USB:บทที่ 231 เจิ้งฉ่วย
"พี่ชาย เอาแต่จ้องอยู่อย่างนั้น ทำไมถึงไม่กินล่ะครับ?" ชายหนุ่มพูดกับฮวงเฟิง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั่งนิ่งไม่ขยับอยู่ครู่หนึ่ง
ฮวงเฟิงมองไปที่อาหารอีกครึ่งจานตรงหน้า แล้วดันมันออกห่าง บอกไม่ถูกแหะ เขาอยากกินต่อนะ แต่นายก็ช่วยปล่อยให้ฉันกินดีๆได้ไหมล่ะ "ไม่ล่ะ ฉันยังไม่หิว"
"โอ้ อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ จริงๆ ผมก็ไม่หิวเหมือนกัน" ชายหนุ่มว่าขณะที่เคี้ยวอาหารเต็มปาก ฮวงเฟิงล่ะไม่เข้าใจสิ่งที่หมอนี่ต้องการจะสื่อเลยสักนิด
"พี่ชาย ตอนนี้คุณทำอะไรอยู่ล่ะ? ทำไมผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อน" ชายอ้วนหันไปถามฮวงเฟิงด้วยความสงสัย แน่นอนว่าถึงเขาจะถามคำถามฮวงเฟิง แต่สองมือก็ยังตักอาหารเข้าปากไม่หยุด
"หืม นายรู้จักทุกคนในงาน?" ฮวงเฟิงถาม
"ก็ไม่เชิง แต่ส่วนใหญ่ก็รู้จักนะ ถึงยังไง พวกมีตำแหน่งสูงๆของเมืองชิงมีแต่บุคคลสำคัญทั้งนั้น โดยเฉพาะหลานๆอย่างผม ใช่ว่าคุณจะได้พบผมเป็นการส่วนตัวได้ การพบปะกันในวันนี้ งานเลี้ยงวันพรุ่งนี้ ผมถึงดีรู้จักพวกเขา" ชายอ้วนพูดต่อว่า "แต่สำหรับคุณ ผมก็เหมือนคนแปลกหน้าคนหนึ่ง"
"คงงั้น ก็ฉันไม่ได้อยู่ในแวดวงเดียวกับพวกนาย วันนี้ฉันเลยไม่ได้พาใครมายังไงล่ะ" ฮวงเฟิงตอบอย่างไม่ตรงไปตรงมา ไม่เห็นมีอะไรให้ต้องอาย
“อืม ก็คงจะจริงอย่างที่พี่ว่า ฉันนึกว่านายจะความจำเสื่อมซะแล้ว เจ้าอ้วนเอ้ย!” ชายหนุ่มร่างท้วมกล่าวต่อ "เรื่องนั้นช่างมันเถอะครับ หลังจากนี้ พี่ไปกับผมสิ ผมจะปกป้องพี่เอง!"
เห็นท่าทางกล้าหาญและสูงส่งของชายอ้วน ฮวงเฟิงก็ยิ่งไม่เข้าใจ
อย่างไรก็ตาม เด็กอ้วนรีบพาฮวงเฟิงไปดูว่าเขารู้จักแขกในงานจริงๆ และเตรียมตัวปกป้องฮวงเฟิง เพราะเขาช่วยแนะนำฮวงเฟิงให้รู้จักกับแขกคนอื่นภายในงาน
จากคำแนะนำของเขา ฮวงเฟิงเลยได้รู้จักผู้คนมากมายภายในงาน แน่นอนว่าส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นลูกรุ่นหลาน
"คนพวกนี้เป็นคนรุ่นสองของเมืองชิงของเรา แน่นอนว่ามีบางคนที่ไม่ได้มางานนี้ และคนที่ใหญ่ที่สุดในงานก็เป็นคนรุ่นสองที่มีชื่อเสียงมากที่สุด พี่รู้ไหมว่าเขาคือใคร?" เยาวชนอ้วนกล่าว
“ไม่รู้” ฮวงเฟิงตอบอย่างตรงไปตรงมามาก
“โธ่ เขาก็ต้องเป็นบุตรชายของคนที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองชิงไง บุตรชายของผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองชิง ถงเฉียน!”
