USB:บทที่ 731 เมืองเฮาเทียน
"เมืองเฮาเทียนอย่างนั้นเหรอ?" ฮวงเฟิงควบมาโลหิตใช้เวลาเพียงไม่นานเขาก็สามารถมาถึงหน้าประตูเมืองที่มองเห็นจากไกล บนกำแพงเหนือประตูปรากฏว่ามีตัวอักษรที่เห็นแล้วชวนให้ขนลุกอยู่สามคำ เป็นเพราะว่าหากไม่ใช่ความช่วยเหลือจากกล่องจักรวาลแล้วละก็ฮวงเฟิงคงไม่มีทางเข้ามายังโลกแห่งนี้ได้ ระหว่างทางไม่ค่อยมีผู้คนหันมามองและให้ความสนกับฮวงเฟิงมากนัก
อย่างไรก็ตามเนื่องจากตอนนี้อยู่ในคราบของบ่าวรับใช้บ้านโอวหยาง แม้กระทั่งม้าที่ขาขี่อยู่นั่นก็ไม่ได้เป็นที่แปลกประหลาดใจของคนที่นี่ เนื่องจากมิติแห่งนี้มากมายไปด้วยอสูรร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเมืองเฮาเทียนแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากป่าหมอก ซึ่งที่ในป่าแห่งนั้นมีบรรดาอสูรร้ายอาศัยอยู่นับหมื่นตน เช่นนี้แล้วจึงในบางครั้งก็จะมีผู้คนนำอสูรที่ไม่มีใครเคยพบเห็นมาก่อนเข้ามาในเมือง ในตอนแรกผู้คนก็ให้ความสนใจแต่เมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาก็ไม่ได้เห็นเป็นเรื่องแปลกประหลาดอีกต่อไป
หลังจากนั้นเมื่อฮวงเฟิงหาโรงเตี้ยมเพื่อพักแรมได้แล้วเขาก็มอบม้าของเขาให้กับเสี่ยวเอ้อ จากนั้นเขาก็เข้าเดินเข้าไปข้างใน โรงเตี้ยมแห่งนี้ค่อนข้างเป็นโรงเตี้ยมขนาดใหญ่ แต่ในเวลานี้ฮวงเฟิงกลับพบว่ามีผู้คนมากมายกำลังดื่มกินกันอยู่ที่ชั้นล่างของโรงเตี้ยม หนึ่งในเหตุผลที่ฮวงเฟิงเลือกที่นี่นั่นเป็นเพราะเขาอยากลิ้มลองรสชาติอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของมิตินี้ ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งเขาต้องการที่จะสืบหาข้อมูลเพิ่มเติม
"เชิญขอรับนายท่าน ไม่ทราบว่านายท่านอยากกินอะไร?" เมื่อฮวงเฟิงมองหาที่นั่งเหมาะ ๆ ได้แล้ว เสี่ยวเอ้อคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาเขาแล้วถามขึ้นอย่างอ้อนน้อม
"เอาอาหารขึ้นชื่อของพวกเจ้าให้ข้าสักสองสามอย่าง" ฮวงเฟิงบอกกับเสี่ยวเอ้อ เนื่องจากที่ไม่มีเมนูอาหารให้เลือกดังนั้นเขาจฮวงเฟิงจึงไม่รู้ว่าเขาจะกินอะไรดี โชคดีที่เสี่ยวเอ้อคนนี้เคยพบเจอผู้คนลักษณะเดียวกับฮวงเฟิงมามาก ด้วยเพราะโรงเตี้ยมแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากป่าหมอกดังนั้นจึงมีผู้คนสัญจรจำนวนมากเข้ามาและจากไป ซึ่งปกติแล้วก็จะเป็นคนจากเมืองอื่น ซึ่งในสายตาของเสี่ยวเอ้อฮวงเฟิงก็แค่คนต่างถิ่นอีกคนที่มาที่นี่เพื่อเข้าไปสำรวจป่าหมอก
"ได้เลย เชิญนายท่านนั่งรอสักครู่ขอรับ" เสี่ยวเอ้อคนนั้นบอกกับฮวงเฟิง
