USB:บทที่ 488 ย้ายข้าง

ไม่นานนักหลังจากที่เขาได้ถูกตำรวจนำตัวไป นักข่าวเหล่านั้นก็ได้โพสต์ภาพเหตุการณ์ที่เขาถูกจับตัวไปขึ้นบนอินเทอร์เน็ต ชื่อเสียงของเขาในฐานะต้าเหว่ยก็โด่งดังมากขึ้นเรื่อยๆ แต่คราวนี้เมื่อทุกคนพูดถึงเขามันไม่ใช่เรื่องที่เขาถูกกลั่นแกล้งโดยเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นเรื่องของเขาที่เป็นไอ้สวะ

ผู้คนมากมายพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่เขาถูกคุมตัวไปได้ด้วยเพียงคำเดียวว่า: สมน้ำหน้า!

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ได้จบลงเพราะต้าเหว่ยถูกตำรวจจับตัวไป ในทางตรงกันข้ามเนื่องจากต้าเหว่ยถูกตำรวจจับตัวไปมันจึงมีสีสันมากขึ้นและมีสื่อได้รายงานข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้น ในขณะเดียวกันผู้กำกับที่ถ่ายทำโฆษณาและทีมงานที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกคนต่างก็พากันมาแสดงความคิดเห็น

คำพูดของคนเหล่านี้สอดคล้องกันมาก พวกเขาพิสูจน์แล้วว่าต้าเหว่ยโกหกและสิ่งที่หลี่ปิงอวิ้นได้พูดไว้ก่อนหน้านี้คือความจริงที่ว่าต้าเหว่ยต้องการที่จะเปลี่ยนบทโดยไม่ได้รับอนุญาตและคิดที่จะล่วงเกินหลี่ปิงอวี้นและเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปก็ต้องการที่จะปกป้องหลี่ปิงอวิ้น ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจที่จะต้องทำอะไรบางอย่าง ในเวลาเดียวกันไม่เพียงแต่ต้าเหว่ยจะมาช้าไปตั้งหนึ่งชั่วโมง แต่เมื่อพวกเขามาถึงสถานที่ถ่ายทำแล้วพวกเขาก็ยังคงเล่นแง่อีกด้วย

แม้ว่าผู้กำกับและผู้คนที่อยู่สถานที่ถ่ายทำจะพยายามแสดงท่าทีและพยายามที่จะไม่สนใจท่าทางของพวกเขา

หากไม่มีการเปิดเผยวิดีโอของต้าเหว่ยก่อนหน้านี้สำหรับผู้กำกับคนนี้และคนที่อยู่ในเหตุการณ์แม้ว่าพวกเขาจะออกมาแสดงความคิดเห็นก็ตาม คนส่วนมากก็คงจะไม่เชื่อพวกเขา พวกเขาอาจคิดว่าคนเหล่านี้ได้รับผลประโยชน์จากเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปที่ทำให้พวกเขาออกมาพูดเช่นนั้น

อย่างไรก็ตามตอนนี้มันแตกต่างอย่างชัดเจน ต้าเหว่ยได้ทำลายภาพลักษณ์ของตัวเองและไม่มีใครเชื่อเขาอีกแล้วในตอนนี้

สิ่งที่ฮวงเฟิงและคนอื่นๆ ไม่คาดคิดก็คือในเช้าวันที่สอง ดาราที่ไม่ค่อยดังบางคนที่เคยเข้าข้างต้าเหว่ยและกล่าวหาว่าพวกเขาเคยถูกรังแกก่อนหน้านี้ก็ดูเหมือนว่าจะเห็นคล้อยตาม ในขณะที่พวกเขาเปลี่ยนวิธีการพูดทั้งหมด พวกเขาทั้งหมดกล่าวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เป็นความเข้าใจผิดและความร่วมมือระหว่างพวกเขากับเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปก็ราบรื่นดีมากเช่นกัน

เมื่อพวกเขาได้เห็นชัดแล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับผู้หญิงพวกนั้นพวกเขาจึงได้กลับคำในทันที และแน่นอนว่าแม้ว่าพวกเขาจะกลับคำ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าพวกเขาไม่เคยร่วมมือกับเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปมาก่อนเพราะนั่นเป็นการตบหน้ามากเกินไปและแม้จะกลับคำไปแล้วแต่พวกเขาก็ยังคงติดต่อไปยังเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปและหวังว่าเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปจะไม่ติดใจในเรื่องนี้ พวกเขายังหวังอีกว่าเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปจะไม่บอกความจริงแก่สาธารณะชนดังนั้นพวกเขาจึงเป็นหนึ้บุญคุณกับเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปเพราะเรื่องนี้

หลังจากที่ซูหยูโม่และเซี่ยเมิ่งเจียวได้พูดคุยกันแล้วพวกเธอก็ไม่ได้ออกมากล่าวว่าพวกเขาไม่เคยร่วมงานกันเพราะว่าคนเหล่านี้ก็แค่พยายามที่จะล้ำเส้นพวกเขา และไม่ว่าจะต่อหน้าสาธารณะชนหรือแบบส่วนตัวพวกเขาก็ได้ขอโทษแล้ว

อันที่จริงแล้วดาราเหล่านี้ก็ไม่อาจที่จะถูกกล่าวหาได้ว่ากลับคำและในเมื่อพวกเขาได้ขอโทษเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปต่อหน้าสาธารณะชนแล้วด้วยความกลัว เห็นได้ชัดว่าวิดีโอของต้าเหว่ยนั้นเขาไม่ได้เป็นถ่ายตัวเองและเขาก็เพิ่งจะมีเรื่องกับเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปในตอนที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะไม่ให้ผูค้นเชื่อโยงเรื่องของเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปเข้ากับเรื่องวิดีโอนี้

นอกจากนี้เพื่อให้วิดีโอนั้นอยู่ในจุดที่สะดุดตาที่สุดในเว็บไซต์ขนาดใหญ่หลายแห่งเป็นเวลานานจึงเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ว่าใครก็สามารถทำได้ ดังนั้นพวกเขาจึงกลัวว่าเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปจะจัดการกับต้าเหว่ยแล้วจะวกมาจัดการกับพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มที่จะขอโทษก่อนถึงแม้ว่ามันจะทำให้เสียหน้า แต่ก็ยังดีกว่าต้องเสียชื่อเสียง

คราวนี้ยิ่งไม่มีใครสงสัยเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ป หลังจากที่เฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของพวกเขาชื่อเสียงของพวกเขาก็เพิ่มมากขึ้นเพราะเรื่องนี้ในระยะเวลาสั้นๆ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะไม่ได้สูญเสียอะไรไปเพราะเรื่องนี้พวกเขายังได้รับผลประโยชน์อีกด้วยและบริษัทของพวกเขายังคงขายสินค้าได้มาก

สำหรับเหตุผลว่าทำไม มันก็ไม่ยากที่จะเข้าใจเช่นกันเพราะเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปนั้นเดิมทีแล้วมีเจ้าของกิจการเป็นผู้หญิงและคราวนี้พวกเขาก็ได้ออกมาปกป้องหลี่ปิงอวิ้นอย่างโจ่งแจ้ง ซึ่งทำให้ผู้หญิงหลายคนประทับใจในตัวของพวกเขา ท้ายที่สุดแล้วไม่มีผู้หญิงคนไหนที่อยากถูกเพศตรงข้ามเอาเปรียบ

เหยื่อของเหตุการณ์นี้นอกจากต้าเหว่ยแล้วยังมีโรงแรมที่ต้าเหว่ยเข้าพักอีกด้วยโรงแรมได้รับความหายนะอย่างไม่คาดคิดจริง ๆ เพราะวิดีโอของต้าเหว่ยที่ถูกถ่ายจากทั้งสองมุมซึ่งมุมแรกเป็นที่ระเบียงและอีกมุมหนึ่งอยู่ในห้องนอน สิ่งนี้ทำให้หลายคนรู้สึกว่าในห้องของโรงแรมแห่งนี้มีกล้อง และสิ่งที่แฮ็กเกอร์ได้ถ่ายไว้ก็ถูกอัพโหลดขึ้นบนอินเทอร์เน็ต

สิ่งนี้ทำให้หลายคนโกรธมาก เพราะห้องของโรงแรมเป็นสถานที่ส่วนตัวมากและโรงแรมนี้ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบุกรุกความเป็นส่วนตัวของลูกค้า แม้ว่าทุกคนจะรู้สึกสมน้ำหน้าต้าเหว่ย แต่พวกเขาก็กังวลว่าถ้าอยู่ในห้องแบบนี้พวกเขาจะถูกแอบถ่ายเช่นกัน

เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบอย่างมาก แม้แต่สถานีตำรวจยังส่งคนไปที่โรงแรมเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ โดยเฉพาะห้องที่ต้าเหว่ยเข้าพักอยู่ก่อนหน้านี้ แน่นอนว่าผลการสอบสวนนั้นกลับไม่พบอะไร

อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่ได้ขจัดความกังวลในใจของทุกคน หลายคนเชื่อว่าหลังจากเหตุการณ์นี้โรงแรมคงจะนำกล้องทั้งหมดในห้องพักไปทิ้งแล้ว นั่นคือสาเหตุที่พวกเขาไม่สามารถตรวจสอบอะไรได้เลย

ในระยะสั้นมันยังคงเป็นประโยคนั้น หลังจากที่ผู้คนต่างก็ตัดสินในใจแล้วเพราะมันยากมากที่จะให้เชื่อในสิ่งที่คนอื่นพูด แม้ว่าคนนี้จะอธิบายต่อไปก็คงไม่มีผลมากนัก

ดังนั้นแม้ว่าโรงแรมจะยังคงอธิบายว่าไม่มีกล้องในห้องพักของโรงแรม แต่ประชาชนก็ไม่เชื่อ คงอีกนานที่ธุรกิจของโรงแรมคงจะแย่มากและหลายคนคงไม่กล้าที่จะไปเข้าพักที่โรงแรมนี้