ตอนที่ 413

USB:บทที่ 413 สอบสวน (1)

"สถานการณ์เป็นไง" เมื่อฮวงเฟิงกลับมาถึงบ้าน เห็นได้ชัดว่าเขายังตื่นตัวอยู่ ไป๋เสี่ยวโหรวไม่มีกำลังภายในใด ๆ ดังนั้นพละกำลังของเธอจึงลดลงอย่างมาก

"คืนนี้มีกลุ่มคน 2-3 คน เข้ามาหาสมุดบัญชีที่วิลล่า และผมก็จับตัวได้ทั้งหมดละ คนที่เป็นเจ้าของหมายเลขเบอร์โทรศัพท์ที่คุณตรวจสอบให้น่าจะเป็นคนที่อยู่เบื้องหลัง" ฮวงเฟิงตอบ

หลังจากโทรหาผู้กำกับชิวแล้ว ฮวงเฟิงก็จับกลุ่มนักเลงนั้นมัด รวมทั้งถงเฉียนด้วย และทิ้งพวกเขาไว้ในวิลล่าเช่นเดิม แล้วก็กลับมาบ้าน

"ดูท่า พรุ่งนี้คุณคงยุ่งน่าดู" ไป๋เสี่ยวโหรวกล่าว

ไป๋เสี่ยวโหรวพูดถูก ในวันที่สองหลังจากที่ฮวงเฟิงขอลาไปพบผู้กำกับชิว เขาก็ยุ่งมาก เขาได้เข้าร่วมสอบปากคำ แต่ได้ผลไม่เป็นที่น่าพอใจนัก เขาเองก็ไม่ใช่มืออาชีพ แม้แต่บรรดาลูกน้องของผู้กำกับชิวก็ไม่ได้อะไรคืบหน้ามาก ดูแล้วช่างเปล่าประโยชน์

จริงๆ แล้ว ในตอนที่ฮวงเฟิงสอบปากคำ ผู้กำกับชิวไม่คิดว่าฮวงเฟิงจะไขคดีนี้ได้ สิ่งที่ผู้กำกับชิวต้องการคือ ตัวตนของฮวงเฟิง

แต่ฮวงเฟิงเองก็ยังคงต้องการจะไขคดีนี้ให้ได้ เขาไม่อยากให้คนพวกนั้นลอยนวล นอกจากนี้เขายังต้องการสร้างผลงานจากคดีนี้ด้วย ต้องไม่ลืมว่าเขานั้นแตกต่างจากไป๋เสี่ยวโหรวและคนอื่นๆ สมาชิกคนอื่นๆ ของสภาความมั่นคงแห่งชาติไม่มีทรัพย์สินที่ดินมากนัก แต่ตัวเขานั้นมี

ดังนั้นฮวงเฟิงจึงต้องการใช้โอกาสนี้ในการได้หน้า หนทางนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเขาในอนาคตอย่างมากและครั้งนี้ก็ถือเป็นโอกาสเหมาะ เพราะคดีนี้เกี่ยวพันกับคนเยอะ รวมทั้งพวกคนใหญ่ๆ โตๆ ถ้าเขาปิดคดีนี้ได้สำเร็จสวยงาม เขาก็จะสร้างความประทับใจให้แก่คนที่อยู่ในตำแหน่งระดับสูงขึ้นไป

ดังนั้นฮวงเฟิงจึงเฝ้าคอยที่จะพบผู้กำกับชิว เขาหยิบสมุดบัญชีออกมา สมุดบัญชีนี้เป็นสมุดบัญชีที่เขาเจอเมื่อวาน

"ทำไมมีสมุดบัญชีอีกเล่มล่ะ" ผู้กำกับชิวรับมันอย่างสงสัย จากนั้นสีหน้าของผู้กำกับก็เครียดขึ้น สมุดบัญชีเล่มก่อนหน้านี้มุ่งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่จากเขตเจียงเท่านั้น แค่นั้นเขาก็ยังรู้สึกถูกกดดันมาก มาสมุดบัญชีที่ฮวงเฟิงเพิ่งมอบให้เขานั้น ดูน่าตกใจยิ่งกว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องนั้นมีอำนาจมากกว่า ระดับสูงกว่า ดังนั้นจึงเปล่าประโยชน์ที่จะพึ่งพาฮวงเฟิงให้ทำคดี แม้แต่ตัวเขาเองหากเข้าร่วมทำคดีนี้ ยังอาจจะไม่ไหว

"สมุดบัญชีเล่มนี้เป็นของจริงแน่ใช่ไหม" แม้ว่าผู้กำกับชิวจะรู้ว่าฮวงเฟิงไม่ได้ล้อเล่น แต่เขาต้องการคำยืนยัน

"ใช่ เป็นเล่มจริง" ฮวงเฟิงกล่าว "นอกเหนือจากสมุดบัญชี ผมยังมีปากกาบันทึกเสียงด้วย เหตุผลที่เมื่อคืนผมให้ผู้กำกับจับตาดูคนคนนั้นไว้ ก็เพราะสมุดบัญชีเล่มนี้กับปากกาบันทึกเสียงนี้"

หลังจากเปิดฟังปากกาบันทึกเสียงที่ฮวงเฟิงมอบให้ มาได้ครึ่งทางเขา ผู้กำกับชิวก็ปิด และพูดกับฮวงเฟิงว่า "รออยู่นี่ ผมจะไปหา ท่านถาน"

เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้ใหญ่มาก แม้แต่ผู้กำกับเองก็ยังไม่กล้าตัดสินใจ

ฮวงเฟิงไม่ได้โต้แย้งอะไร เขาใช้โอกาสนี้ไปพบถงเฉียนจุน อดีตเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองชิง

“คุณถง คงไม่คิดสินะว่าเราจะได้พบกันที่นี่ หา?” ฮวงเฟิงกล่าวกับถงเฉียนจุนที่ถูกจับใส่กุญแจมือนั่งอยู่บนเก้าอี้ภายในห้องสอบสวน เพราะคำสั่งของฮวงเฟิง ภายในห้องสอบสวนนี้จึงมีแต่ฮวงเฟิงกับถงเฉียนจุน แม้แต่เครื่องโทรทัศน์วงจรปิดก็ถูกล็อคไว้ ฮวงเฟิงเป็นสมาชิกของสภาความมั่นคงแห่งชาติ จึงมีอำนาจที่จะกระทำได้

"คุณเป็นใคร เรารู้จักกันเหรอ" ถงเฉียนจุนพูดขณะมองไปยังฮวงเฟิงด้วยความสงสัย ถงเฉียนจุนนั้นพบปะผู้คนมากมาย แต่ถ้าคนที่เขาพบปะนั้น มีสถานะที่ไม่ได้มีความสำคัญต่อตัวเขามาก เขาก็ไม่มีวันจำคนๆ นั้นได้

ครั้งก่อนที่ฮวงเฟิงและไป๋เสี่ยวโหรวจับตัวเขา เขาได้รับบาดเจ็บ บวกกับควันไฟโดยรอบและทัศนวิสัยไม่ดีความสนใจของเขาจึงพุ่งไปยังไป๋เสี่ยวโหรว เขาจึงจำฮวงเฟิงไม่ได้

เมื่อพิจารณาถึงอายุที่ยังน้อยของฮวงเฟิง แต่ฮวงเฟิงมีอำนาจถึงเพียงนี้ เหล่าตำรวจล้วนนอบน้อมกับเขามากเมื่อเขาเข้ามา ก็ไม่มีคนเฝ้า ไม่มีใครมารบกวนพวกเขา สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าฮวงเฟิงนั้นไม่ธรรมดา

"เราเคยเจอกันมาก่อน" ฮวงเฟิงส่ายหัวและกล่าวว่า "ยิ่งไปกว่านั้นนะ ผมรู้จักลูกชายคุณ"

"คุณรู้จักเฉียนเหรอ?"

“ถ้าจะพูดให้ถูกคือ ถงเฉียนกับผมเป็นศัตรูกัน ส่วนความสัมพันธ์ของคุณกับผม ผมนั้นเป็นคนจับคุณเอง” ฮวงเฟิงกล่าว

"นี่คุณเป็นคนที่อยู่กับผู้หญิงคนนั้นในคืนนั้นเหรอ" ถงเฉียนจุนตะโกนออกมาด้วยความตกใจ

"ใช่แล้ว" ฮวงเฟิงกล่าว

ถ้าอย่างนั้น คุณก็น่าจะเป็นคนของสภาความมั่นคงแห่งชาติ แต่ทำไมคุณถึงเป็นศัตรูกับเฉียนล่ะ? ผมรู้ว่าเขาสร้างความขุ่นเคืองให้กับคนมากมาย แต่ผมไม่คิดว่าเขาจะไปข้องเกี่ยวกับคนอย่างคุณได้

สิ่งนี้สร้างความสงสัยแก่ถงเฉียนจุน เพราะแม้ว่าถงเฉียนมักจะสร้างปัญหาให้เขาอยู่บ่อยๆ แต่ก็ล้วนเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะเขาก็ไม่ยอมให้ถงเฉียนติดต่อกับเขาถ้าเป็นเรื่องของตัวเอง ดังนั้นคนที่ถงเฉียนติดต่อด้วยล้วนเป็นทายาทเศรษฐีธรรมดา หรือคนธรรมดา

"ก็ได้ เวลายังมี ผมจะเล่าให้ฟัง" ฮวงเฟิงกล่าว

จากนั้น ฮวงเฟิงก็เล่าเหตุการณ์ตอนที่เขาพบกับถงเฉียนเป็นครั้งแรก และถงเฉียนก็ส่งคนมาสั่งสอนเขาหลายต่อหลายครั้ง

"นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงทำตัวไม่สุภาพ ผมหักขาเขาทั้งสองข้าง" ฮวงเฟิงกล่าวลวกๆ

"เป็นแกนี่เอง!" แกนี่เอง! "ถงเฉียนจุนพูดขณะจ้องไปยังฮวงเฟิง เขาไม่คิดเลยว่าคนที่หักขาลูกชายเขาจะเป็นคนที่อยู่ตรงหน้า เขาผิดคาด

“อย่าโกรธเลยน่า” ถงเฉียนจุนโกรธมาก แต่ฮวงเฟิงยังสงบรักษาท่าที “ผมไม่ได้เล่าเรื่องนี้เพื่อทำให้คุณโกรธ ผมแค่ต้องการให้คุณรู้ว่ามีความบาดหมางระหว่างลูกชายคุณกับผม และไม่ใช่แค่นั้นนะ เขาถูกผมจับอีกแล้ว

นี่คือการขู่ของ ฮวงเฟิงที่ขู่กันโต้งๆ ฮวงเฟิงบอกกับถงเฉียนจุนอย่างชัดเจนว่า ลูกชายเขาและฮวงเฟิงมีบาดหมางต่อกัน และตอนนี้ตัวถงเฉียนจุนเองก็อยู่ในคุก ฮวงเฟิงจะตามแก้แค้นลูกชายเขา หักขาเขาทั้ง 2 ข้างยังเบาไป!