"โอ้ ทำไมเขาไม่มางานนี้ล่ะ?" ฮวงเฟิงแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจแล้วถามกลับไป
“ผมได้ยินมาว่าเขาถูกทำร้าย น่าเศร้าที่ขาของเขาหัก แต่หมอนั่นก็สมควรโดนแล้ว ผมไม่ชอบหมอนั่นมาตั้งนานแล้ว เขาชอบทำตัวหยิ่งแถมชอบทำให้คนอื่นหมั่นไส้ ครั้งนี้ผมเลยไม่รู้ว่าเขาถูกใครทำร้าย ก็หมอนั่นเล่นสร้างศัตรูไว้เยอะนี่นา” เมื่อกล่าวถึงเรื่องที่ถงเฉียนถูกทำร้ายแล้ว น้ำเสียงของอีกฝ่ายกลับเต็มไปด้วยความสุข
"ทำตัวหยิ่งแบบนั้น ใช้ไม่ได้เลยแหะ" ฮวงเฟิงว่า เขารู้เรื่องของถงเฉียนดีกว่าใครๆ แต่ความนิยมของสหายคนนี้ดูท่าจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก แน่นอนว่าเขาคงจะมีคนคอยประคบประหงมอยู่ตลอด ใครคนนั้นคงจะเป็นคนที่อยู่ที่คลับเฮาส์ในวันนั้นด้วยแน่นอน วันนั้นเขามองไม่เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายชัดๆ เลยไม่รู้ว่าวันนี้เขามาร่วมงานหรือเปล่า
"ใช่! พวกรุ่นสองหลายคนไม่ชอบเขา แต่ใครขอให้พ่อเขาเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองชิงล่ะ ต่อให้ไม่ชอบเขา พวกเราก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากอดทนต่อไป แต่ครั้งนี้ที่เขาถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็มีคนสะใจอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ" หนุ่มอ้วนกล่าว
หลังจากนั้นชายหนุ่มตัวอ้วนก็พูดคุยเรื่องรุ่นสองกับฮวงเฟิงหลายเรื่อง อาทิเช่นการแข่งรถ การต่อสู้ การต่อสู้ของพวกผู้หญิง และอื่นๆอีก เรื่องพวกนี้ล้วนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในรุ่นสองทั้งสิ้น
เห็นได้ชัดว่าสหายคนนี้ช่างเจรจามาก ไม่รู้ว่าเขาเห็นฮวงเฟิงถูกใจ หรือปกติแล้วเขาเป็นคนประเภทนี้อยู่แล้ว วันนี้เขาถึงได้พูดคุยกับฮวงเฟิงหลายเรื่อง
แต่หลังจากนั้นไม่นาน พ่อของเขาก็เดินมาเจอแล้วเรียกตัวเขาไป
"พี่ชาย นี่ นามบัตรของผม ในอนาคต ถ้าพี่ต้องการความช่วยเหลือจากผม พี่จะโทรหาผมก็ได้นะ!" ก่อนจากไป ชายหนุ่มได้ทิ้งนามบัตรไว้ให้วงเฟิง แล้วเดินจากไปอย่างน่าเสียดาย
"เจิ้งฉ่วย? ชื่อแปลกชะมัด แต่ในเมื่อพ่อของเขาเป็นคนตั้งชื่อ ใครจะไปคิดว่าเขาจะกลายเป็นแบบนี้กันล่ะ” ฮวงเฟิงมองดูนามบัตรแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ จากชายหนุ่มที่เคยมีหน้าตาหล่อเหลาก่อนหน้านี้ กลายเป็นชายหนุ่มที่นอกจากจะอ้วนแล้วยังมีใบหน้าที่แสนจะธรรมดาอีก เอาเถอะ อย่างน้อยมันก็ไม่ถึงกับน่าเกลียด
แน่นอนว่าอีกฝ่ายยังคงมอบความรู้สึกดีๆให้กับเขา ชายคนนั้นพูดคุยกับเขาอย่างสนิทสนมและท่าทางของเขาก็ดีมาก ไม่เหลือความเย่อหยิ่งของคนรุ่นสองที่ร่ำรวยอยู่เลย พออีกฝ่ายรู้ว่าเขาไม่ได้มาจากแวดวงเดียวกัน เขาก็ไม่ได้พูดจาดูถูกออกมาสักแอะ
"นายกำลังคิดอะไรอยู่เหรอ?" โดยไม่ทันตั้งตัว ซูหยูโม่ได้ก็ได้กลับมาตรงนี้แล้ว ส่วนเซี่ยเมิ่งเจียวกับถังมู่เสวี่ยยังไม่กลับมา
จริงๆแล้วเหตุผลที่ซูหยูโม่กลับมาก่อนเวลาเป็นเพราะเธอกลัวว่าฮวงเฟิงจะเบื่อเสียก่อน เธอเลยกลับมาหาเขาก่อน ส่วนเรื่องทำความรู้จักคนอื่นๆในงาน ให้เซี่ยเมิ่งเจียวจัดการก็น่าจะใช้ได้แล้ว
"เปล่า ไม่มีอะไรหรอก" ฮวงเฟิงตอบ
"เขาเป็นเพื่อนนายเหรอ?" ในตอนที่ซูหยูโม่เห็นชายที่ยืนอยู่ข้างกายฮวงเฟิงเดินจากไป เธอจึงคิดว่าเขาน่าจะเป็นคนรู้จักของฮวงเฟิง
"เปล่า ผมเพิ่งพบกับเขาครั้งแรก ผมว่าเขาเป็นคนที่นิสัยดี" ฮวงเฟิงกล่าวขณะที่โบกนามบัตรที่อยู่ในมือ
"เจิ้งฉ่วย? ชื่อแปลกจัง" ซูหยูโม่กล่าว เธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้
ซูหยูโม่และเซี่ยเมิ่งเจียวได้ติดต่อกับรุ่นสองเหล่านี้มาสองถึงสามปีแล้ว แม้พวกเขาจะไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับพวกเธอ และถึงรุ่นสองเหล่านี้จะเคยได้ยินชื่อของพวกเธอมาบ้าง พวกเขาก็ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะสานสัมพันธ์กับรุ่นสองในงานนี้
อันที่จริง ซูหยูโม่และเซี่ยเมิ่งเจียวได้พบเจอรุ่นสองเพียงไม่กี่ครั้งในตอนที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวง เห็นได้ชัดว่าคนรุ่นสองพวกนั้นนิสัยดีกว่าคนที่นี่ แต่ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นคนแบบไหน ทั้งสองก็ไม่ชอบอยู่ร่วมกับพวกเขาเท่าไหร่ และคนที่นี่ก็มีจำนวนน้อยกว่ามาก
"อืม ก็แค่หน้าตาของเขาไม่ค่อยเข้ากับชื่อสักเท่าไหร่" ฮวงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"อ๊ะ จริงสิ นายบอกว่านายนำของมาให้ผู้จัดการเหวิน ฉันขอถามได้ไหมว่าของสิ่งนั้นคืออะไร..." นี่เป็นสิ่งที่ซูยู่โม่เป็นกังวล
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved