ตอนที่ 64

USB:บทที่ 64 สับสน

หลังจากที่ฮวงเฟิง เดินออกจากห้องไป ซูหยูโม่ก็ปิดประตูลง จากนั้นเธอก็เอนหลังพิงประตู พลางจ้องมองชามโจ๊กบนโต๊ะ ด้วยความงุนงง

ตั้งแต่เล็กมา ฮวงเฟิงเป็นคนแรก นอกจากพ่อแม่ของเธอ ที่ห่วงใยเธอมาก และแม้แต่เซี่ยเมิ่งเจียว เพื่อนสนิทของเธอ ก็ไม่สนใจเธอมากขนาดนั้น ไม่ใช่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองไม่ดี แต่เซี่ยเมิ่งเจียวไม่รู้สึกเป็นห่วงซูหยูโม่เพราะเธอสามารถ ดูแลตัวเองได้ เดิมทีฮวงเฟิงก็สร้างความประทับใจต่อซูหยูโม่ แต่ตอนนี้ความรู้สึกนี้ กลับยิ่งทวีความรุนแรง

ซูหยูโม่นั่งบนโซฟา และตักโจ๊กสีขาวอุ่น ๆ ขึ้นมา เธอจิบเบา ๆ และรู้สึกว่ามันหวานเป็นพิเศษ ด้วยความเร็วของฮวงเฟิง ที่กลับออกไปในตอนแรก ทำให้เธอเดาได้ว่า เขาไปซื้อโจ๊กมาจากที่ไหน

“ อืม บางทีร้านนี้อาจจะเปลี่ยนแม่ครัวก็เป็นได้” ในขณะที่ซูหยูโม่ลิ้มรสรสชาติอย่างช้า ๆ เธอก็ครุ่นคิดอย่างเงียบ ๆ จากนั้นเธอก็จัดการโจ๊กอย่างรวดเร็ว และรู้สึกสบายท้องมาก ๆ

เมื่อฮวงเฟิงบอกว่า เธอนั้นอาเจียน ซูหยูโม่ก็สังเกตเห็นรอยเปื้อนบนใบหน้าของเธอ ไม่จำเป็นต้องบอกว่าฮวงเฟิงรู้ได้อย่างไร เป็นเพราะเธออ้วกต่อหน้าฮวงเฟิงนั่นเอง ปกติแล้วเธอนั้นดูฉลาดมาก และมีความสามารถ ต่อหน้าคนอื่น ทำไมเธอถึงทำตัวโง่ ๆ ต่อหน้า ฮวงเฟิงอยู่เสมอ และเปิดเผยด้านที่ไม่อยากให้ใครเห็นต่อหน้าเขา?

จริง ๆ แล้วซูหยูโม่นั้น จะระมัดระวังตนเองในงานเลี้ยง แม้ว่าเธอจะเข้าร่วมงานเลี้ยงอยู่บ่อย ๆ แต่เธอก็แทบไม่ได้ดื่มอะไร และไม่เคยเมา เหมือนที่เคยทำในวันนี้

บริษัทนั้นต้องการสร้างเสถียรภาพกับลูกค้า ดังนั้นเธอจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากดื่มกับพวกเขา ความอดทนต่อแอลกอฮอล์ของเธอนั้นต่ำมาก และด้วยทักษะการขับรถของฮวงเฟิง เธออดไม่ได้ที่จะเมารถ และหลังจากนั้นไม่นานก็อาเจียนออกมาจนหมดตัว

"นี่เขาเป็นศัตรูแต่ชาติปางไหนของฉันหรือเปล่า?" ซูหยูโม่คิดในใจ เนื่องจากเธอได้โต้เถียงกับฮวงเฟิง ดูเหมือนว่าเธอจะแสดงอารมณ์บางอย่างที่แตกต่างจากปกติ

