USB:บทที่ 585 หาเรื่อง

อย่างไรก็ตามในตอนนั้น เทียนจุนก็ยังไม่เชื่อว่ารถสปอร์ตหรูที่เขาเห็นอยู่นี้จะเป็นของฮวงเฟิงจริง ๆ ถึงแม้จะรู้ว่าฮวงเฟิงนั้นพอมีเงินและดูเหมือนว่าจะมีโรงงานบางอย่างด้วย แต่เขาก็ไม่ได้ดูร่ำรวยมากมายขนาดนั้นแน่  มิเช่นนั้นฮวงเฟิงไม่เช่าบ้านอยู่ เขาคงซื้อบ้านสักหลังไปแล้ว ถ้าเขาจะมีเงินสักสองสามล้านก็อาจเป็นไปได้ แต่เงินเพียงแค่นั้นจะสามารถซื้อรถหรูแบบนี้ได้อย่างไรกัน มันเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นแม้กระทั่งในเวลานี้หลังจากที่เขาเห็นฮวงเฟิงเดินตรงไปที่รถสปอร์ตคันนั้น เทียนจุนก็ยังคงไม่เชื่ออยู่ดี

"มันเป็นรถของผม" ฮวงเฟิงกล่าว และจนกระทั่งฮวงเฟิงใช้กุญแจเปิดปลดรถคันนั้นเทียนจุนจึงเชื่อคำพูดของเขา และรถคันนี้เป็นของฮวงเฟิงจริง ๆ

"รถคันนี้ของคุณไม่เลวเลยทีเดียว!" หลังจากที่เข้าไปนั่งในรถของฮวงฟิงแล้ว เทียนจุนก็กวาดสายตาสำรวจภายในรถแล้วพูดขึ้นด้วคความอิจฉา

ผู้ชายทุกคนล้วนหลงใหลในรถยนต์ไม่เว้นแม้แต่เทียนจุน สำหรับฮวงเฟิงแล้วในเมื่อตอนนี้เขากลายเป็นพี่ใหญ่ของเทียนจุนไปแล้ว เขาก็ต้องแสดงความมีน้ำใจต่อน้องชายมากขึ้น ฮวงเฟิงคิดที่ซื้อรถยนต์ให้เขาสักคันเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบรถพวกนั้นกับรถของฮวงเฟิงแล้ว รถพวกนั้นก็เทียบไม่ได้เลย

"แน่นอน นี่มันรถรุ่นลิมิตแต็ด" ฮวงเฟิงพูดขึ้นขณะที่เขาสตาร์ทรถด้วยความคล่องแคล่ว

ตราบใดที่มีคนอื่นอยู่ด้วยฮวงฟิงเลือกที่จะขับรถด้วยตัวเอง แทนที่จะใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ถึงแม้ว่าในโลกใบนี้จะมีรถยนต์ที่สามารถใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติอยู่บ้างแล้ว แต่รถยนต์พวกนั้นก็ไม่สามารถเปรียบเทียบกับรถของฮวงฟิงได้ เมื่อได้ยินดังนั้นเทียนจุนก็พยักหน้าเล็กน้อย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ราคาที่แน่นอนของรถคันนี้ แต่หลังจากสำรวจดูแล้ว เชื่อว่าฮวงเฟิงไม่ได้พูดเกินจริง สำหรับรถแบบนี้ไม่ใช่สิงที่ผลิตขึ้นโดยใช้เชื้อเพลิง และในขณะเดียวกันเทียนจุนเองก็พอจะเข้าใจถึงสถานการณ์การเงินของฮวงเฟิงในช่วงนี้ เขาไม่ได้คิดไปเองเลย ฮวงเฟิงในเวลานี้จะต้องร่ำรวยมาก เทียนจุนสามารถค้นพบลักษณะเด่นของรถคันนี้ได้อย่างรวดเร็ว มันสามารถควบคุมการสั่นสะเทือนได้อย่างยอดเยี่ยม ถึงแม้ฮวงเฟิงจะขับด้วยความเร็วสูง แต่เมื่อเขานั่งอยู่ในรถกลับไม่รู้สึกถึงการสั่นสะเทือนเลยแม้แต่น้อย

