ตอนที่ 345

USB:บทที่ 345 ติดตาม

แม้ว่าฮวงเฟิงจะไม่มีความเข้าใจเลยสักนิดว่าสภาความมั่นคงแห่งชาติคืออะไร แต่ก็พอจะเดาออกว่าเป็นหน่วยงานแบบไหน

งานของพวกเขาคือการจัดการปัญหาเรื่องการคุกคามและความมั่นคงของชาติ อาทิเช่นการถูกลักพาตัว

ยกตัวอย่างเช่นหลี่ปิงอวิ๋น ที่แจ้งเรื่องไปยังสถานีตำรวจ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีคุณสมบัติในการใช้อำนาจของสภาความมั่นคงแห่งชาติ

นอกจากนี้ หลี่ปิงอวิ๋นก็เป็นคนดัง ที่มีชื่อเสียงเรื่องและเป็นที่รักของคนรุ่นใหม่มากมาย แต่ถึงจะอธิบายไป ฮวงเฟิงก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี

ขณะที่ฮวงเฟิงขับรถ เขาก็ถามเรื่องที่ยังค้างคาใจกับไป๋เสี่ยวโหลว

ยังดีที่ฮวงเฟิงถือเป็นสมาชิกของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติคนหนึ่ง และตอนนี้ เขากำลังปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น เขาจึงมีสิทธิ์รู้เรื่องราวต่างๆ อีกอย่างไป๋เสี่ยวโหลวก็ไม่อยากปิดบังเขา

จากคำบอกเล่าของไป๋เสี่ยวโหลว ฮวงเฟิงก็ได้รู้ว่าดาราอย่างหลี่ปิงอวิ๋นนั้นมีสถานะทางครอบครัวดีมาก

ทั้งปู่ พ่อและพี่ชายของเธอล้วนเป็นทหาร แต่ตอนนี้ปู่ของเธอเกษียณแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น ในหมู่พวกทหาร เขาก็ยังคงเป็นผู้มีอิทธิพลอยู่

ส่วนพ่อของเธอเป็นทหารหนุ่มที่มีชื่อเสียง เขาได้ยินมาว่าไม่นานมานี้ อีกฝ่ายเพิ่งได้รับเหรียญและการเลื่อนตำแหน่ง

และคนสุดท้าย พี่ชายของเธอเป็นหัวหน้าหน่วยรบพิเศษ หากแต่ก่อนหน้านี้ เขามีเรื่องบาดหมางกับทหารที่ลักพาตัวหหลี่ปิงอวิ๋นไป แต่เพราะอีกฝ่ายดันเป็นฝ่ายแพ้ย่อยยับ ครั้งนี้พวกเขากลับมาลักพาตัวหลี่ปิงอวิ๋นถึงประเทศจีนเพื่อล้างแค้น

ในตอนที่ได้ฟังประวัติครอบครัวของหลี่ปิงอวิ๋น ฮวงเฟิงถึงกับพูดไม่ออก เนื่องจากคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยทราบเรื่องนี้ แม้แต่แฟนตัวยงของหลี่ปิงอวิ๋นอย่างลูกสาวของพี่หวังยังคิดว่าหลี่ปิงอวิ๋นมาจากครอบครัวธรรมดาที่ไม่ได้มีเบื้องลึกเบื้องหลัง

แต่ถึงอย่างนั้น ฮวงเฟิงกลับไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องแปลก แม้ว่าหลี่ปิงอวิ๋นจะไม่ได้ออกงานมานาน แต่ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยมีข่าวเรื่องที่เธอถูกบีบบังคับให้เล่นละครทั้งๆที่เธอไม่ชอบเลยสักครั้ง

นอกจากนี้ หลี่ปิงอวิ๋นยังครอบครองทรัพย์สินมากมาย มันจึงเป็นเรื่องปกติที่ตระกูลของเธอจะมีภูมิหลังที่ดี

นับตั้งแต่ที่หลี่ปิงอวิ๋นเข้ามาในวงการ เธอก็ไม่อนุญาตให้คนในตระกูลยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเธอโดยเด็ดขาด เพราะเธอต้องการยืนหยัดด้วยลำแข้งของตัวเอง

