ตอนที่ 140

USB:บทที่ 140 ค่อยๆคุยกันดีไหม

"ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?" ฮวงเฟิงถาม

ใช่ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? คำพูดของฮวงเฟิงทำให้หลิวหงถงกับตะลึงงัน

ในตอนนี้ฮวงเฟิงเป็นผู้จัดการ มันก็มีเหตุผลเป็นอย่างยิ่งที่เขาจะจัดให้พวกเขาลงไปที่โรงงานเพื่อเป็นเสริมกำลังให้เขา

ซึ่งเขาก็มีสิทธิ์

เพียงแต่เขาไม่เคยคิดว่า ฮวงเฟิงจะกำหนดเป้าหมายกลุ่มแรกอย่างชัดเจน และยังพูดกับเขา เขาไม่เคยคิดว่าฮวงเฟิงเด็กหนุ่มที่โง่เขลานั้นจะกล้ามาสั่งเขา

แน่นอนว่า หลิวหงไม่เต็มใจที่จะลงไปข้างล่าง เพราะว่าที่ไหนจะสบายเท่าที่โรงงาน? แล้วยังต้องทำงานล่วงเวลาบ่อยๆ ด้วย ไม่เหมือนที่อยู่ที่นี่ที่ทำงานตามเวลา ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งแวดล้อมก็ดี และอาหารก็ดีด้วย แล้วจะเขาเต็มใจไปได้อย่างไร?

ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ดูถูกฮวงเฟิงอยู่ในใจ  มิฉะนั้นเขาคงจะไม่โพล่งออกไปว่าเขาไม่สามารถรับมันได้อีกแล้ว

“เพราะว่าพวกเราจะต้องอยู่เคียงข้างบริษัท และไม่ค่อยชินกับโรงงานที่อยู่ด้านล่าง พวกเราก็เลยไม่ค่อยอยากไปที่นั่น” หลิวหงกล่าว

“ฉันก็ไม่ได้ขอให้พวกคุณไปอยู่ที่นั่น มันก็แค่ช่วงเวลาสั้นๆ และเพราะว่าพวกเราเป็นเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัย พวกเราจึงต้องไปลาดตระเวน พวกเราจะไปตรวจสอบว่ามีปัญหาอะไรที่พวกเราพอจะแก้ไขได้บ้าง?” ฮวงเฟิงกล่าว

หลิวหงถึงกับอึ้ง แต่ก็ยังเห็นได้ชัดว่าเขาไม่พอใจที่กับการจัดการของฮวงเฟิง

ด้วยที่มีหลายคนจ้องมองอยู่ ถ้าเขาเชื่อฟังฮวงเฟิง แล้วเขาจะอยู่ที่นี่ต่อไปได้อย่างไร? เพราะเขาอาวุโสกว่า และฮวงเฟิงก็ยังเป็นไอ้ไก่อ่อน

ดังนั้น หลิวหงจึงทำเช่นเดียวกันกับเหลาปิง เขาไม่ยอมลงไปที่โรงงานด้านล่าง ถึงแม้ว่าจะต้องไปแค่สองสามวันแต่พวกเขาเพียงต้องการที่จะต่อต้านฮวงเฟิงเพราะไม่อยากให้งานของฮวงเฟิงในฐานะผู้จัดการราบรื่นเท่าใดนัก

“พวกเขาก็ไม่ไปเหมือนกัน” หลิวหงไม่มีทางเลือก

ฮวงเฟิงจึงไม่กวนใจหลิวหงอีกต่อไป และมองตรงไปยังหัวหน้าทีมของกลุ่มที่สามและถามว่า “แล้วพวกคุณล่ะ ไม่เต็มใจที่จะไปเหมือนกันใช่รึเปล่า?”