ทางด้านของฮวงเฟิงกำลังเดินกลับออกมาจาก บ้านของซูหยูโม่

“ เฮ้อ.....ถ้าฉันรู้ก่อนหน้านี้ ฉันคงยืมรถเธอไปแล้ว” ฮวงเฟิงนั้นกำลังรอแท็กซี่อย่างขมขื่น เขาทิ้งรถของซูหยูโม่ ไว้กับเธอ และทิ้งกุญแจ ไว้ในบ้านของเธอ ทั้งหมดนี้ เขาทำได้เพียงนั่งแท็กซี่และกลับบ้าน

เมื่อ ฮวงเฟิงกลับถึงที่พักของเขา มันก็ดึกแล้ว หลังจากทรมานตัวเอง และส่งคนกลับไปและกลับมา รวมทั้งเสียเวลากับซูหยูโม่ มันก็ดึกแล้ว

อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามันจะดึกมาก แต่สิ่งแรกที่ฮวงเฟิงทำ เมื่อเขากลับไปที่ที่พักของเขา คือการตรวจสอบกล่องจักรวาล อย่างไรก็ตาม เขานั้นต้องพบกับความผิดหวังเนื่องจากเขาไม่พบอะไรเลย

แม้ว่าจะกังวลใจ แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้วยความกังวลใจอย่างเดียวได้ มันขึ้นอยู่ช่วงเวลาของกล่องจักรวาล ทำได้เพียงแค่รอเวลาเท่านั้น

ดังนั้นฮวงเฟิงจึง ไปอาบน้ำ และพักผ่อนด้วยอารมณ์ที่หดหู่ หลังจากที่ทรมานตัวเองมานานในวันนี้ แม้ว่าร่างกายของเขาจะดีขึ้นเล็กน้อย แต่เขาก็ยังรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย

สำหรับ ฮวงเฟิงวิธีการพักผ่อนของเขา ยังคงเป็นการพักผ่อนผ่านการทำสมาธิ การทำสมาธิไม่เพียง แต่จะช่วยให้เขาพักผ่อนได้ดีขึ้น แต่ยังสามารถเพิ่มการสะสมของพลังธาตุในร่างกายของเขาเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

ในห้วงมิติอื่นในโลกของ "ดินแดนแพทย์โอสภสวรรค์" ตอนนี้เป็นเวลากลางดึก หยางอี้เหิง ผู้ซึ่งมีความสามารถในการเดินทางข้ามเวลาไปยังราชวงศ์ชิง ในขณะเดียวกันจักรพรรดิเฉียนหลง ที่สูญเสียความทรงจำ ก็ทรงพักผ่อนอยู่เช่นกัน อย่างไรก็ตาม มีแขกไม่ได้รับเชิญ ประมาณสองสามคนที่บ้านหลังหนึ่ง เป็นบ้านของหยางอี้เหิง

ถังหลง เป็นหลานชายของเจ้าเมืองหยางโจว เขารู้เรื่องคัมภีร์อมฤตในตำนาน จากลุงของเขา เมื่อรู้ว่าเขา ตัวเองนั้นไร้คู่ต่อสู้ และในขณะเดียวกัน เขาก็ต้องการที่จะชนะการแข่งขัน "ปรุงอาหารหยางโจว ในเมืองฮ่วยหยาง" ที่กำลังจะใกล้เข้ามา

เขาจึงคิดที่จะใช้ความมืดมิดของคืนนี้ เพื่อคว้าคัมภีร์อมฤต เพื่อช่วยให้เขาแข็งแกร่งขึ้น และจะสามารถต่อสู้กับหยางอี้เหิงได้ และในเวลานั้น จะไร้คู่ต่อสู้

ดังนั้นเมื่อตกกลางคืน ถังหลงจึงแต่งตัวเหมือนสวมชุดดำ และเข้าไปในที่อยู่อาศัยของหยางอี้เหิง เพื่อต้องการค้นหาคัมภีร์อมฤตเล่มนั้น

ในเวลานี้ จินเฉิงอู่และอู่เหยียนฉี ซึ่งเป็นองค์รักษ์ติดตามจักรพรรดิเฉียนหลง ที่เสด็จประพาสเป็นการส่วนพระองค์ พวกเขาพบว่า ตนเองนั้นพลัดหลงกับองค์จักรพรรดิเฉียนหลง ดังนั้นทั้งสองจึงซ่อนตัวในตอนกลางคืน และพยายามตามหาจักรพรรดิเฉียนหลง

ซึ่งตอนนี้ ถังหลงนั้นได้เข้าไปในบ้านของหยางอี้เหิง เขาตรวจสอบทีละห้อง ๆเพื่อค้นหาคัมภีร์ แต่บังเอิญเขานั้น เข้าไปในห้องที่จักรพรรดิเฉียนหลงอยู่ เดิมที เขาวางแผนที่จะออกไปอย่างลับๆ และตามหาคัมภีร์ของหยางอี้เหิง แต่ในขณะนี้

เขาไม่รู้ว่าจักรพรรดิเฉียนหลงคนนี้ เป็นใครมาจากไหน?

ในเวลานี้ องครักษ์ประจำตัวของจักรพรรดิ องค์รักษ์ทองคำหน่วยที่ห้านั้นเข้ามาในห้อง และปิดกั้นทางออกไม่ได้ใครสามารถเข้าและออกไปได้ อย่างไรก็ตามเนื่องจากถังหลง สวมชุดสีดำ องค์รักษ์ทองคำหน่วยที่ห้า จึงไม่พบตัวตนของอีกฝ่ายในทันที

"ท่านมาที่นี่ทำไม?ข้าบอกท่านไปหาอีกด้านไม่ใช่หรือ?" จินเฉิงอู่พูดกับถังหลง เขาคิดว่า ถังหลงเป็นอู่เหยียนฉี ทั้งสองคน ตกลงกันว่าจะผลัดกันไปตรวจสอบคนละฝั่ง

คืนนี้ถังหลงนั้นออกมาคนเดียว ฉะนั้นเขาจึงมั่นใจว่า อีกฝ่ายนั้นเข้าใจผิดอย่างแน่นอน

“ เจ้ายังยืนงงอะไร อยู่ตรงนั้น รีบเข้ามายืนยันว่า เป็นองค์จักรพรรดิหรือไม่?” จินเฉิงอู่ พูดกับ อู่เหยียนฉี เมื่อมองเห็นว่า อีกฝ่ายทำท่างุนงง

“ เวรกรรมอะไรนักหนา เขาเสียสติหรือไม่?” ถังหลงครุ่นคิด

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่า อีกฝ่ายหมายถึงอะไร? แต่ถังหลงก็ตัดสินใจ ที่จะไม่พลาดเป้าหมายของเขาในคืนนี้ เขาไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน จึงพูดเบา ๆ ว่า "ตกลง ข้าจะไปดู"

ขณะที่เขาพูดออกมา ถังหลงก็หยิบกริชของเขาออกมา และกำลังจะซุ่มโจมตีจินเฉิงวู แต่ทันใดนั้น จินเฉิงวูก็หันกลับมา เพราะคำพูดของถังหลงในตอนนี้ ทำให้เขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่พี่ชายของเขา อู่เหยียนฉี

“ เจ้าเป็นใคร?” จินเฉิงถาม ขณะที่เขาชี้ไปที่ถังหลง

ในขณะนี้จักรพรรดิเฉียนหลง ซึ่งกำลังนอนอยู่บนเตียง ได้ถูกปลุกขึ้นมาจากความวุ่นวาย "ใครกัน ออกไปข้าจะนอน"

เมื่อเห็นจักรพรรดิเฉียนหลงที่ยังคงมึนงง ถังหลงก็กระโจนไปด้านข้าง และกดกริชเข้ากับคอขององค์จักรพรรดิ

"ไป!" ถังหลงก้มหัวลง และพูดกับจักรพรรดิเฉียนหลง จากนั้นหันกลับมา และพูดกับจินเฉิงอู่ "เปิดประตูซะ!"

"เอาล่ะ ๆได้" เมื่อองค์จักรพรรดิตกอยู่ในมือของผู้อื่น องค์รักษ์ทองคำหน่วยที่ห้า จึงทำได้แค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น เพื่อปกป้องจักรพรรดิให้ปลอดภัย