ด้วยเหตนี้ จึงมีคนในแวดวงบันเทิงไม่มากนักที่รู้ภูมิหลังของเธอ ส่วนคนอื่นต่างคิดว่าที่เธอครอบครองทรัพย์สินมากมายขนาดนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะเธอทำงานอย่างหนักนั่นเอง

เธอมักจะไปสังสรรค์และดินเนอร์กับดาราคนอื่น ๆ แต่เธอไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการถูกคุกคามเพราะอิทธิพลของคนในตระกูลนั่นเอง เพราะพวกเขาไม่ต้องการได้ยินข่าวเสียๆหายๆของหลี่ปิงอวิ๋น

แม้ว่าหลี่ปิงอวิ๋นจะไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากพวกเขา แต่มีหรือที่คนในตระกูลก็ยอมรับเรื่องที่บุตรสาวถูกใส่ร้ายได้

ด้วยเหตุนี้ สาเหตุที่ทำให้หลี่ปิงอวิ๋นสามารถทำสิ่งที่ต้องการและมีทุกวันนี้ได้ ส่วนใหญ่เป็นเพราะความพยายามของเธอเอง นอกจากนี้เธอไม่ได้ขอให้คนในตระกูลส่งคนมาคุ้มครองเธอ เพราะเธอต้องการจ้างบอดี้การ์ดเอง

พวกทหารพุ่งเป้าไปที่หลี่ปิงอวิ๋นเพราะมันไม่เกินความสามารถของพวกเขา เนื่องจากการจัดการตัวพี่เป็นเรื่องที่เกินความสามารถของพวกเขา พวกเขาจึงเลือกลักพาตัวหลี่ปิงอวิ๋นแทน

ส่วนสาเหตุที่ทำให้ไป๋เสี่ยวโหลวทราบข่าวว่าหลี่ปิงอวิ๋นถูกลักพาตัว ก็เพราะผู้ช่วยของหลี่ปิงอวิ๋น หลังจากที่ฮวงเฟิงจากไป ผู้ช่วยที่ไม่ได้คิดอะไรในตอนแรก ภายหลังกลับคิดถึงเรื่องนี้มีบางอย่างผิดปกติ ผู้ช่วยที่รู้สึกเป็นห่วงหลี่ปิงอวิ๋นจึงเดินไปหาเธอถึงห้อง แต่กลับพบว่าหลี่ปิงอวิ๋นหายตัวไป

ผู้ช่วยของหลี่ปิงอวิ๋นคนนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้จักตัวตนของหลี่ปิงอวิ๋น ดังนั้น ในตอนที่เธอทราบเรื่อง เธอจึงไม่ได้โทรแจ้งตำรวจในทันที และเลือกที่จะโทรบอกคนในตระกูลของหลี่ปิงอวิ๋นซึ่งก็คือพี่ชายของเธอ ให้เขาแจ้งตำรวจ

พี่ชายของหลี่ปิงอวิ๋นไม่ได้พักอยู่ที่เมืองเจียงในตอนนี้ ดังนั้นแม้ว่าเขาจะเป็นห่วงเธอมากขนาดไหน เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากบินไปที่เมืองเจียง แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆอีกฝ่ายก็นึกถึงสภาความมั่นคงแห่งชาติขึ้นมาได้

พี่ชายของหลี่ปิงอวิ๋นรู้จักกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ และยังสนิทกับผู้นำหรงหนิง ด้วยเหตุนี้เขาจึงโทรหาอีกฝ่ายและถามว่ามีคนของสภาอยู่ที่เมืองเจียงบ้างหรือเปล่า เขาค่อนข้างมั่นใจในฝีมือของคนในสภาไม่น้อย

ไม่ใช่เพราะเขาประทับใจตัวฮวงเฟิง แต่เป็นเพราะระหว่างนั้น ไป๋เสี่ยวโหลวช่วยฮวงเฟิงสมัครสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทุกวันนี้ เขายังมีเบอร์ติดต่อของอีกฝ่าย จึงไม่แปลกที่เขาจะจำอีกฝ่ายได้

