ตอนที่ 234

USB:บทที่ 234 ไม่ชอบงั้นหรอ?

“หนึ่งล้านสองแสนหยวน!” ผู้จัดการหยวนขึ้นราคาอีกครั้ง แม้ใจจริงเขาจะเริ่มรู้สึกประหม่าขึ้นมาเล็กน้อยแล้วก็ตาม

ใจจริง ผู้จัดการหยวนรู้สึกประหม่าไม่น้อย แม้ว่าเขาจะเป็นถึงผู้จัดการทั่วไปของออคิดบีนกรุ๊ป แต่มันก็ไม่เรื่องปกติของคนทั่วไปที่จะจ่ายเงินซื้อของจำพวกนี้ แต่เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเสียหน้า ในตอนนี้ เขาถึงจำเป็นต้องเป็นคนควักเงินจ่ายด้วยตัวเอง

ในตอนแรกเขาคิดว่าซูหยูโม่จะต้องหวั่นเกรงเขา แต่เมื่อมองไปทางด้านซูหยูโม่เมื่อครู่ เธอกลับดูเหมือนจะประมูลจริงจังกว่าเขาเสียอีก ภาพวาดนั้นมันมีดีอะไรกัน?

ผู้จัดการหยวนเองก็ไม่รู้ว่าจะชื่นชมหรือซาบซึ้งกับภาพวาดนี้ได้อย่างไร เหตุผลที่เขาเรียกราคาประมูลนั้นก็เพื่อสกัดซูหยูโม่

ตอนที่เขาพูดเสนอราคาขึ้นมันจึงไม่แปลกที่เขารู้สึกเจ็บใจภายหลังเนื่องจากราคาปัจจุบันสูงกว่าราคาในใจของเขาแล้วตอนนี้

เขาอยากจะพูดเพียงแค่สองสามคำและอยากบีบให้ซูหยูโม่กลับไปด้วยซ้ำ แต่ใครจะไปรู้ว่าซูหยูโม่ไม่มีความมลังเลเลยที่จะเสนอราคาประมูลขึ้นมาอีกครั้ง

“หนึ่งล้านสามแสน!” ผู้จัดการหยวน ฉันต้องขอโทษด้วย ฉันก็ต้องการสิ่งนี้เช่นกัน ถ้าอยากได้จริงๆ ฉันเกรงว่าราคานี้ยังไม่พอ! "ซูหยูโม่กล่าว

เมื่อเห็นท่าทีที่สงบของซูหยูโม่ ฮวงเฟิ่งจึงนึกสงสัยว่าเธอคงไม่มีทางยอมแพ้แน่ๆ จนกว่าจะเอาชนะผู้จัดการหยวนได้ซึ่งนั้นทำให้เขาเริ่มเข้าใจเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของเธอเพิ่มขึ้นไปอีก

ในขณะเดียวกัน ฮวงเฟิงก็รู้สึกลังเลอยู่ในใจเช่นกัน เนื่องจากเขาไม่ต้องการให้ซูหยูโม่เสียเงินไปกับเขามากขนาดนี้ เกรงว่าภาพนี้ก็ไม่ต่างจากสิ่งของหลายอย่างที่เขาได้มาจากกล่องจักรวาล และพวกมันก็ไม่ได้มีค่ามากขนาดนั้นด้วย หากผู้จัดากรหยวนต้องการซื้อภาพวาดนั้นก็ปล่อยให้เขาได้ไป เพราะฮวงเฟิงไม่อยากให้ซูหยูโม่ต้องเสียเงินมากมายขนาดนี้

"หยูโม่ เธอชอบภาพวาดนี้จริงๆ เหรอ?" ฮวงเฟิงกล่าวกับซูหยูโม่ด้วยเสียงทุ่ม

“มีอะไรเหรอ?” ซูหยูโม่รู้สึกสงสัยเล็กน้อย แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะเธอชอบเขาแต่เพราะเธอเห็นว่าฮวงเฟิงดูเหมือนจะชอบเธอจริงๆ เมื่อนึกถึงตอนที่ฮวงเฟิงให้สร้อยคอกับเธอเช่นนั้น เธอจึงคิดได้ว่าควรจะให้อะไรตอบแทนแก่เขาบ้าง เรื่องเสื้อผ้าที่เธอซื้อให้มันเป็นเพียงความต้องการพื้นฐานที่เขาควรได้รับอยู่แล้ว นั้นจึงไม่ถูกนับรวมกับสิ่งที่เธอจะต้องตอบแทนเขา ท้ายที่สุดแล้ว เกียรติยศและชื่อเสียงเป็นสิ่งที่เธอสามารถซื้อเพื่อตอบแทนให้เขาได้ในฐานะ ‘เพื่อน’