“ลูกน้องของผมต่างก็พากันพักอาศัยอยู่ในเมือง มันไม่ค่อยสะดวกที่จะต้องเดินทางไปกลับ” หัวหน้ากลุ่มที่สามกล่าว

ถึงแม้ว่าเขาและหัวหน้ากลุ่มสองและกลุ่มหนึ่งจะไม่ค่อยลงรอยกันนัก

แต่พวกเขาก็มีความคิดเห็นเหมือนกันที่จะคว่ำบาตรฮวงเฟิง

ฮวงเฟิงพยักหน้าแสดงให้เห็นว่าเขาเข้าใจ

เขาหมุนตัวกลับและมองไปยังคนรอบๆ ตัวเขา

นอกไปจากพี่หวังแล้ว รปภ.ทั้งหลายต่างพากันมองดูเขาเหมือนกับตั้งใจดูโชว และฮวงเฟิงก็รู้ดีว่าในใจของพวกเขาคิดอะไร

เพียงแค่ว่าเขาต้องการที่จะแก้ปัญหาครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อที่เขาจะได้ดูแลหนึ่งในนั้น

ทั้งในวันนี้และในอนาคตก็จะมีคนอื่นๆ ที่จะกระโดดออกมาคัดค้านในการทำงานของพวกเขา

ถ้าเขาไม่ได้วางแผนเรื่องนี้เอาไว้ เมื่อพี่หวังยืนขึ้นในตอนนี้เขาก็จะตอบตกลงทันที

แน่นอนว่าฮวงเฟิงไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหมด เพราะมันจะเป็นจริงมากขึ้น

ท้ายที่สุดคนเหล่านี้หลายคนก็เป็นคนเก่าคนแก่มาก่อนและตัวเขาเองก็ต้องการคนที่สนับสนุนพวกเขาในด้านจิตใจด้วย

ด้วยวิธีนี้การทำงานในอนาคตของเขาก็จะง่ายขึ้นมากและสำหรับคนเหล่านี้ที่ชอบเล่นกับความอาวุโส พวกเขาจะไปทุกที่ที่พวกเขาชอบและไม่อยู่เคียงข้างเขาอีกต่อไป

ฮวงเฟิงไมไ่ด้พูดอะไรอีกแต่มองดูที่โทรศัพท์ของเขา และกดหมายเลขโทรศัพท์ “ฮัลโหล นั่นใช่ผู้จ้ดการจางใช่ไหม? สวัสดีครับ ผมฮวงเฟิงนะ ผมรบกวนคุณมาที่นี่ได้ไหม?” ใช่ ผมมีเรื่องที่ต้องดูแล โอเค ขอบคุณ”

เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าฮวงเฟิงกำลังโทรศัพท์ และพวกเขาก็ไม่รู้ว่าเขากำลังโทรหาใคร แต่พวกเขาก็รู้สึกอึดอัดในใจทันที

การแสดงออกของฮวงเฟิงเห็นได้ชัดว่าแตกต่างไปจากที่พวกเขาคาดคิดไว้มาก

พวกเขาคิดว่าฮวงเฟิงจะถูกฉีกหน้าต่อหน้าของทุกคน และ

และทั้งวู่วามและโกรธเคือง หรือเขาจะเพียงแค่อดทนและเดินจากไปเอง

แต่ตอนนี้ใบหน้าของฮวงเฟิงไม่ได้มีอาการตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย ไม่แม้แต่จะโกรธ เขาช่างดูสงบเยือกเย็นจนทำให้คนพวกนั้นรู้สึกไม่สบายใจ

พวกเขาไม่รู้ว่าฮวงเฟิงกำลังคิดอะไรอยู่หรือเขาโทรหาใคร

“อืม ผู้จัดการฮวง ฉันคิดว่าพวกเราจะยังคุยกันเรื่องนี้ได้นะ”

ในเวลานี้เหลาปิงที่สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ

จู่ๆ ก็พูดขึ้น แม้ว่าเขาจะเป็นจิ้งจอกเฒ่าและเขาไม่รู้ว่าฮวงเฟิงกำลังคิดอะไรอยู่

แต่เขาก็รู้สึกถึงอันตรายที่อยู่ข้างหน้าและเริ่มคิดที่จะถอยหลัง

แต่ตราบใดที่พวกเขาต่อรองกันได้ การตัดสินใจของฮวงเฟิงในตอนนี้ก็จะยังไม่เกิดขึ้น

“ใช่แล้ว มันเป็นไปไม่ได้แล้วที่จะมาหารือกัน” ผู้นำของกลุ่มสองและกลุ่มสามต่างก็เป็นคนฉลาดดังนั้นพวกเขาจึงพูดขึ้นมาทันที

