ตอนที่ 462

USB:บทที่ 462 อาวุธลับ

“อาวุธลับเรอะ?!”

แต่อีกฝ่ายกลับไม่เคยเห็นอาวุธที่ทรงพลังเท่านี้มาก่อน ในอดีต ไม่ว่าจะใช้อาวุธลับชนิดไหน หากอีกฝ่ายอยู่ในระดับเดียวกันหรือต่ำกว่า เขาก็ยังเห็นร่องรอยการเคลื่อนไหวของมัน

ทว่าอาวุธลับที่ฮวงเฟิงใช้กลับไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ เขาแค่ได้ยินเสียง จากนั้นสหายที่อยู่ข้างๆเขาที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่ปรับของเขาก็หมดลมหายใจ

จู่ๆ สหายของเขาก็เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ จนกระทั่งอีกฝ่ายสิ้นลมหายใจ เขาก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายตายได้อย่างไร

แน่นอนว่าฮวงเฟิงไม่คิดจะอธิบายให้อีกฝ่ายรู้ เขาเก็บปืนกลับเข้าไปในกล่องจักรวาล จากนั้นก็พุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้อีกครั้ง

สำหรับฮวงเฟิงแล้ว การรับมือกับยอดฝีมือระดับสองสองคนถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก แต่ถ้าเหลือแค่คนเดียวแล้วล่ะก็ไม่มีปัญหา!

สุดท้าย ฮวงเฟิงรีบต่อสู้กับคู่ต่อสู้อีกครั้ง เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามกลัวว่า ฮวงเฟิงจะใช้อาวุธลับอีก เขาจึงลังเลและไม่กล้าปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา

และฮวงเฟิงไม่ได้แสดงความเมตตาต่ออีกฝ่าย ฮวงเฟิงใช้เวลาไม่นานก็สามารถจัดการคู่ต่อสู้ได้ หากแต่ครั้งนี้เขาไม่ได้มีเจตนาในการสังหารคู่ต่อสู้ในทันที จึงใช้ดาวเคลื่อนดาราค้อยเล่นงานคู่ต่อสู้!

เนื่องจากฮวงเฟิงกำลังสู้กับยอดฝีมือแห่งอาณาจักรวายุโชย จึงไม่มีคนจากอาณาจักรวายุโชยหรืออาณาจักรสำเภาสวรรค์เข้าไปใกล้ทั้งสอง ราวกับว่าทั้งสองฝ่ายยินดีให้ยอดฝีมือทั้งสองได้ประมือกัน

ด้วยเหตุนี้ ในตอนที่ฮวงเฟิงกำลังดูดซับกำลังภายในของอีกฝ่าย จึงไม่มีใครกล้ารบกวนเขา ทำให้เขาสามารถดูดซับกำลังภายในของอีกฝ่ายได้อย่างสมบูรณ์

นักพรตท่านนี้จึงดูไม่ต่างจากนักพรตที่เต็มไปด้วยบาดแผลและจากยอดฝีมือระดับสองก็ได้ลดลงไปเป็นระดับธรรมดา

แม้ชายคนนี้จะเสียสติไปแล้ว แต่ฮวงเฟิงก็ไม่คิดจะปล่อยเขาไป จึงใช้ฝ่ามือปลิดชีพอีกฝ่ายทันที

ฮวงเฟิงได้สังหารยอดฝีมือระดับสองสองคนในคราเดียว ต้องเข้าใจว่า แม้ยอดฝีมือทั้งสองจะเป็นคนของอาณาจักรวายุโชย

แต่พวกเขาเป็นส่วนน้อยและเป็นถึงศิษย์ของปรมาจารย์กงหมิง เขาจะไปช่วยพวกเขาทันทีที่ตกอยู่ในอันตราย ทว่าครั้งนี้เขากลับสูญเสียศิษย์ไปถึงสองคนในคราเดียว!

หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากยอดฝีมือระดับสองทั้งสองคน จอมยุทธ์คนที่เหลือก็คงต้องเสียตำแหน่งด้านบนกำแพงและถูกขับออกไปจากที่ตรงนี้

ดังนั้นคนที่ไปหาปรมาจารย์กงหมิงเพื่อขอความช่วยเหลือก็ได้ปรากฏตัวต่อหน้าเขาอีกครั้ง ด้วยใบหน้าบึ้งตึง เขาก็ได้อธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้อีกฝ่ายทราบ

"ว่ายังไงนะ? เป็นไปไม่ได้!” หลังจากปรมาจารย์กงหมิงได้ยินสิ่งนี้ ท่าทางสำรวมก็ได้หายไปและกล่าวว่าทั้งสองเป็นยอดฝีมือระดับสองที่ไร้ฝีมือและไม่ใช่ยอดฝีมือระดับสาม

นอกจากนี้เขามียอดฝีมือระดับนี้อยู่ใต้บังคับบัญชาน้อยมาก เดิมทีเขาคิดว่าการส่งทั้งสองไปจะเป็นการสิ้นเปลืองกำลังคน ทว่าเขาต้องการให้ทั้งสองเปิดทางและได้โอกาสจัดการศัตรูได้สำเร็จ

เพียงเท่านั้น เขานึกไม่ถึงว่ายอดฝีมือระดับสองไปได้ไม่นานก็ตายจากเขาไปโดยไม่หวนกลับมาอีกตลอดการ แน่นอนว่าเขาไม่สามารถยอมรับความจริงข้อนี้ได้

การที่จะสามารถปริดชีพยอดฝีมือทั้งสองได้ในเวลาอันสั้นเช่นนี้ มีเพียงยอดฝีมืออันดับหนึ่งเท่านั้น หรือว่ายอดฝีมือคนนั้นเป็นคนของอาณาจักรสำเภาสวรรค์? นี่ไม่ใช่เรื่องดีแน่

“ปรมาจารย์กงหมิง ข้าไม่ได้โกหก เรื่องเป็นเช่นนั้นจริงๆ คนจากอาณาจักรสำเภาสวรรค์เก่งกาจมาก เขาใช้อาวุธลับปลิดชีพยอดฝีมือท่านหนึ่ง จากนั้นด้วยความช่วยเหลือจากบอดฝีมือท่านอื่นทำให้เขาสามารถปลิดชีพยอดฝีมืออีกท่านได้” ชายคนนั้นกล่าว

"อาจเป็นเพราะอาวุธลับ" ดูท่าว่าอีกฝ่ายยังไม่ใช่ยอดฝีมือระดับผู้เชี่ยวชาญอันดับหนึ่ง ทว่ามีความเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธลับ

แต่อย่างไรก็ตามหากเขาสามารถต่อสู้กับยอดฝีมือระดับสองได้สูสี แสดงว่าความแข็งแกร่งของเขาคือระดับสอง คนที่นี้มีความเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธลับเช่นนี้ต้องเป็นภัยต่ออาณาจักรแห่งสายลมแน่

“ข้าจะไปพบเขาด้วยตัวเอง!” ปรมาจารย์กงหมิงกล่าวหลังจากไตร่ตรองครู่หนึ่ง

"ท่านอาจารย์ ท่านจะไปหาเขาด้วยตัวเองหรือ? เยี่ยมไปเลย!" ชายคนนั้นพูดอย่างมีความสุข หลังจากนั้นเขาก็เอ่ยถามด้วยท่าทางลังเล "นี่ไม่ใช่ว่าจะยิ่งทำให้เรื่องวุ่นวายหรอกหรือ?"

ปรมาจารย์กงหมิงเป็นผู้ที่มีวรยุทธ์แข็งแกร่งที่สุดและยังเป็นเจ้าสำนัก หากไม่จำเป็นจริงๆเขาจะไม่เข้าไปยุ่งเด็ดขาด

สุดท้ายแล้ว นี่เพิ่งวันแรกและพวกเขากำลังจะเปิดศึกที่กำแพงเมือง แล้วจะท่านปรมจารย์ออกไปสู้ มันช่างต่างจากที่พวกเขาวางแผนไว้เสียจริง!

"ไม่แน่นอน ข้าอยู่ในระดับสร้างกล้ามเนื้อและกระดูกแล้ว" ปรมาจารย์กงหมิงกล่าวด้วยท่าทางสบายๆ เมื่อรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นเพียงยอดฝีมือระดับสองปรมาจารย์กงหมิงก็มั่นใจมากกว่าเก่า

แม้ว่ายอดฝีมือระดับสองแต่กับยอดฝีมือระดับหนึ่งก็ยังมันเส้นบางๆกันอยู่ ช่องว่างระหว่างทั้งสองระดับนั้นยังใหญ่มาก สำหรับยอดฝีมือดับหนึ่งการจัดการกับยอดฝีมือระดับสองสี่ห้าคนไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นปรมาจารย์กงหมิงจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับฮวงเฟิงมากเกินไป

ด้วยเหตุนี้ วันแรกของการต่อสู้ ปรมาจารย์กงหมิงก็ได้ปรากฏตัวขึ้นอย่างไม่คาดฝัน ทว่าตอนนี้หลายคนยังไม่ทราบเรื่อง

และวิชาตัวเบาของปรมาจารย์กงหมิงทรงพลังมาก เขาสามารถส่งตัวขึ้นไปเหนือกำแพงเมืองได้ไม่ได้ใช้ตัวช่วยใดๆ

เพียงแต่ครั้งนี้เขาไม่ได้มาเพื่อสิ่งเดียว เขาต้องการเป็นผู้กำชัยในการต่อสู้ จัดการทุกคนที่ขวางหน้าและยึดครองกำแพงเมืองนี้

หลังจากไปถึงด้านบนของเมือง ปรมาจารย์กงหมิงได้เคลื่อนไหวอย่างกล้าหาญ เพียงหมัดเดียว เขาสามารถเอาชนะฝูงชนได้

ฮวงเฟิงสังเหตุเห็นปรมาจารย์กงหมิงได้จากร่างของอีกฝ่าย นอกจากนี้เขายังสัมผัสได้ถึงออร่าที่ทรงพลังอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ท่าทางของฮวงเฟิงนั้นน่าเกรงขามมีขึ้นเนื่องจากมียอดฝีมือมากหน้าหลายตาในอาณาจักรวายุโชย

ฮวงเฟิงยังไม่ทันได้มีเวลาพักหายใจ ในช่วงเวลาสั้น ๆ เพราะการปรากฏตัวของปรมาจารย์กงหมิง ก็มีผู้คนมากมายขึ้นมาบนกำแพงเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หลังจากนั้นไม่นานฮวงเฟิงได้ปะทะกับปรมาจารย์กงหมิง

"เจ้าคือผู้ที่สังหารศิษย์ทั้งสองของข้าอย่างนั้นรึ?" หลังจากปรมาจารย์กงหมิงต่อสู้กับฮวงเฟิง เขารู้ได้ทันทีว่าฮวงเฟิงคือผู้สังหารศิษย์ของเขา

“ถ้าเจ้าหมายถึงชายหัวโล้นสองคนเมื่อกี้ล่ะก็ ข้ากำจัดไปแล้วล่ะ” ฮวงเฟิงไม่ปฏิเสธ

"เยี่ยมมาก เช่นนั้นเจ้าจงตายตามพวกเขาไปเสียเถิด!" จากนั้นปรมาจารย์กงหมิงก็ตั้งท่าจู่โจมฮวงเฟิงทันที

แน่นอนว่าความแข็งแกร่งของปรมาจารย์กงหมิงนั้นแข็งแกร่งกว่าของฮวงเฟิง ดังนั้นหลังจากแลกเปลี่ยนการโจมตี ฮวงเฟิงจึงเป็นฝ่ายเสียเปรียบแต่ไม่ถึงขั้นได้รับบาดเจ็บสาหัส

หลังจากดูดซับพลังลมปราณภายในจากคนอื่นเพียงไม่กี่คน ความแข็งแกร่งของฮวงเฟิงจึงไม่ใช่ความแข็งแกร่งที่เขามีเหมือนอย่างก่อนหน้านี้อีกต่อไป เพราะเมื่อเขาดูดซับครั้งแรก ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวแล้ว!