เพียงแค่มองท่าทีของฮวงเฟิงตอนนี้ มันก็ดูออกแล้วว่าเขาคงจะไม่ชอบภาพวาดนี้จริงๆ

"ฉันไม่คิดว่าภาพวาดนี้จะคุ้มค่ากับเงินมากขนาดนั้น ดังนั้นเธอไม่ควรเสียเงินไปฟรีๆนะ ถ้าเธอชอบภาพวาดพวกนี้จริงๆ ผมสามารถหาให้เธอได้ในอนาคต" ฮวงเฟิ่งกล่าว

หากไม่ใช่เพราะเขายังต้องการหาเงินทุนในตอนนี้ เขาคงสามารถซื้อภาพวาดพวกนี้แล้วมอบให้ซูหยูโม่เป็นของขวัญไปแล้ว

และแม้ว่าเขาจะยังทำไม่ได้ในตอนนี้ แต่เขาก็สามารถได้ภาพวาดแบบนี้มาจากกล่องเก็บของได้ ดังนั้นเขาจึงคิดว่าเขาสามารถมอบของขวัญให้ซูหยูโม่ในอนาคตได้อย่างแน่นอน

"ไม่คุ้มเหรอ?" ซูหยูโม่ตกใจ แม้ว่าภาพวาดชิ้นนี้จะไม่คุ้มค่าสำหรับการประมูลครั้งนี้สักเท่าไหร่ แต่มันก็ยังคงมีมูลค่าอยู่ที่หนึ่งล้านหยวน ฮวงเฟิงบอกว่าเขาได้ส่วนแบ่งจากการประมูลครั้งนี้ด้วย แล้วอย่างนี้ ภาพนี้ควรมีราคาเท่าไหร่ล่ะ?

"ใช่ ฉันคงต้องบอกว่า จริงๆแล้ว เพื่อนของฉันเป็นคนขายภาพนี้ มันไม่คุ้มกับเงินจำนวนมากขนาดนั้นหรอก" เพื่อที่จะปัดความคิดของซูหยูโม่ที่ว่าเธอใช้เงินอย่างผิดๆ ฮวงเฟิงจึงพูดได้เพียงเท่านี้

"เพื่อนของนาย? งั้นก็แสดงว่านายไม่ได้ชอบภาพวาดนี้หรอ?" ซูหยูโม่ถึงกับอึ้ง เป็นไปได้ไหมว่าเธอจะเข้าใจอะไรผิด?

"ฉันชอบภาพนี้งั้นหรอ? ฉันบอกตอนไหนว่าฉันชอบภาพนั่น? ฉันไม่รู้วิธีชื่นชมภาพวาดแบบนั้นด้วยซ้ำ แล้วฉันจะชอบมันได้ยังไง..?" ฮวงเฟิงถึงกับตกใจคำถามของซูหยูโม่

“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง” ในที่สุดซูหยูโม่ก็เข้าใจถึงเหตุผลที่ทำไมเขาถึงให้ความสนใจกับภาพวาดนี้มากนั้นไม่ใช่เพราะว่าเขาชอบมัน แต่เป็นเพราะภาพนี้ถูกประมูลโดยเพื่อนของเขา ดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจผิดแล้วจริงๆ

อย่างไรก็ดี ซูหยูโม่ได้มองไปที่ผู้จัดการหยวนที่อยู่ไม่ไกลจากเธอนัก เธอมองออกว่าในใจของอีกฝ่ายไม่ยอมแพ้การประมูลครั้งนี้แน่นอน แม้เขาจะไม่ต้องการซื้อภาพวาดนี้ นี่คือสิ่งที่ทำให้ซูหยูโม่ประหลาดใจ

“หนึ่งล้านห้าแสนหยวน!” ผู้จัดการหยวนลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนจะเสนอราคาประมูลที่ทำให้ทุกคนที่อยู่ในงานตกใจ

"แม้ว่าผมจะบอกว่าสุภาพบุรุษไม่ควรขโมยมือของคนอื่น แต่ผม หยวนคนนี้ชอบภาพวาดนี้มาก คุณต้องการให้ผมตัดคุณออกหรือไม่?" ผู้จัดการหยวนกล่าวกับซูหยูโม่ด้วยรอยยิ้มทั่วใบหน้าอิ่มเอิบของเขา

มีเพียงสวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าหัวใจของเขามีเลือดไหลออกมาจากความรู้สึกที่เจ็บปวด จริงๆ เขาใช้เงินไปกว่าล้านหยวนกับเพียงแค่ภาพวาดตัวหมัด เขาเหมือนติดกับดักตัวเองตายจริงๆ