ไม่นานเกินรอ เสี่ยวเอ้อก็ได้เสริฟอาหารสองสามอย่างให้กับฮวงเฟิง และใจทุก ๆ ครั้งที่เขาเสริฟอาหารแต่ละจานเขาจะแนะนำชื่ออาหาร อาหารพวกนี้เป็นอาหารพิเศษในโลกแห่งนี้ ทั้งเปื่อยยุ่ย อ่อนนุ่ม รสชาติดี อุดมไปด้วยไขมัน จากคำแนะนำของเสี่ยวเอ้อ อาหารจานนั้นทำมากจากเนื้ออสูรซึ่งถือว่าเป็นอาหารพื้นเมือง แม้กระทั่งชาวบ้านสามัญก็สามารถหาทานได้ เนื่องจากมันเป็นอาหารพื้น ๆ ราคาจึงไม่แพงเกินไป และอาหารท้องถิ่นก็ทำให้ฮวงเฟิงรู้สึกดี เขาลิ้มลองอาหารที่ทำมาจากเนื้ออสูร หรือแม้กระทั่งผักจิตวิญญาณอยู่เงียบ ๆ เพียงลำพัง
"ถ้าหากฉันสามารถเอาเนื้ออสูรกับผักพวกนี้กลับไปยังโลกปัจจุบันได้ละก็ มันต้องทำเงินให้ฉันได้แน่ ๆ" ฮวงเฟิงแอบคิดในใจ
ในโลกปัจจุบันนั้นมีคนตะกละอยู่มากมมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกคนรวยที่ชอบตระเวนชิมอาหารไปทั่ว ต่อให้อาหารพวกนั้นจะมีราคาแพงแค่ไหนพวกเขาก็ยินดีจ่ายโดยไม่นึกลังเลใจสักนิด และแน่นอนว่าในโลกปัจจุบันไม่มีอาหารจำพวกนี้อยู่ นอกจากนั้นแล้วรสชาติของมันไม่เลวเลยที่เดียว เพราะฉะนั้นแล้วฮวงเฟิงกล้าการันตีเลยว่าของพวกนี้จะต้องถูกนำไปยังโลกปัจจุบันอย่างแน่นอน ฮวงเฟิงมีความคิดที่จะนำสิ่งของจากโลกอื่นไปยังโลกปัจจุบันตั้งแต่ตอนแรก จนกระทั่งตอนนี้เขาก็ยังหาวิธีที่จะนำมันกลับไปได้ เว้นเสียแต่จะต้องหาสิ่งอื่นมาแทนและทำการเทเลพอร์ตจากมิติอื่นกลับไปยังโลกปัจจุบัน ถ้าหากเขาต้องการหารายได้จากสิ่งของพวกนี้ เขาก็ต้องการมันในปริมาณมาก อีกเหตุผลหนึ่งคือเขาไม่สามารถอธิบายถึงแหล่งที่มาของสิ่งเหล่านี้ ถ้าหากมีใครต้องการที่จะสร้างปัญหาให้กับเขาละก็แน่นอนว่ามันต้องเป็นปัญหาใหญ่แน่
ดังนั้นฮวงเฟิงจึงต้องใคร่ครวญถึงเรื่องนี้ให้มาก
"เฮ้อ เจ้ารู้หรือเปล่า? ตระกูลโอวหยางถูกโจมตีเมื่อวานนี้"
ในขณะที่ฮวงเฟิงกำลังลิ้มรสอร่อยของอาหารและดื่มสุราอยู่นั่น ผู้ชายจำนวนหนึ่งที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าประชับดูทะมัดทะแมงได้พูดคุยกันขณะที่ดื่มกินกันอยู่ที่โต๊ะของพวกเขา เมื่อฮวงเฟิงปรายตาสังเกตคนพวกนั้น ดูจากเสื้อผ้าที่พวกเขาสวมอยู่ รวมถึงอาวุธประจำกายที่วางอยู่ใกล้ตัวพวกเขา สิ่งเหล่านี้บ่งบอกได้ว่าคนเหล่านี้ไม่ใช้ชาวบ้านธรรมดา
"ข้ายังได้ยินมาอีกว่าโอวหยางเทียนกับบุตรชายของเขา โอวหยางชิงเหวิน ทั้งสองคนถูกนักฆ่าลอบสังหาร ลือกันว่านักฆ่าเป็นคนของกองกำลังทหารรับจ้างกลุ่มโลหิตสีชาด" ชายอีกคนที่นั่งติดอยู่กับชายคนแรกพูดขึ้น
"นักฆ่าเหรอะ?" เมื่อได้ยินเช่นนั้นใครจะคิดว่าชายคนแรกจะทำเสียงเย้ยหยันขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกเดียดฉันท์ "เจ้าคิดจริง ๆ เหรอว่าโอวหยางเทียนกับลูกชายถูกคนของกองกำลังทหารรับจ้างกลุ่มโลหิตสีชาดสังหาร?"
