ตอนที่ 540

USB:บทที่ 540 ลองรถใหม่

“เป็นยังไงบ้าง? ฉันบอกแล้วว่าไม่เป็นไร”

เมื่อเห็นฮวงเฟิงดึงมือออกจากแขนเธอ ชิวหนิงซวงก็บอกเขาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม หญิงสาวไม่ได้กังวลเรื่องกระสุนที่ติดอยู่ในร่างเลยสักครั้ง

"เกรงว่ามันจะไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดน่ะสิ" จากนั้นเขาก็บอกชิวหนิงซวงว่าอาการของเธอเป็นยังไง

"แต่เธอไม่ต้องคิดมากนะ ถ้ากำลังภายในของฉันแข็งแกร่งขึ้น ฉันจะช่วยเธอเอากระสุนออกเอง" ฮวงเฟิงพูดปลอบอีกฝ่าย "แต่ไม่แน่หมออาจจะเอากระสุนออกให้เธอได้แล้ว"

แต่ถึงอย่างนั้น เธอยังคงดีใจที่เห็นฮวงเฟิงพูดปลอบเธอ นอกจากนี้เธอยังไว้ใจฮวงเฟิงเพราะฮวงเฟิงได้ช่วยชีวิตไว้หลายครั้ง และครั้งนี้เธอเชื่อว่าเขาจะทำได้อย่างที่เขาพูด

"อืม ฉันเชื่อใจนายนะ" ชิวหนิงซวงตอบ "ส่วนหมอพวกนั้น พวกเขายังไม่กล้าพาฉันเข้าห้องผ่าตัดเลย"

แม้ว่าคำพูดของชิวหนิงซวงจะไม่ค่อยน่าฟัง แต่ฮวงเฟิงรู้ว่าสิ่งที่เธอพูดคือเรื่องจริง หมอพวกนั้นไม่มีความกล้าแม้แต่จะพาเธอเข้าห้องผ่าตัด

"เอาล่ะ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว พูดเรื่องอื่นกันเถอะ" ชิวหนิงซวงไม่ต้องการพูดถึงอาการบาดเจ็บอีกแล้ว “ว่าแต่เรื่องโรงงานของนายเป็นยังไงบ้างล่ะ?”

ฮวงเฟิงคิดว่าชิวหนิงซวงน่าจะหมายถึงโรงบำบัดน้ำเสีย เพราะถ้าผู้กำกับชิวรู้เรื่องนี้ ชิวหนิงซวงก็ต้องรู้

"พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ก็ต้องขอบคุณผู้กำกับชิวจริงๆ ถ้าเธอกลับบ้านไปฝากขอบคุณเขาด้วยนะ" ฮวงเฟิงพูดพลางยิ้ม แม้ว่าอาการของชิวหนิงซวงจะไม่ได้ดีอย่างที่เธอพูด

แต่ดูเหมือนว่ามันจะยังไม่ทำอันตรายต่อเธอในเร็ววัน ถ้าหากเขาสามารถสร้างกำลังภายในได้มากกว่านี้ เขาก็จะสามารถช่วยเธอแก้ปัญหานี้ได้ ด้วยเหตุนี้ ฮวงเฟิงจึงไม่ได้กังวลจนเกินเหตุ

ฮวงเฟิงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงงานในวันนี้ให้เธอฟัง ชิวหนิงซวงหัวเราะแล้วพูดว่า "คนพวกนั้นคงคิดไม่ถึงเลยล่ะสิ" คนที่ชิวหนิงซวงพูดถึงก็คือนักลงทุน พวกเขาเองก็อยู่ในธุรกิจนี้ ดังนั้นชิวหนิงซวงจึงไม่แปลกใจที่รู้เรื่องนี้

หลังจากนั้นทั้งสองคนก็พูดกันต่อ จู่ๆ ฮวงเฟิงก็นึกถึงรถของเขาแล้วบอกชิวหนิงซวงว่า "เธอเป็นตำรวจจราจรใช่ไหม ฉันมีรถแต่ยังไม่ได้ใบอนุญาตเลย เธอช่วยเอามันมาให้ฉันหน่อยได้ไหม”

ในระหว่างนี้ ฮวงเฟิงรู้สึกว่าการที่เขาไม่ได้ขับรถทำให้เขารู้สึกลำบากใจ เพราะเขายังมีรถสปอร์ตที่เก็บในแหวนมิติ รถคันนั้นนอกจากจะบินบนท้องฟ้าได้แล้ว ยังเป็นรถที่วิ่งบนถนนได้อีกด้วย ไม่ต้องพูดก็รู้ว่าถ้าเขาไม่ได้ขับมันเขาจะรู้สึกเสียดายขนาดนี้

“ใบอนุญาติเหรอ ได้” ชิวหนิงซวงรับปากโดยไม่ลังเลย เรื่องนั้นไม่มีปัญหา แต่ติดตรงที่เธออยากรู้เรื่องรถของฮวงเฟิง "นายซื้อรถเหรอ ยี่ห้ออะไรล่ะ?"

เมื่อรู้ว่าฮวงเฟิงเป็นเจ้าของโรงงานไม่ใช่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ชิวหนิงซวงจึงไม่แปลกใจที่เขาซื้อรถได้ แต่เธอแค่ไม่รู้ว่าฮวงเฟิงซื้อรถแบบไหน

"หืม ยี่ห้อ? ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน" ฮวงเฟิงตอบ เขาไม่รู้จริงๆ ว่ารถคันนี้ยี่ห้ออะไร

แน่นอนว่าชิวหนิงซวงไม่เชื่อ แต่เธอก็ไม่ได้ถามต่อ จากนั้นเธอก็บอกเขาว่า "ช่างเถอะ นั่นไม่ใช่ประเด็น นายแค่นำรถมาแล้วฉันจะเอาใบนุญาติให้นาย"

"ได้เลย" ฮวงเฟิงต้องการจัดการเรื่องรถให้ไวที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพราะในอีกไม่กี่วัน เขาต้องใช้รถไปหาโรงหมักไวน์ที่เหมาะสม

"เธอไปที่นั่นก่อนเลย เดี๋ยวฉันตามไป" ฮวงเฟิงพูดกับชิวหนิงซวง เขาไม่สามารถนำรถออกมาให้ชิวหนิงซวงเห็นได้ในตอนนี้ เขาจึงบอกให้เธอกลับไปก่อน

"รถอะไรเนี่ย ทำไมดูลึกลับจัง" ชิวหนิงซวงพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ แต่ก็ยอมกลับไปก่อน

หลังจากนั้น ฮวงเหิงก็เห็นถนนที่ไร้ผู้คน จึงนำโมเดลรถออกมาจากแหวนมิติ นอกจากชิวหนิงซวงแล้วก็มีฮวงเฟิงที่อยากรู้ว่ารถคันนั้นหน้าตาเป็นยังไง

ทันทีที่แน่ใจว่าแถวนี้ไม่มีคนอื่นและกล้องวงจรปิด ฮวงเฟิงก็วางโมเดลลงบนพื้น ในตอนที่เขากำลังคิดว่าจะทำยังไงให้มันใหญ่ขึ้น รถที่เหมือนจะรู้ความคิดของเขา ทันใดนั้นมันก็มีขนาดใหญขึ้นทันที

พริบตาเดียว รถสุดหรูก็ได้ปรากฏตรงหน้าฮวงเฟิง ส่วนโค้งไร้ที่ติ ตัวรถที่งดงาม ออกแบบพิถีพิถันและวัสดุที่มีคุณภาพทำให้รถคันี้ออกมาสมบูรณ์แบบเหมือนงานศิลปะ

เขาขอรับประกันว่ารถสปอร์ตคันนี้จะเป็นรถสปอร์ตที่สวยและดูล้ำสมัยที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา เนื่องจากรถสปอร์ตคันนี้มาจากดวงดาวที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากกว่าโลก ไม่ใช่เพียงแค่เทคโนโลยี แม้แต่พื้นผิวก็ล้ำหน้ากว่ารถสปอร์ตบนโลก

"สุดยอด!" หลังจากนั้นไม่นาน ฮวงเฟิงก็ร้องลั่น เขารีบเปิดประตูแล้วเข้าไปนั่งข้างใน โดยกุญแจถูกเสียบเอาไว้แล้ว

"ยินดีต้อนรับ เจ้านาย รบกวนเลือกระหว่างระบบขับรถด้วยตนเองหรือระบบขับอัตโนมัติ"

ในตอนที่ฮวงเฟิงเข้าไปในรถ เขาก็ได้ยินเสียงเครื่องจักรกล ฮวงเฟิงถึงกับสะดุ้งโหยง แต่หลังจากนั้นเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่ามันคือเสียงระบบของรถคันนี้ เหมือนกับว่าจะมีสติปัญญาถึงได้พูดกับฮวงเฟิงได้

ฮวงเฟิงเคยเห็นหุ่นยนต์อัจฉริยะมามากมายในมิติก่อนหน้านี้ ดังนั้นเขาจึงไม่แปลกใจที่รถคันนี้จะล้ำสมัยมากขนาดนี้

หลังจากนั้นเขาก็รู้ว่ารถคันนี้ดีกว่าที่เขาเคยจินตนาการไว้ ฮวงเฟิงสตาร์ทรถแต่กลับไม่รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนแม้แต่น้อย หลังจากสตาร์ทรถ ฮวงเฟิงก็รู้สึกว่าเบาะที่นั่งทำให้เขารู้สึกสบายมาก

เสียงร้องของเครื่องยนต์ทำให้คนขับเลือดร้อน ฮวงเฟิงตื่นเต้นมาก เขาเหยียบคันเร่งจากนั้นรถก็พุ่งทยานออกไป

ฮวงเฟิงรู้ว่าที่มิตินั้น ความเร็วของรถสปอร์ตที่ถูกระงับจะเร็วกว่ารถบนโลกมากไม่ต้องพูดถึงว่าเขาเป็นรถที่ผลิตขึ้นเองมันไม่ช้าอย่างแน่นอน

น่าเสียดายที่ตอนนี้เขาอยู่ในเขตเมืองและต้องปฏิบัติตามกฏจราจรอย่างเคร่งครัด ฮวงเฟิงไม่ได้รับอนุญาติให้ขับรถด้วยความเร็วเต็มสปีด

นอกจากนี้ ฮวงเฟิงเองก็ยังไม่มั่นใจในทักษะการขับขี่ของตัวเอง และไม่กล้ารับประกันว่าถ้าเขาขับรถด้วยความเร็วแล้ว ชีวิตของเขาจะยังปลอดภัยอยู่หรือเปล่า