ท้ายที่สุดนั้นก็เป็นเขาเองที่เป็นคนที่ริเริ่มการต่อสู้และถ้าเขายอมแพ้ในตอนนี้ พรุ่งนี้เขาจะกลายเป็นตัวตลกและเป็นที่หัวเราะของทั้งเมืองชิง จริงๆ แล้วเขาไม่ควรเอาชนะผู้หญิงด้วยซ้ำแต่ที่เขาต้องมาเจอสถานณการณ์แบบนี้ก็เพราะเธอมายั่วโมโหเขาก่อน

ดังนั้น ตอนนี้เขาทำได้เพียงรั้งตัวไม่ให้พุ่งไปหาเธอ

“ผู้จัดการหยวนดูเหมือนฝืนใจจังเลยนะคะ ถ้าคุณจ่ายไม่ไหว ก็เลิกประมูลเถอะค่ะ”

ซูหยูโม่กล่าวว่า "ฉันเสนอราคาหนึ่งล้านเจ็ดแสนหยวน!"

ว้าว!

หลายคนถึงกับอุทานออกมาเบา ๆ ถึงจะมีคนอีกจำนวนมากที่สามารถจ่ายได้ในราคาเช่นนี้ แต่การใช้เงินจำนวนมากเพียงเพื่อซื้อภาพวาด เห็นได้ชัดว่ามันไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ คงไม่มีใครเต็มใจจ่ายเพราะมันไม่ต่างกับการทำอะไรสิ้นคิด

ฮวงเฟิงเองก็ตกใจอยู่ในใจ เขาได้อธิบายให้ซูหยูโม่ชัดๆแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะตะโกนเรียกราคาที่สูงขึ้นอีกเช่นนี้

เดิมทีฮวงเฟิงเพียงคิดจะพูดโน้มน้าวเธอแค่สองสามคำ แต่พอเห็นท่าทีของซูหยูโม่กับผู้จัดการหยวนที่อยู่ห่างไปไม่ไกลในตอนนี้ ฮวงเฟิงก็เหมือนจะเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง

ในทางกลับกัน เซี่ยเมิ่งเจียวยังคงรู้สึกกังวลเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นพี่สาวใช้เงินมหาศาลเพื่อซื้อภาพวาดนี้ แต่การที่ต้องเห็นพี่สาวของเธอใช้จ่ายมากมายจนทำให้เป็นครหาว่าเป็นเหมือนกับพวกสิ้นคิดที่ชอบพล่านเงินเล่น

แต่อย่างไรก็ดีซูหยูโม่ก็ได้ให้ความมั่นใจกับกับเซี่ยเมิ่งเจียวเพื่อให้เธอสบายใจเนื่องจากน้องสาวของเธอก็ไม่รู้ว่าเธอคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ เซี่ยเมิ่งเจียวไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสงบสติอารมณ์ ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าพี่สาวของเธอคิดอะไรอยู่แต่เธอก็ยังคงเชื่อมั่นในตัวพี่สาวของเธอ

ใบหน้าของผู้จัดการหยวนจากที่มีสีแดงระเรื่อกลับต้องเปลี่ยนเป็นซีดเผือด เขาพูดออกมาอย่างยากลำบากจนเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการให้คนอื่นๆ เห็นสิ่งนี้โดยเฉพาะซูหยูโม่

เขาไม่มีทางยอมรับความพ่ายแพ้ต่อหน้าซูหยูโม่ได้ "สองล้าน! ผมเสนอราคาสองล้าน! ผมสงสัยว่า ผู้อำนวยการซู ยังจะกล้าเรียกประมูลสู้กับผมอยู่อีกรึเปล่า?"

หากซูหยูโม่ยังคงเสนอราคาต่อไป เขาก็จะยอมแพ้เพราะตอนนี้ราคาสูงกว่ามูลค่าของภาพวาดนั้นไปแล้ว ดังนั้นแม้ว่าเขาจะยอมแพ้ คนอื่น ๆ  ก็จะไม่คิดว่าเขาไม่มีเงิน แต่พวกเขาจะคิดว่าเขาฉลาดเสียด้วยซ้ำ

ใบหน้าสบอารมณ์ของผู้จัดการหยวนอยู่ได้เพียงไม่นานก่อนที่ซูหยูโม่จะส่ายหน้าและกล่าวว่า

"สุภาพบุรุษพึงมีวุฒิภาวะ แม้ว่าฉันจะไม่ใช่สุภาพบุรุษแต่เนื่องจากผู้จัดการหยวนชื่นชอบภาพวาดนี้มาก ถ้าฉันยังดึงดันสู้ต่อ มันจะไม่ทำให้ผู้จัดการหยวนเสียหน้าใช่ไหมคะ?”

“นี่เธอกำลังหมายถึงอะไร?” จู่ๆผู้จัดการหยวนเริ่มสังหรณ์ใจแปลกๆขึ้นมา