"เช่นนั้น หมายความว่าเรื่องนี้ต้องมีอะไรแอบแฝงอย่างนั้นเหรอ?" และนั่นก็ทำให้คนอื่นรู้สึกสนใจมากขึ้น
"ข้าเองก็ไม่มั่นใจหรอกว่ามีอะไรแอบแฝงหรือไม่ แต่คนในตระกูลโอวหยางมีเรื่องขัดแย้งกันเองอยู่บ่อย ๆ แล้วเข้าเห็นคนของกองกำลังทหารรับจ้างกลุ่มโลหิตสีชาดเข้ามาในเมืองบ้างหรือเปล่า? ต่อให้พวกมันแข็งแกร่งก็จริง แต่ที่นี่คือเมืองเฮาเทียน เป็นอาณาเขตของตระกูลโอวหยาง อีกอย่างตระกูลโอวหยางเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองนี้ บางทีไม่แน่ว่าพวกเขาจะปะทะกับกองกำลังทหารรับจ้างกลุ่มโลหิตสีชาดที่อื่นก็อาจเป็นไปได้"
"ตระกูลโอวหยางเป็นตระกูลใหญ่มีอิทธิพลในแถบนี้ ถึงแม้ว่ากองกำลังทหารรับจ้างกลุ่มโลหิตสีชาดจะเป็นหนึ่งในกลุ่มกองกำลังของทางการ อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่มีทางลงมือกับตระกูลโอวหยางในเมืองเฮาเทียนได้"
"คนของกองกำลังทหารรับจ้างกลุ่มโลหิตสีชาดมักจะแฝงตัวและแอบซุ่มโจมตีอยู่นอกเมือง สังหารผู้คนที่อาศัยอยู่นอกเมือง รวมถึงคนของตระกูลโอวหยางที่อาศัยอยู่รอบเมืองด้วย แต่ในเวลาเช่นนี้พวกมันไม่กล้าที่จะบุกเข้ามาในเมืองแน่ เช่นนี้แล้วนักฆ่าที่ลอบสังหารโอวหยางเทียนและลูกชายจะเป็นนคนของกลุ่มโลหิตสีชาดไปได้อย่างไรกัน?" ผู้ชายคนแรกยังคงพูดต่อไปเรื่อย ๆ
"นั่นนะสิ" คนอื่นที่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกคล้อยตามความคิดเขาด้วย
"แล้วโอวหยางเทียนตายได้อย่างไรกัน? หรือว่าจะมีเป็นใครสักคนในตระกูลโอวหยาง?" ใครอีกคนได้เอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย
"นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่าแปลก แต่ข้าเคยได้มีโอกาสได้ช่วยงานของตระกูลโอวหยาง ดังนั้นพอเขาใจสถานการณ์ภายในของพวกเขาบ้าง ดูเหมือนความสัมพันธ์ระหว่างโอวหยางเทียนกับเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลจะไม่ค่อยดีนัก นอกจากนั้นแล้วในช่วงหลายปีมานี้นับวันก็ยิ่งแย่ลง"
"หรือเจ้าคิดว่าจะเป็นเหล่าผู้อาวุโสพวกนั้น?"
"ข้ายังไม่ได้พูดอะไรเลย เพียงแต่หลังที่โอวหยางเทียนตายไป คนที่ขึ้นสืบตำแหน่งต่อจากเขาคือโอวหยางจง ไม่เพียงแค่นั้นโอวหยางจงยังเป็นบุตรเขยของผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลโอวหยาง!" ผู้ชายคนนั้นเปิดเผยความลับออกมา
"พอเถอะ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องของตระกูลโอวหยางอีกต่อไปแล้ว มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเรามากนัก ต่อให้พวกเขาจะเปลี่ยนผู้นำตระกูลก็คงไม่ส่งผลกระทบต่อเราเท่าไหร่นัก" ใครอีกคนพูดขึ้น
"ไม่เลว ไม่เลว" แล้วอีกคนก็เสริมขึ้น
"งั้นเราหันมาพูดถึงการร่วมมือกันของพวกเราในครั้งนี้ดีกว่า ข้าไม่รู้ว่าข้อมูลที่พวกเราได้รับมาก่อนนหน้าจะเป็นจริงหรือไม่"
"เห็นจะเป็นเรื่องจริง เจ้าไม่เคยสังเกตหรือไงว่าช่วงนี้มีคนต่างถิ่นพากันเข้ามาในเมืองเฮาเทียนมากขึ้น?" ชายอีกคนพูดขึ้น
"นั่นสิ เกี่ยวกับเรื่องในป่าหมอกครั้งนี้ เห็นที่เราจำเป็นต้องต่อสู้กับยอดฝีมือระดับเดียวกับพวกเราจำนวนมาก บางทีก็อาจทำให้โอกาสของพวกเราน้อยลงไปด้วย
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved