USB:บทที่ 551 หยก
เช้าวันรุ่งขึ้นฮวงเฟิงได้ลุกขึ้นออกเตียงด้วยความรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า หลังจากนั้นเขาก็พบหยกหรูอี้ เนื้อหน้า รูปทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส และนั่นก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกอารมณ์ดีมากขึ้นกว่าเดิม ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้เลยว่าของสิ่งนี้จะมีมูลค่าสักเท่าไหร่ แต่รับประกันได้ว่ามันต้องไม่ใช่ถูก ๆ แน่ สำหรับฮวงเฟิงแล้วนี่คือจำนวนเงินที่เพิ่มมากขึ้น
วันนี้ฮวงเฟิงยังไม่อยากกลับไปทำงาน หลังจากที่เขาจัดการเรื่องลางานเรียบร้อยแล้ว เขาก็เตรียมตัวที่จะไปยังโรงกลั่นสุรา และในขณะนั้นเองเขาก็ได้รับโทรศัพท์จากหลี่ปิงอวิ้น ครั้งนี้เธอไม่ได้ต้องการให้ฮวงเฟิงเป็นบอดี้การ์ดคอยคุ้มกันเธอเมื่อมีงานแสดง หากทว่าเพื่อที่จะบอกลา
"กลับออกไปดื้อๆแบบนี้นะเหรอ? ไม่ใช่คุณเองหรือไง ที่พูดว่าคุณจะอยู่ที่นี่ประมาณสิบวัน?" ฮวงเฟิงถามขึ้นด้วยควมแปลกใจเมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ปิงอวิ้น
"ฉันมีงานต้องทำ เพราะฉะนั้นฉันจำเป็นต้องไป" หลี่ปิงอวิ้นพูด น้ำเสียงฟังดูเศร้ามาก นอกจากถ่ายโฆษณาแล้ว การที่เธอมานี่ก็เพื่อที่จะต้องการใช้เวลากับฮวงเฟิงให้มากขึ้น แต่คิดไม่ถึงว่าในช่วงสองสามวันมานี่ ดูเหมือนว่าฮวงเฟิงจะยุ่งมาก ทำให้ทั้งคู่ไม่มีโอกาสที่จะได้พบเจอกันเลย ในเมื่อวันนี้เธอมีเรื่องสำคัญให้ต้องกลับไปจัดการ เธอก็หวังว่าก่อนไปจะได้มีโอกาสพบเขาอีกสักครั้ง
"ผมต้องขอโทษ ที่เคยรับปากว่าจะเดินเล่นเป็นเพื่อนคุณ อย่างไรก็ตามมีเรื่องราวหลายอย่างเกิดขึ้นในช่วงนี้ ดังนั้นผมจึงไม่มีเวลาไปพบคุณ" ฮวงเฟิงรู้สึกผิดต่อเธอ เนื่องจากเขาได้รับปากหลี่ปิงอวิ้นเอาไว้ แต่ตอนนี้เขาต้องผิดสัญญากับเธอ
ช่วงสองสามวันที่ผ่านมาฮวงเฟิงมีหลายอย่างต้องทำ ส่วนใหญ่ก็เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเขา เขายุ่งมากจนกระทั่งต้องขาลางาน ฮวงเฟิงคิดมาตลอดว่าเขามีสามารถหาเงินได้มากพอ แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าเงินที่เขามีอยู่นั้นมันยังห่างใกลจากคำว่าอยู่อีกมาก และเขาจะต้องหาเงินให้ได้มากพอ เพื่อที่จะซื้อสิ่งต่าง ๆ ที่เขาหมายตาเอาไว้ ฮวงเฟิงคิดว่าเขาน่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกมากจากผลประกอบการของโรงงานผลิตเครื่องบำบัดน้ำเสีย เมื่อเขาต้องการหาเงินให้เพิ่มมากขึ้น จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาต้องยุ่งมาก ๆ ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา
"คุณคงจะยุ่งอยู่กับอะไรบางอย่าง ไม่เป็นไรคะ งั้นเอาไว้คราวหน้าตอนที่ฉันมาที่มณฑลเจียง บางทีคุณน่าจะพาฉันไปเที่ยวแถวนั้นได้ " หลี่ปิงอวิ้นพูดขึ้นอย่างเข้าใจ ถึงแม้ว่าภายในใจของเธอนั้นจะรู้สึกเสียใจอย่างมากก็ตาม หลี่ปิงอวิ้นไม่อยากให้เธอเป็นต้นเหตุให้ธุรกิจของฮวงเฟิงต้องล่าช้า ดังนั้นไม่รบเร้าให้เขาต้องมาหาเธอ แต่อย่างไรก็ตามหลี่ปิงอวิ้นเข้าใจดีว่าเรื่องนี้สร้างความลำบากใจให้กับฮวงเฟิงไม่น้อย ทั้งหมดเป็นเพราะเขาเป็นฝ่ายผิดสัญญาก่อนในทุก ๆ เรื่อง ดังนั้นเขาฮวงเฟิงจึงพูดขึ้นในที่สุด "คุณจะเดินทางเมื่อไหร่? ผมอยากไปส่งคุณ"
"พรุ่งนี้เช้า เครื่องออกตอนสิบโมง ฉันได้จองรถของทางโรงแรมเพื่อไปสนามบินแล้ว" เมื่อหลี่ปิงอวิ้นได้ยินว่าฮวงเฟิงอยากไปส่งเธอ หัวใจของเธอรู้สึกแช่มชื่นขึ้นมาก แต่แล้วเธอก็รีบพูดขึ้นทันที "คุณมีเรื่องต้องทำ ไม่เป็นไรคะ คุณไม่จำเป็นต้องไปส่งฉันหรอก ฉันไปสนามบินเองได้คะ"
ผู้ช่วยที่คอยอยู่ข้าง ๆ หลี่ปิงอวิ้น มุมปากของเธอชักกระตุกขึ้น พลางคิดว่า ฮวงเฟิงก็แค่ยามธรรมดาทั่ว ๆไป แล้วเขาจะยุ่งอะไรหนักหนา?" นอกจากนั้นแล้ว เธอสามารถพูดได้เลยว่า เป็นหลี่ปิงอวิ้นต่างหากที่อยากพบฮวงเฟิง อีกทั้งเธอยังตั้งใจที่จะมอบของขวัญให้กับเขา เพียงแต่เธอไม่ได้พูดออกมาเนื่องจากฮวงเฟิงยังอยู่ในสาย
"ไม่เป็นไร ธุระของผมเอาไว้ทีหลังก็ได้ ผมจะไปรับคุณที่โรงแรมนะ" ฮวงเฟิงกล่าว
"ก็ได้ค่ะ" หลี่ปิงอวิ้นตอบตกลงด้วยความดีใจ ก่อนที่จะวางสายโทรศัพท์
"พอใจแล้วสินะ?" ผู้ช่วยของหลี่ปิงอวิ้นเดินเข้ามาหาเธอแล้วพูดกับหลี่ปิงอวิ้นทีกำลังอมยิ้มอย่างมีความสุข
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้ช่วยทำให้หลี่ปิงอวิ้นรู้กระดากใจเล็กน้อย เธอรู้ดีว่าเธอออกอาการมากเกินไป ดังนั้นจึงรีบหุบยิ้มลงทันที แล้วถามขึ้น "เธอพูดว่าไงน่ะ?"
"ปิงอวิ๋น เธอแสดงออกมาจนเกินไป ตอนที่เธอรู้ว่ามีบางอย่างให้ต้องทำ และต้องเดินทาง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความหดหู่ แต่ตอนนี้เมื่อพอได้ยินว่าจะได้เจอยามคนนั้น รอยยิ้มบนหน้าก็ฉีกกว้างขึ้นทันที เธอคงไม่ได้คิดอะไรกับเขาสินะ?"
ครอบครัวของหลี่ปิงอวิ้นได้ช่วยเธอหาผู้ช่วยคนนี้มา ดังนั้นเธอจริงรู้ถึงฐานะของหลี่ปิงอวิ้น และพวกเขาก็ได้ทำงานร่วมกันมานาน ดังนั้นพวกพวกเธอจึงเป็นหมือนเพื่อสนิทกัน ผู้ช่วยคนกลัวว่าหลี่ปิงอวิ้นจะชอบพอฮวงเฟิงเข้าจริง ๆ แต่ถานะของพวกเขาทั้งคู่ช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
"ฉัน ไม่เห็นว่าจะมีอะไรสัหน่อยนี่" หลี่ปิงอวิ้นรีบปฏิเสธทันที แต่ใบหน้าของเธอกลับแดงระเรื่อขึ้นด้วยความเขินอาย หลังจากนั้นเธอก็หันไม่มองผู้ช่วยของเธอด้วยแล้วพูดขึ้นอีกว่า "อีกอย่าง ต่อไปนี้ห้ามเรียกพี่ฮวงว่ายามอีก ฉันกลัวว่ามันอาจจะทำให้เขาไม่สบายใจ"
การทีฮวงเฟิงทำงานเป็นแค่ยามไม่ใช่ความผิดอะไร แต่เห็นได้ชัดว่าหลี่ปิงอวิ้นไม่ต้องการให้ผู้ช่วยของเธอเน้นไปที่ฐานะของเขา เนื่องจากมันเท่ากับเป็นการดูถูกเขา อีกทั้งเธอก็รู้ด้วยว่าที่จริงแล้วฮวงเฟิงคือสมาชิกขององค์รักษาความมั่นคงแห่งชาติ นอกจากนั้นไม่ว่าใครก็ตามไม่ควรดูถูกฐานะของเขา
"ก็ได้ ต่อไปนี้ฉันจะไม่พูดอะไรเลย" เมื่อผู้ช่วยของหลี่ปิงอวิ้นเห็นสีหน้าจริงจังของอีกฝ่าย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหญิงสาวเป็น เป็นกังวลอย่างมากถึงคำพูดที่เธอใช้เรียกฮวงเฟิงว่ายาม ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องทำหลี่ปิงอวิ้นรู้สึกไม่พอในเรื่องนี้ แม้ว่าจะอย่างไรก็ตามเธอก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะต้องคอยจับตาดูฮวงเฟิงเอาไว้ เนื่องจากเธอไม่อยากให้หลี่ปิงอวิ้นต้องผิดหวังในอนาคต
ในขณะที่ฮวงเฟิงขับรถไปรับหลี่ปิงอวิ้นที่โรงแรมนั้น หัวหน้าฉีอู่ซึ่งอยู่ต่างเวลาและต่างสถานที่นั้น เขาอยู่ในอารมณ์ฉุนเฉียว เนื่องจากสิ่งที่เขาฝังลึกอยู่ภายในใจของเขามาโดยตลอดได้เกิดขึ้นอีกครั้งแล้ว
"นั่นใคร? แกเป็นใครกันแน่?! ถ้าแน่จริงก็ออกมา ไม่มีจำเป็นต้องหลบซ่อนอีกต่อไป ออกมาซะ!" ผู้นำฉีอู่ตะโกนโหวกเหวกอยู่ภานในห้องของเขา ขณะที่เขาขว้างป่าสิ่งของปลิ่วว่อนไปทั่วห้องอย่างไม่พอใจ และรู้สึกหวาดหวั่นอยู่ในใจ
ใช่ มันคือความรู้สึกหวาดกลัวที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ครั้งแรกที่หยกแกะสลักพระพุทธรูปที่วางอยู่บนตัวเขาตลอดเวลาได้ถูกขโมยไป โดยที่ไม่มีใครรู้ตัวเลย สมบัติมีค่าของเขายังคงถูกขโมยออกไปอย่างต่อเนื่อง เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ทีไร ก็ทำให้เขารู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก ว่าอีกฝ่ายจะสามารถฉกของมีค่าของเขาไปโดยที่เขาไม่ทันได้รู้ตัว ถ้าหากอีกฝ่ายหวังเพียงแค่ต้องการจะขโมยเท่านั้นก็คงไม่เป็นไร อย่างไรก็ตามถ้าหากปีศาจพวกนั้นมีเจตนาชั่วร้าย พวกเขาอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าพวกเขาตายได้อย่างไร อย่างไรก็ตามตั้งแต่ที่เขายึดเมืองได้ คนคนนั้นก็ไม่เคยปรากฏตัวขึ้นอีกเลย ก่อนหน้านี้เขากำลังฟื้นฟูสภาพจิตใจ หากทว่าตอนนี้เขาต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้อีก ความรู้สึกของเขาในขณะนั้นทั้งผ่อนคลายและหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน ถูกต้อง เขารู้สึกผ่อนคลายขึ้นเนื่องจากเขาไม่ต้องการตกเป็นเป้านิ่งให้กับคนคนนี้อีกต่อไป
อย่างไรก็ตามเมื่อคืนที่ผ่านมาหยกหรูอี้ที่เขาเหิ่งจะได้รับมานั้นก็มาหายไปอีก ถ้าหากเป็นเพียงแค่หายไปธรรมดาเขาคงไม่จิตตกเช่นนี้ แต่เป็นเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ไม่ต่างไปจากเหตุการณ์เมื่อครั้งที่แล้ว หลังจากที่อีกฝ่ายได้ขโมยของจากเขาไปแล้ว พวกมันยังได้วางของบางอย่างไว้ที่ตำแหน่งเดียวกันกับของที่มันขโมยไป และเรื่องนี้เห็นได้ชัดว่ามันแตกต่างไปจากหัวขโมยคนอื่น ๆ ดังนั้นผู้นำฉีอู่จึงมั่นใจว่าคนที่บุกเข้ามาขโมยหยกหรูอี้ของเขาไป ต้องเป็นคนคนเดียวกันกับครั้งที่แล้วแน่!
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved