ตอนที่ 257

USB:บทที่ 257 ตื่นเต้น

"คุณกำลังทำอะไรน่ะ?" เมื่อรู้สึกได้ถึงลมหายใจของคนที่อยู่ข้างๆว่าหนักขึ้นและหนักขึ้นเรื่อยๆ ฮวงเฟิงจึงมองไปที่ชิวหนิงซวงด้วยความสงสัยและกระซิบถามเธอว่า: "หน้าของคุณแดงมาก คุณป่วยหรือเปล่า?"

"ไม่ เปล่านะ" ชิวหนิงซวงตกใจกับคำพูดของฮวงเฟิงจึงรีบอธิบายด้วยความตื่นตระหนก เธอดูไม่สงบเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว

ฮวงเฟิงมองไปที่เธออย่างสงสัย ไม่นานเขาก็เข้าใจในทันทีและคิดเรื่องน่าขันอยู่ในใจจากนั้นเขาก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้หูของชิวหนิงซวงและเป่าลมไปที่หูของเธอเบาๆ จนทำให้ตอนนี้ใบหูของเธอแดงระเรื่อขึ้นมาทันทีและยังกระซิบกับเธอว่า: "อย่าบอกนะว่า….เจ้าหน้าที่ชิวของเรากำลังเขิน?"

ในเวลานี้ใบหน้าของชิวหนิงซวงเปลี่ยนเป็นสีแดงหนักขึ้นกว่าเดิม อุณหภูมิบนใบหน้าของเธอก็ร้อนผ่าวราวกับว่าเลือดกำลังจะไหลออกมา เธอพยายามจ้องฮวงเฟิงกลับเพื่อเป็นการเตือนซึ่งสายตานั้นไม่ได้มีเจตนาฆ่าหรือทำร้ายใด ๆ แต่กลับเป็นสายตาที่เป็นประกายที่ซ่อนเล้นด้วยความรู้สึกบางอย่างจนราวกับว่าการจ้องนี้ไม่ได้จ้องหมายจะเตือน แต่เป็นการแกล้งฮวงเฟิงกลับต่างหาก

อย่างน้อยฮวงเฟิงก็รู้ว่าเธอกำลังแกล้งเขากลับ เดิมทีเขาไม่ได้รู้สึกอะไรมากนักแต่หลังจากถูกชิวหนิงซวงมองด้วยสายตาแบบนี้เขาก็รู้สึกว่าเขากำลังจะกลายเป็นหนุ่มเลือดร้อนและอีกอย่างเขาเองก็ไม่เคยมีแฟนมาก่อน

หากจะให้อธิบายในอีกแง่มุมหนึ่งก็คือ เขาย่อมมีความคิดและความต้องการเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้โดยธรรมชาติอยู่แล้ว

ความรู้สึกของฮวงเฟิงเริ่มค่อยๆสับสนวุ่นวายและร้อนรนมากขึ้นเรื่อยๆ อุณหภูมิบนใบหน้าของชิวหนิงซวงที่สูงขึ้นทำให้เหมือนแผ่ไอความร้อนออกมาและนั้นก็ยิ่งทำใหตัวเธอเองสับสนไม่แพ้ฮวงเฟิง ทั้งสองจ้องมองซึ่งกันและกันจนใบหน้าของพวกเขาค่อยๆใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

"จื่อเฉิงมีการติดต่อกับคุณกลับมาบ้างไหม?"

ในขณะทั้งคู่ดูเหมือนจะยังติดอยู่ห้วงอารมณ์ ทันใดนั้นในห้องก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจนทำให้พวกเขาทั้งสองตื่นจากภวังค์ เจ้าของเสียงที่คุ้นเคยนั้นก็คือ ลุงหลี่

ในเวลานี้พวกเขาทั้งสองตระหนักได้ว่าปากของพวกเขานั้นมีระยะห่างเพียงไม่ถึงเซนติเมตร หากเสียงของลุงหลี่ดังขึ้นช้าลงอีกนิดปากของพวกเขาคงประกบกันไปแล้ว

ตอนนี้ราวกับว่าพวกเขาทั้งคู่ได้ลืมสถานการณ์เมื่อครู่ไปหมดสิ้น ชิวหนิงซวงผลักฮวงเฟิงไปข้างหลังเล็กน้อย เมื่อโดนแรงผลักจากชิวหนิงซวงจึงทำให้พวกเขาทั้งคู่เกือบล้มเนื่องจากถุงมือวิเศษที่เขาสวมไว้อยู่มีแรงดูดที่ค่อนข้างแรงแต่โชคดีที่พวกเขาทั้งคู่แค่เกือบล้มไปเท่านั้น ไม่นานพวกเขาก็กลับมาทรงตัวได้เหมือนเดิม

แม้ว่าฮวงเฟิงจะถูกเธอผลักออก มืออีกข้างของเขาก็ไม่ยอมปล่อยจากเธอไปแต่เขากลับกอดเธอไว้แน่นแทน "อย่าตื่นเต้น อย่าตื่นเต้น"

ชิวหนิงซวงตอบสนองกลับในทันที ทั้งสองอยู่บนกำแพงสูง หากตกลงพื้นในระยะนี้แม้ว่าจะตกไปแล้วไม่ตาย แต่มันก็เป็นไปได้มากที่เขาจะพิการ ดังนั้น เขาจึงไม่กล้าขยับมั่วซั่ว อย่างไรก็ตามตอนนี้ฮวงเฟิงกลับจ้องชิวหนิงซวงราวกับจะกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว

เมื่อเห็นว่าชิวหนิงซวงไม่ขยับตัวแล้ว ฮวงเฟิงจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพียงแค่เห็นแววตาของเธอมันก็ทำให้ฮวงเฟิงรู้สึกอายขึ้นมาเล็กน้อย "ขอโทษนะ ตอนนี้มันช่วยไม่ได้จริงๆ "

"อืม ฉันค่อยจัดการเรื่องนี้กับนายทีหลัง!" ชิวหนิงซวงรู้ตัวว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพูดเรื่องนี้และที่ยิ่งไปกว่านั้นเธอเองก็ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน เธอไม่ได้ผลักฮวงเฟิงออกไปในทันทีเพราะดูเหมือนว่าตอนนี้เธอจะยอมใจอ่อนให้ความร่วมมือกับเขาแล้ว

ฮวงเฟิงเองก็ไม่กล้ามองไปที่ชิวหนิงซวง เขาทำได้เพียงหัวเราะเจื่อนๆ พร้อมประเมินเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรตัวน้อยคนนี้ว่าเธอน่าดึงดูดสำหรับเขามากเพียงใด

กลับมาที่สถานการณ์ในห้อง ชิวฮ่าวกำลังถือโทรศัทพ์คุยกับหลินจื้อเฉิง หลี่จื้อเฉิงถามย้ำว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไรบ้างและตัวเขาเองก็คิดจะกลับมาเพื่อช่วยลุงหลี่  “ตกลง” ชิวฮ่าวกล่าว

ชิวฮ่าวและหลินจื้อเฉิงทั้งสองเป็นผู้ช่วยที่ไว้ใจได้ของลุงหลี่ อีกทั้งพวกเขาต่างก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ด้วยเหตุนี้แม้ว่าหลินจื้อเฉิงจะไปอยู่ที่เมืองอื่นแต่เขาก็ยังคงติดต่อกับชิวฮ่าวเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่นี่

ก่อนหน้านี้ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาตอนนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว สิ่งที่ทำให้เปลี่ยนไปนั้นเกิดจากที่หลินเฟิงไปหักขาของชิวฮ่าวและแม้ว่าทั้งคู่จะสู้กับอย่างเท่าเทียม

แต่เนื่องด้วยความแข็งแกร่งและพลังที่ใกล้เคียงกันจึงทำให้อีกฝ่ายพลาดพลั้งจนได้รับบาดเจ็บ นับตั้งแต่ที่ขาของชิวฮ่าวหัก พลังของเขากว่าครึ่งก็ถูกทำลายไปด้วยเช่นกัน

จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าพวกเขาจะอยู่ร่วมโลกใบเดียวกันต่อไปได้หรือไม่ ในตอนนั้นแม้ว่าชิวฮ่าวจะพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแต่เขาก็รับรู้ถึงสถานการณ์นี้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้นเขาก็พอจะรู้ว่าชิวฮ่าวไม่ได้คิดอะไรมากและแม้ว่าลุงหลี่จะปฏิบัติกับเขาเช่นเดิมแต่ตอนนี้เขาได้สูญเสียขาไปแล้ว อีกทั้งยังไม่มีใครพูดว่าเขาไม่เป็นที่น่าเชื่อถือและพึ่งพาไม่ได้เหมือนแต่ก่อน แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็มีผู้ติดตามของเขาบางคนดูเหมือนจะหาที่พึ่งใหม่ ซึ่งที่พึ่งพาใหม่ของพวกเขากคือ หลินจื้อเฉิง

แต่ความคิดอีกมุมของชิวฮ่าวบางครั้งก็แอบเห็นใจหลินจื้อเฉิงที่ต้องไปอยู่ไกล แต่ในทางกลับกันเขาเองก็แอบดีใจอยู่ไม่น้อยและยังหวังลึกๆ อีกว่าไม่อยากให้หลินจื้อเฉิงกลับมา เพราะถ้าเป็นแบบนี้ เขาจะกลายเป็นคนที่ลุงหลี่ไว้ใจและพึ่งพาได้มากที่สุดแทน

"อืม จื้อเฉิงน่ะ แน่ใจหรอว่าเขาอยากจะช่วย" ลุงหลี่กล่าว

"ลุงหลี่ สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง? แล้วพวกตำรวจก็ตัดสินคดีนี้ไปแล้วหรือยังครับ?" ชิวฮ่าวถาม

"ตอนนี้ยังมีปัญหา จัดการเรื่องนี้มันได้ไปง่ายได้ยังไงกัน? เรื่องที่เกิดขึ้นมันเกี่ยวกับลูกสาวของผู้กำกับชิวเชียวนะ มันจะไปจัดการได้ง่ายๆ ได้ยังไงกัน?" ลุงหลี่พูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม

ในเวลานี้ฮวงเฟิงที่แอบฟังอยู่ข้างนอกดูเหมือนจะคิดได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง เขามองไปที่ชิวหนิงซวงและพูดว่า: "ลูกสาวของผุ้กำกับชิวที่เขาพูดถึง คงไม่ใช่คุณหรอกใช่ไหม?”

ชิวหนิงซวงกลอกตาใส่เขา "อย่าพูด!" เธอหยุดไม่ให้ฮวงเฟิงพูดต่อ จากนั้นเธอจึงค่อยๆหยิบโทรศัพท์ออกมาและกดปุ่มบันทึกเสียง เมื่อฮวงเฟิงเห็นเช่นนั้นจึงปล่อยให้เธอวางโทรศัพท์ไว้ข้างๆหน้าต่างซึ่งคนที่อยู่ด้านในไม่ทันได้สังเกตเห็น

“ ถงเฉียนจุนไม่ได้พูดหรือว่าถึงเขาจะเข้ามาช่วยเรื่องนี้ ก็เปล่าประโยชน์อยู่ดี?” ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไร ชิวฮ่าวก็ยังคงกังวลเรื่องหลินจื้อเฉิงมากอยู่ดี

“เขาน่ะหรอ? เขาได้วางมือจากเรื่องนี้ไปแล้ว!”ลุงหลี่ตอบ

“ เขากลัวจะสร้างความเดือดร้อนให้ตัวเองเพราะเขาไม่ได้เป็นคนมือสะอาดมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว เขาเพียงแค่ต้องการให้จื้อเฉิงมอบตัว ถ้าเป็นเช่นนั้น ตำรวจก็จะยอมแพ้การสอบสวนคดีนี้"

แววตาของชิวฮ่าวเปื้อนรอยยิ้ม หากหลินจื้อเฉิงยอมมอบตัวจริงๆ หากดับชนวนเหตุได้ตั้งแต่ต้น ไฟก็จะไม่ลามไปทั่วจนเกิดเป็นเรื่องใหญ่และเรื่องพวกนี้ก็จะจบ แต่หลินจื้อเฉิงจะทำเพื่อทุกคนจริงๆ หรือ มันไม่มีทางออกที่ดีกว่านี้อีกแล้วหรือ

"นี่มันมากเกินไปแล้ว เราฆ่าแค่พี่เปียวเพราะเขาพูดจากลับกลอก แล้วตอนนี้ยังมีเรื่องเพิ่มขึ้นอีก จื้อเฉิงยังจะให้เราแก้ไขปัญหานี้เองอีกหรือ" ชิวฮ่าวพูดด้วยความโกรธ

ลุงหลี่รู้สึกหดหู่ใจมากเช่นกัน ยิ่งได้ยินสิ่งที่ชิวฮ่าวพูด เขาก็ยิ่งไม่สบอารมณ์ เสียง "ปัง!"  ดังขึ้น ไม่เดาเลยว่าเสียงนั้นดังมาจากกำปั้นของลุงหลี่ที่ทุบลงกับโต๊ะด้วยความโกรธ