนนี้ฮวงเฟิงก็เป็นเพียงยามรักษาความปลอดภัยแล้วเขาจะรู้จักผู้บัญชาการกรมตำรวจได้อย่างไร?

“พวกเราพบกันโดยบังเอิญน่ะ” ฮวงเฟิงกล่าว “ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ไม่ได้สุภาพกับผมขนาดนั้น เพราะสิ่งที่ผมพูดนั้นก็มีเหตุผลและสิ่งที่ผมทำนั้นก็สมเหตุสมผล ซึ่งแน่นอนว่าเขาก็ทำได้แค่ฟังผมก็เท่านั้น”

“สิ่งที่คุณทำ สิ่งที่คุณพูดก็สมเหตุสมผลอยู่นั่นแหละ แต่คุณทำร้ายร่างกายเขา ฉีกเอกสารของเขาออกเป็นชิ้นๆ และแม้กระทั่งทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ” เซี่ยเมิ่งเจียวกล่าว

“นี่ ที่ผมทำไปก็เพื่อบริษัทของคุณนะ ทำไมดูเหมือนคุณไม่พอใจกับสิ่งที่ผมทำเลยล่ะ?” ฮวงเฟิงกล่าวด้วยความไม่พอใจ

เซี่ยเมิ่งเจียวรู้สึกละอายเล็กน้อยเพราะสิ่งที่ฮวงเฟิงทำนั้นก็เพื่อบริษัทของเธอจริงๆ แม้ว่าความจริงแล้วมันอาจจะเป็นไปได้ว่าสิ่งที่ฮวงเฟิงทำไปก็เพื่อยืนหยัดเพื่อพี่หยูโม่ของเธอ แต่ผลที่ได้รับมันก็ยังคงเป็นผลประโยชน์ของบริษัทเธอนั่นเอง

“ถ้างั้นคืนนี้ฉันจะเลี้ยงข้าวเย็นนายเอง” เซี่ยเมิ่งเจียวกล่าว

“จะกินหรือไม่กินก็ไม่สำคัญ แต่อย่าลืมที่สัญญาไว้ก่อนหน้านี้ล่ะ” ฮวงเฟิงกล่าว

“ไม่ต้องห่วง ฉันสัญญาว่าฉันจะให้โอกาสคุณและพี่หยูโม่ได้อยู่ด้วยกันตามลำพังมากขึ้น” เซี่ยเมิ่งเจียวกล่าว

"ต้องแบบนี้สิ" ฮวงเฟิงพอใจ

อย่างไรก็ตาม หลังจากเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเซี่ยเมิ่งเจียวก็ไม่ได้ซักไซ้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างฮวงเฟิงกับท่านหวังต่อ แต่ตัวซูหยูโม่นั้นยังคงมีคำถามนั้นอยู่ในใจ โดยคิดว่าฮวงเฟิงนั้นเป็นคนมีเงินในการตั้งโรงงานและซื้อโรงงานดังกล่าว รถที่เขาขับก็เป็นรถอย่างดีเห็นได้ชัดว่าเธอไม่รู้อะไรหลายอย่างเกี่ยวกับเขา

แต่อย่างไรก็ตามซูหยูโม่ก็ยังคงมีพอใจมาก เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างเหล่านี้ล้วนแสดงให้เห็นว่าฮวงเฟิงไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เขาเป็น

เซี่ยเมิ่งเจียวกำลังยุ่งอยู่ทางด้านข้างและปล่อยซูหยูโม่ไว้ทางด้านหลังและปล่อยให้เธอและฮวงเฟิงได้มีโอกาสอยู่กันตามลำพัง

"เซี่ยเมิ่งเจียวนี่ค่อนข้างไว้ใจได้จริงๆ" ฮวงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

"ใช่ เมิ่งเจียวเก่งมาก" ซูหยูโม่ยังหัวเราะและพูดออกมา

ฮวงเฟิงมองไปที่ซูหยูโม่และพูดว่า: "หยูโม่มีบางสิ่งที่ผมยังไม่ได้บอกคุณ ไว้มีโอกาสผมจะบอกคุณทุกอย่างอย่างแน่นอน"

“ค่ะ ฉันเชื่อคุณ” ซูหยูโม่ไม่ได้โกรธเขาเลยแม้แต่น้อย

ฮวงเฟิงยังคงพูดต่อไปว่า: "อย่างไรก็ตาม คุณไม่มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับท่านหวังคนนี้เลยเหรอ แบบว่ารู้จักเขาได้ยังไงอะไรแบบนี้?"

เกี่ยวกับผู้บัญชาการหวัง ฮวงเฟิงไม่ได้คิดที่จะปิดบังซูหยูโม่ นอกเหนือไปจากกล่องจักรวาล ฮวงเฟิงก็ไม่ได้คิดที่จะปิดบังอะไรเธออีก