และที่สำคัญที่สุด ในรายงานของไป๋เสี่ยวโหลว ฮวงเฟิงเป็นคนที่มีความสามารถ และตอนนี้เขาก็อยู่ที่เมืองเจียง เขาจึงติดต่อไป๋เสี่ยวโหลวกลับไปและขอให้เธอมอบหมายภารกิจให้

"เป็นอย่างนี้นี่เอง" ในที่สุดฮวงเฟิงก็เข้าใจเรื่องเกิดขึ้นทั้งหมด รวมถึงเข้าใจว่าทำไมเขาจะต้องปฏิบัติภารกิจที่ทันที

"แสดงว่าถ้าเราทำงานดี เราก็จะได้รางวัลน่ะสิ" ฮวงเฟิงแอบคิด ถ้าเขามัวแต่ห่วงว่าหลี่ปิงอวิ๋นถูกลักพาตัวไปโดยที่ไม่สนใจอย่างอื่น เขาคงเป็นคนที่พลาดโอกาสดีไปแล้ว

แต่เพราะโทรศัพท์ของหลี่ปิงอวิ๋นที่อีกฝ่ายใช้เครื่องค้นหายังคงอยู่ในรถเขา และถ้าเขาจับตัวผู้ร้ายไม่ได้ ภารกิจแรกของเขาก็จะล้มเหลวน่ะสิ แถมบอสของเขากับไป๋เสี่ยวโหลวก็จะผิดหวังในตัวเขาอีก นอกจากนี้ คนในตระกูลหลี่อาจจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจนถึงขั้นสั่งฆ่าเขาเลยก็ได้

"ดูเหมือนว่าจะมีคนขับรถตามพวกเราอยู่!" คนที่ขับรถอยู่พูดขึ้น ขณะนี้เขาขับออกจากตัวเมืองแล้ว ถนนทั้งสายจึงว่างเปล่าเนื่องจากไม่ค่อยมีรถผ่าน ในฐานะที่พวกเขาเป็นถึงทหารชั้นยอด พวกเขาจึงยิ่งรอบคอบ โดยเฉพาะกับตอนที่ปฏิบัติหน้าที่

คนที่นั่งด้านหลังรีบหันกลับไปมองและเห็นรถคันหนึ่งขับตามพวกเขาอยู่จริงๆ เขาตอบว่า "สลัดมันให้หลุดสิวะ!"

หลี่ปิงอวิ๋นที่นั่งอยู่ข้างๆก็หันไปมองด้วยความสงสัย แม้ว่าเธอจะมองไม่เห็น แต่เธอกลับรู้สึกมีความหวังว่าจะได้รับการช่วยเหลือ

"อย่าเพิ่งดีใจไป จะไม่มีใครมาช่วยเธอได้ทั้งนั้น!" ทหารคนที่นั่งอยู่ถัดจากหลี่ปิงอวิ๋นเห็นใบหน้าที่มีความหวังของหลี่ปิงอวิ๋น จึงพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชา

"เหอะ! พวกนายมั่นใจกันจังเลยนะ พี่ชายของฉันต้องกำลังมาช่วยฉันแน่!" หลี่ปิงอวิ๋นตอบ พี่ชายของเธอถือเป็นไอดอลของเธอมาตั้งแต่เด็ก เขาเป็นคนที่ปกป้องเธอมาตลอด ครั้งนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอไม่อยากให้พี่ส่งคนมาคุ้มกัน เธอก็คงจะไม่ถูกจับไปแบบนี้

"พี่ชายเธอ? หึ ดีเลย ฉันจะได้คิดบัญชีมันสักที" เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ถูกกับพี่ชายหลี่ปิงอวิ๋น

"ดูเหมือนพวกเขาจะเห็นผมแล้ว" ฮวงเฟิงพูดกับไป๋เสี่ยวโหลวในขณะที่ขับรถตามหลัง เนื่องจากเขาสังเกตว่ารถคันข้างหน้าดูเหมือนจะเร่งความเร็วขึ้น

“ตามไปเร็ว!” ไป๋เสี่ยวโหลวกล่าว