อาศัยเทียนจุนเป็นคนนำทาง ใช้เวลาไม่นานฮวงเฟิงก็สามารถมาถึงโกลเด้นท์เจดไนท์คลับจนได้ ฮวงเฟิงมองดูไนท์คลับที่ถูกสว่างไสวไปด้วยแสงนีออนหลากสีอย่างไม่รู้สึกสะทกสะท้าน

"ที่นี่แหละ" เทียนจุนก้าวลงจากรถแล้วบอกกับฮวงเฟิง

ฮวงเฟิงพยักหน้าแล้วพูดขึ้น "เข้าไปข้างในกัน ไปพบฟางหัวโตสักหน่อย"

หลังจากที่ฮวงเฟิงและเทียนจุนเข้าในไนต์คลับแห่งนั้นได้ไม่นาน เด็กหนุ่มรูปร่างเปราะบางคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาพวกเขาแล้วพูดว่า

"หัวหน้ามาแล้วเหรอครับ?"

"อืม ฟางหัวโตมาหรือยัง?" เทียนจุนถาม แน่นอนว่าเขารู้จักกับเด็กหนุ่มคนนี้

"เขาอยู่นี้แล้ว มาถึงสักครึ่งชั่วโมงได้แล้ว เขากับผู้ติดตามอีกสามคนอยู่ที่ห้อง 308 ชั้น 3" เด็กหนุ่มรายงาน

ในเวลานั้นฮวงเฟิงเข้าใจได้ทันที เด็กหนุ่มคนนี้คือสายของเทียนจุนที่แทรกซิมอยู่ที่นี้  และเขาก็คอยจับตามองฝางหัวโตก่อนที่พวกเขาจะมาถึง

อันที่จริงแล้วเทียนจุนรู้ดีว่าการที่ฟางหัวโตรับหน้าที่จัดการกับฮวงเฟิงนั้นเป็นเรื่องบังเอิญ ก่อนหน้านี้เขาเพียงแค่ให้คุ้มครองพื้นที่ส่วนน้อยเท่านั้น และเขาก็ไม่คิดที่จะขยายเขตความคุ้มครอง แต่ฟางหัวโตรู้ดีว่าถ้าหากเขาไม่ขยายเขตคุ้มครองในตอนนี้เขาก็จะตกเป็นเป้าโจมตีของคนอื่น พื้นที่เขตปกครองของฟางหัวโตอยู่ติดกับเขตปกครองเทียนจุนในตอนนี้ ดังนั้นเมื่อเขารู้ว่าเทียนจุนกำลังต้องการขยายพื้นที่และอำนาจของตัวเองในช่วงนี้ ฟางหัวโต้ก็เริ่มรุกรานเทียนจุนสองถึงสามครั้ง อาศัยช่วงขณะที่อำนาจเทียนจุนยังไม่มั่นคงเพื่อที่จะโค่นเขาลง ทำให้เทียนจุนไม่สามารถขยายอนาเขตได้ในเวลาอันสั้นเนื่องจากต้องยังคงต้องคอยภวงอยู่กับการรักษาการความปลอดภัยเป็นพื้นฐาน ด้วยเหตนี้จึงทำให้เขาต้องตกเป็นศัตรูของฟางหัวโตได้ไม่ยาก และเด็กหนุ่มตรงหน้าเขาก็คือสายของเทียนจุนที่แทรกซึมอยู่ในเขตของฟางหัวโต ถึงแม้ว่าเขาจะเพิ่งเข้ามาแฝงตัวอยู่ได้ไม่นาน แต่ด้วยความฉลาดและคล่องแคล่วของเขา เขาจึงได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้า ทำให้คอยสืบเรื่องของฟางหัวโตได้ไม่ยาก

วันนี้เด็กหนุ่มก็รู้มาว่าฟางหัวโตได้รับมอบหมายจากใครคนหนึ่งให้จัดการกับฮวงฟิง  ถึงแม้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะไม่รู้ว่าฮวงเฟิงคือใครและรู้สึกไม่คุ้นหน้าฮวงเฟิงก็ก่อนเลยก็ตาม แต่เขาก็ยังรายงานเรื่องสำคัญบางอย่างกี่เทียนจุน เด็กหนุ่มคนนั้นบอกว่าฟางหัวตัวให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ราวกับว่าฐานะของผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้จะไม่ธรรมดาเลย  ถ้าหากฟางหัวโตยังต้องการที่จะรักษาเขตปกครองของเขาต่อไป เขาจะต้องจัดการเรื่องนี้ให้สำเร็จ

"เอาละ ออกไปก่อน ที่เหลือฉันจะจัดการเอง" เทียนจุนกล่าว

"หัวหน้า เรียกพี่น้องของเรามาเพิ่มอีกดีกว่า ถึงแม้ว่าฟางหัวโตจะมีคนติดตามมาด้วยแค่สามคน แต่เขาก็ยังมีคนจำนวนมากปะปนอยู่ที่นี่" เด็กหนุ่มคนนั้นพูดขึ้นด้วยความเป็นกังวล

"ไม่ต้องห่วง ฉันมีสุดยอดฝีมืออยู่ข้าง ๆ " ในเวลานั้น เทียนจุนทำได้แค่เพียงเลือกที่จะเชื่อมั่นในตัวฮวงเฟิงเท่านั้น

เด็กหนุ่มคนนั้นหันมามองฮวงฟิงด้วยความสงสัย ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าผู้ชายตรงหน้าจะมีความสามารถมากแค่ไหน แต่ในเมื่อเทียนจุนพูดเช่นนั้น แน่นอนว่าฝีมือของผู้ชายคนนี้ต้องไม่ธรรมดา เด็กหนุ่มคนนั้นจึงไม่ได้พูดอะไรอีก เขาแทรกตัวหายไปในท่ามกลางกลุ่มผู้คนอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเขาไม่เคยปรากฏตัวขึ้นมาก่อน

"น้องชายคนนี่ท่าทางดูไม่เลวเลย" หลังจากที่เด็กหนุ่มคนนั้นจากไปแล้ว ฮวงเฟิงก็พูดขึ้นกับเทียนจุน

"อืม เขาไว้ใจได้ นอกจากนั้นแล้วยังเป็นคนมีมันสมอง สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ผมอยากที่จะรอดูอีกนิด ถ้าหากไม่ใช่เรื่องที่ฟางหัวโตกำลังจะจบ ผมก็อยากสอนเขาให้ดี" เทียนจุนบอก

"ผมคิดว่าคุณคงไม่ต้องรอนานแล้ว" ฮวงฟิงพูดพร้อมกับรอยยิ้ม

เทียนจุนรู้สึกสับสนนิดหน่อย  ความจริงแล้วการที่เขาและฮวงเฟิงเข้ามาที่นี่นั้น ภายในใจของเทียนจุนก็นึกสึกสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าฮวงเฟิงจะจัดการกับเรื่องนี้ได้อย่างไร? ในเมื่อเห็นอยู่ว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เขารู้จักฟางหัวโตดี ดังนั้นเรื่องนี้ท่าจะไม่ดีแน่ พวกเขาควรรีบออกไปจากที่นี่ดีกว่าไหม? ใช่แล้ว ออกไปก่อนดีกว่า เทียนจุนนึกไม่ออกเลยจริง ๆว่าฮวงเฟิงจะเอาอะไรไปสู้กับอีกฝ่าย? ในเมื่ออีกฝ่ายมีคนจำนวนหนึ่งคอยคุ้มกัน การที่ฮวงเฟิงจะเข้าถึงตัวฟางหัวโตมันเป็นเรื่องยากมาก  นอกจากนนั้นแล้วคนพวกนั้นจะต้องโต้กลับเป็นแน่ เทียนจุนไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าฮวงเฟิงคิดที่จะทำอะไรกันแน่ อีกทั้งฮวงเฟิงเองก็ไม่ได้ปริปากบอกเล่าถึงแผนการของเขาในครั้งนี้ นอกจากเขาคิดที่จะจัดการกับเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นแล้ว ฮวงเฟิงยังคิดที่จะยึดครองพื้นที่ของฟางหัวโตอีกด้วย