ตอนที่ 518

USB:บทที่ 518 ถ่ายทอดลมปราณ

ไป๋เสี่ยวโหลวก็ไม่สามารถฝืนทนได้อีก จึงหมดสติไป เดิมที่การที่เธอต้องสูญเสียพลังลมปราณไปอย่างกะทันหันนั้น ทำให้ร่างกายอ่อนแอกว่าคนทั่วไปแล้ว มิหนำซ้ำแล้วยังต้องมาได้รับผลกระทบจากการต่อสู่เช่นนี้ด้วย เธอสามารถทนได้ถึงตอนนี้ก็นับว่าดีมากแล้ว

ถึงแม้ว่าฮวงเฟิงจะไม่รู้ว่าไป๋เสี่ยวโหลวต่อว่าเขาเพราะเหตุใด แต่ในเมื่อเธอหมดสติไปแล้ว เขาก็ไม่อาจซักไซร้ถ้ามอะไรได้อีก ในขณะนั่นกลุ่มตำรวจติดอาวุธร้ายแรงก็เข้ามาถึงที่เกิดเหตุ ฮวงเฟิงจำตำรวจคนที่เข้ามาเป็นคนสุดท้ายได้

"หัวหน้าหวัง ทำไมถึงมาด้วยตัวเองละครับ?" ฮวงเฟิงพูดขึ้นกับตำรวจที่เข้ามาทีหลัง เขาเมินเฉยกลุ่มตำรวจติดอาวุธร้ายแรงที่เข้ามาก่อนแล้วเล็งปืนมาที่เขา

พวกตำรวจที่เข้ามาก่อน เห็นภาพน่าอนารถภายในห้อง มีเพียงฮวงเฟิงเท่านั้นที่ยังมีสติอยู่ ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ พวกเขาปฏิบัติต่อฮวงเฟิงราวกับว่าเขาคือบุคคลอันตราย ตำรวจพวกนั้นหันปืนมาที่เขา สั่งให้ยกมือขึ้นบนหัวแล้วนั่งลงกับพื้นพร้อม ๆ กัน และเมื่อผู้กำกับหวัง คนที่ฮวงเฟิงรู้จักเดินเข้ามานั้น ฮวงเฟิงเองก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายซึ่งเป็นถึงตำรวจผู้มียศถึงผู้กำกับจะมาด้วยตัวเอง นอกจากนั้นแล้วเขายังเป็นคนใกล้ชิดของผู้บัญชาการชิว ผู้กำกับหวังคนนี้คือผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากผู้ผู้บัญชาการชิว หลังจากที่พ่อของชิวหนิวซวงได้พลักดันเขาขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นแล้ว  ผู้กำกับหวังสามารถก้าวจากตำแหน่งหัวหน้าระดับสาม ขึ้นสู้ตำแหน่งผู้กำกับของมณฑลเจียง ทำหน้าที่ควบคุมตำรวจทั้งหมดของมณฑล

"คุณฮวง ทำไมคุณถึงมาอยู่นี้?" เมื่อผู้บัญชาการหวังเห็นฮวงเฟิงในที่เกิดเหตุสีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ นอกจากนั้นแล้วเขายังรีบออกกำสั่งให้ตำรวจพวกนั้นลดอาวุธลงทันที

นี่มันเรื่องตลกอะไรกันแม้แต่ผู้บัญชาการชิวยังต้องไว้หน้าฮวงเฟิง ดูเมือนว่าเขาจะเชื่อมั่นในตัวฮวงเฟิงเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นพวกเขายังมีความสัมพันธ์อันแน่นเฟ้นต่อกัน ดังนั้นสำหรับผู้บัญชาการชิวแล้วการที่จะรักษาไว้ซิ่งมิตรภาพระหว่างเขาและฮวงเฟิงนั้นน่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า  และเรื่องนี้ก็ถูกส่งต่อมายังผู้สืบทอดของชิว ไม่เพียงแค่นั้นผู้กำกับหวังซึ่งเป็นผู้สืบทอดของผู้บัญชาการชิวยังรู้ความลับอื่นที่ตำรวจพวกนี้ไม่เคยได้รู้ อย่างเช่นเรื่องของถงเฉียบจุนที่ทำให้ทั้งผู้บัญชาการชิวและตัวเขาเองสามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น สำหรับเรื่องนี้แล้วเกี่ยวข้องถึงความแข็งแกร่งของฮวงเฟิงด้วย ผู้บัญชาการชิวได้บอกให้ผู้กำกับหวังรู้ว่าฮวงเฟิงได้มีส่วนในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก  สามารถพูดได้อีกอย่างว่า ถ้าหากไม่มีฮวงเฟิงเพวกเขาไม่สามารถจัดการกับเรื่องยากเช่นได้สำเร็จ  และพวกเขาไม่มีทางก้าวขึ้นถึงตำแหน่งปัจจุบันนี้ได้ สำหรับเรื่องนี้ ภายในใจผู้กำกับหวังยังรู้สึกขอบคุณฮวงเฟิงเป็นอย่างมาก และหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะรักษามิตรภาพไว้ต่อไป ไม่เพียงแค่นั้นผู้บัญชาการชิวยังบอกถึงฐานะของฮวงเฟิง เขาคือสมาชิกสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ

เมื่อผู้กำกับหวังเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขามองไปที่ฮวงเฟิงอย่างเข้าใจได้ถึงบางอย่าง เห็นได้ชัดว่าฮวงเฟิงต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แน่นอนว่าเรื่องนี้ต้องไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ

"พวกนี้เป็นกลุ่มกองกำลังทหารรับจ้างต่างชาติ ผมไม่รู้ว่าพวกเขาแอบติดอาวุธเข้ามาได้ยังไง แต่คุณควรนำตัวพวกมันไปสืบสวน ถ้าหากคุณได้อะไรเพิ่มเติม สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติจะจัดการกับเรื่องนั้นเอง" ฮวงเฟิงชี้ไปที่กลุ่มคนที่นอนอยู่บนพื้นแล้วพูดกับผู้กำกับหวัง

"ได้ครับ ไม่มีปัญหา" ผู้กำกับหวังตอบรับโดยที่ไม่ได้รู้สึกตะขิดตะขวนใจกับคำสั่งของฮวงเฟิงแม้แต่น้อย

หลังจากผู้กำกับหวังและตำรวจพวกนั้นจากไปแล้ว เหลือแค่เพียงฮวงเฟิงและไป๋เสี่ยวโหลว พวกเขาไม่ได้ไปโรงพยาบาล แต่ฮวงเฟิงกลับพาตัวไป๋เสี่ยวโหลวไปยังที่พักของเขาแทน เป็นไปได้ว่าไป๋เสี่ยวโหลวได้รับบาดเจ็บภายใน ซึ่งเป็นผลกระทบจากการใช้วิชาสิงห์โตคำราม ซึ่งคนพวกนั้นเองก็เช่นกัน เพียงแต่ว่าร่างกายของพวกมันแข็งแกร่งกว่าไป๋เสี่ยวโหลวในเวลานี้ ซึ่งอาการบาดเจ็บไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก แน่นอนว่าวิชสิงห์โตคำรามของฮวงเฟิงนั้นยังไม่ได้ถึงขั้นสุดยอด มิเช่นนั้นแล้วพวกเขาคงไม่มีโอกาสรักษาอาการบาดเจ็บ

เมื่อฮวงเฟิงกลับมาถึงที่พัก ทหารรับจ้างทั้งสามคนที่พวกเขาจับตัวไว้ยังคงไม่ได้สติ ดังนั้นฮวงเฟิงจึงไม่ได้ให้ความสนใจกับคนพวกนั้น เนื่องจากไป๋เสี่ยวโหลวเองก็ยังไม่ได้สติเช่นกัน ฮวงเฟิงจับร่างของไป๋เสี่ยวโหลวให้นั่งลงบนเตียง จากนั้นก็ทาบว่ามือทั้งสองข้างลงบนแผ่นหลังของเธอ ถ่ายทอดพลังลมปราณของเขาเข้าไปในตัวเธอ พลังลมปราณหมุนวนทั่วทั้งตัวเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ เนื่องจากฮวงเฟิงเคยแต่ใช้ศิลปะการต่อสู้ทางวิญญาณรักษาขาของเทียนหลิน  ดังนั้นเขาจึงไม่คุ้นเคยกับการใช้พลังลมปราณในการรักษามากนัก และนี้ก็คือเหตผลที่เขาไม่นำตัวไป๋เสี่ยวโหลวส่งโรงพยาบาลแต่เลือกที่จะพาเธอมาที่นี่แทน

พลังลมปราณค่อย ๆ หมุนเวียนอยู่ในกายของไป๋เสี่ยวโหลว ฮวงเฟิงจำต้องระวังให้มากขึ้น ถ้าหากเกิดข้อผิดผลาดขึ้นแม้แต่น้อยก็จะส่งผลให้อวัยวะภายในของเธอถูกทำลาย ไม่เพียงแต่เธอคนเดียวแต่รวมถึงตัวเขาเองด้วย!

ฮวงเฟิงไม่เพียงแต่ถ่ายทอดพลังภายในของเขาเข้าไปในตัวไป๋เสี่ยวโหลวเท่านั้น แต่เขายังถ่ายทอดศิลปะการต่อสู้ทางวิญญาณที่แปลกประหลาดให้กับเธอด้วย ซึ่งทำให้ผลที่ได้นั้นดีกว่าการใช้พลังลมปราณบริสุทธิ์เพียงอย่างเดียว อีกทั้งมันยังช่วยลดอาการบาดเจ็บสาหัสของเธอได้อีกด้วย

ไป๋เสี่ยวโหลวรู้ดีว่าฮวงเฟิงได้ใช้พลังภายในของเขารักษาอาการบาดเจ็บให้กับเธอ อย่างที่รู้กันอยู่แล้วปกติคนทั่วไปที่มีพลังภายไม่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บให้คนอื่นได้ นอกจากจะต้องเป็นผู้มีพลังภายในล้ำลึก เมื่อนึกเหตุการที่เกิดขึ้นในโรงแรม หัวหน้าสาวก็พอจะเดาได้ว่า พลังภายในของฮวงเฟิงในขณะนี้ล้ำลึกกว่าขั้นสูงสุดที่เธอเคยมี

"หรือว่าฮวงเฟิงจะเป็นอัจริยะทางด้านศิลปะการต่อสู้ที่หาได้ยาก?" ไป๋เสี่ยวโหลวครุ่นคิดในใจ

เธอเคยตรวจสอบการฝึกฝนของฮวงเฟิงก่อนหน้า แต่เขาก็ดูไม่ต่างไปจากคนธรรมดาทั่วไป เขาสามารถกระโดดข้ามขั้นได้อย่างรวดเร็ว ตอนนั้นเธอเพียงแค่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังระดับสามของฮวงเฟิงเท่านั้น ที่แย่กว่านั้น เขาเพิ่งจะเริ่มฝึกฝนในเวลาสั้น ๆ เท่านั้น แต่เวลานี้เขากลับมีพลังภายในที่ล้ำลึกจนสามารถรักษาอาการบาดเจ็บให้ผู้อื่นได้

"เอาละ ในเมื่อคุณรู้สึกตัวแล้ว ก็ลองเคลื่อนลมปราณที่ดีที่สุดของคุณดู ผลถ่ายทอดพลังภายในเข้าไปในตัวคุณแล้ว คิดว่าคุณน่าจะควบคุมมันได้" ฮวงเฟิงพูดขึ้นกลังจากที่รู้ว่าไป๋เสี่ยวโหลวรู้สึกตัวแล้ว

ไป๋เสี่ยวโหลวเข้าใจคำพูดของฮวงเฟิงได้ดี  เธอหยุดคิดทุกอย่าง แล้วเริ่มควบคุมพลังลมปราณบริสุทธิ์ให้ไหลวนไปทั่วร่าง รวามถึงการฝึกฝนของเธอเองด้วย

หลังจากที่พลังลมปราณไหลวนอยู่ในกายถึงสมรอบ ฮวงเฟิงก็ยกฝ่ามือทั้งสองข้างของเขาออกจากแผ่นหลังของไป๋เสี่ยวโหลว ร่างกายของฮวงเฟิงเปียกชื่นไปด้วยเหงื่อทั่วทั้งตัว นั่นเป็นเพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาร่างกายของเขาไม่ได้รับการพักผ่อนเลย

"ขอบใจ" ในเวลานี้ไป๋เสี่ยวโหลวเข้าใจความหมายในท่าทีของฮวงเฟิงได้ดี หญิงสาวจับมือฮวงเฟิงแล้วกล่วขอบคุณเขาอย่างจริงใจ