อย่างไรก็ตาม ฮวงเฟิงส่ายหัวและพูดว่า “ไม่จำเป็น”

เหลาปิงและคนอื่นต่างมองหน้ากัน เขาไม่รู้ว่าฮวงเฟิงกำลังวางแผนอะไรอยู่ หรือทำไมเขาจึงพูดเช่นนั้น

แต่พวกเขาก็เห็นผู้จัดการจางฝ่ายบุคคลเข้ามาอย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นร่างของผู้จัดการจาง หัวใจของพวกเขาก็เต้นรัวอยู่ครู่หนึ่ง และพวกเขารู้สึกสังหรณ์ไม่ดีในใจ

แต่พวกเขารู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้ จะเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ?

“ผู้จัดการฮวง” เมื่อเห็นสถานการณ์ในปัจจุบัน เธอก็สามารถเดาได้อย่างคร่าวๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่

ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้อย่างแน่ชัด แต่คนเหล่านี้ คนที่ยึดติดกับคำว่าอาวุโส คงจะจงใจที่จะสร้างปํญหาให้แก่ฮวงเฟิงอย่างแน่นอน

เพียงแต่ว่าพวกเขาไม่รู้ถึงความแตกต่างระหว่างร้องขอความตายและร้องขอชีวิต

ฮวงเฟิงเป็นใคร? ถึงแม้ว่าเขาจะเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นานนัก แต่ความสัมพันธ์ของเขากับซูหยูโม่ก็ค่อนข้างดีและจางหยุนเองก็พอจะเอาอะไรๆ ได้

แต่ในวันนี้ ซูหยูโม่ได้โทรหาเธอด้วยตัวเองและขอให้เธอให้ความร่วมมือกับการกระทำของเขา

ดังนั้นไม่ว่าฮวงเฟิงจะตัดสินใจอะไรก็ตาม หากว่ามันเกี่ยวข้องกับงานรักษาความปลอดภัย เขาก็ไม่จำเป็นต้องแจ้งให้เธอทราบอีกต่อไปและสามารถทำตามคำแนะนำของฮวงเฟิงได้โดยตรง

กล่าวคือสำหรับคนในแผนกรักษาความปลอดภัย ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ได้หรือไม่ และพวกเขาจะทิ้งใครไว้ข้างหลังหรือแม้กระทั่งให้ใครขึ้นเงินเดือนหรือจะหักเงินเดือนใครทั้งหมดจะถูกกำหนดโดย ฮวงเฟิงทั้งสิ้น

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจงใจสร้างปัญหาให้แก่ฮวงเฟิง เขาไม่ได้อยากตายใช่ไหม?

แน่นอนว่าหลังจากได้รับโทรศัพท์ของซูหยูโม่ จางหยุนก็คาดเดาได้มากขึ้น

ไม่ใช่ว่าซูหยูโม่จะไม่รู้ถึงการคาดเดาบางอย่างของจางหยุน

เธอได้จัดให้ฮวงเฟิงขับรถให้เธอในตอนแรกเพื่อให้ซูหยูโม่สามารถมองเห็นบางส่วนได้

อย่างไรก็ตามในเวลานั้นเธอไม่ได้มีความคิดใดๆ ต่อฮวงเฟิง ดังนั้นเธอจึงไม่สนใจเขา

ในเวลานี้เธอจะไม่ยอมปล่อยจางหยุนไปเช่นกัน เพราะเธอรู้ว่าจางหยุนเป็นคนฉลาดที่จะไม่พูดเรื่องไร้สาระหรือเผยแพร่ข้อมูลใดๆ

นอกจากนี้ หากเธออยู่ที่นี่เธอก็จะดูแลฮวงเฟิงได้นิดหน่อยและไม่จำเป็นต้องก้าวเข้ามาด้วยตัวเอง