ตอนที่ 575

USB:บทที่ 575 แกเป็นใคร

เมื่อได้ยินข้อเสนอของถังมู่เสวี่ยแล้ว ถึงแม้ว่ามันฟังดูน่าสนใจไม่น้อย แต่นอกจากมันจะทำให้ฮวงเฟิงรู้สึกไม่พอใจแล้ว มันยังทำให้เขานึกหวาดหวั่นขึ้นมา ถังมู่เสวี่ยคนนี้ไม่ธรรมดาเลย มันจะดียิ่งกว่าถ้าไม่ยุ่งเกี่ยวกับเธอได้ แต่เมื่อฮวงเฟิงยิ่งหลีกเลี่ยงเธอมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งสนใจเขามากยิ่งขึ้นเท่านั้น เมื่อเห็นว่าฮวงเฟิงพยายามที่จะหลบเลี่ยงเธอ ในใจของถังมู่เสวี่ยก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรูปร่างหน้าตา หรือ ฐานะทางครอบครัวเธอก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพี่สาวซูหยูโม่เลย แต่ทำไมฮวงเฟิงถึงได้หยามเธอได้มากถึงเพียงนี้?

"มู่เสวี่ย ทำไมคุณถึงมาอยู่นี่ได้ครับเนี่ย?" ในขณะทัศนคติของถังมู่เสวี่ยที่มีต่อฮวงเฟิงกำลังจะเปลี่ยนไปนั้น จู่ ๆ เธอก็ยินน้ำเสียงประหลาดใจของใครคนหนึ่งดังขึ้น อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่คิดแม้แต่จะหันไปมอง แต่คิ้วของเธอขมวดเข้าหากันแทน เนื่องจากเธอรู้จักเจ้าของเสียงนี้ ฮวงเฟิงซึ่งนั่งตรงข้ามกับหญิงสาว จึงมีเขาเพียงคนเดียวที่สามารถเห็นสีหน้ารังเกียจบนใบหน้าของถังมู่เสวี่ย

ถึงแม้ว่าถังมู่เสวี่ยไม่ได้หันไปมอง  แต่ทว่าเจ้าของเสียงนั่นก็ได้พาตัวเองมายืนอยู่ระหว่างถังมู่เสวี่ยและฮวงเฟิงเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่เขามองไปที่ถังมู่เสวี่ยด้วยสีหน้าประหลาดใจ

"มู่เสวี่ย นี่ผมไง เปิ้งเจิ้งฝู!" ชายหนุ่มคนพูดขึ้นกับถังมู่เสวี่ย

"ฉันรู้ว่าเป็นคุณ! เปิ้งเจิ้งฝู กี่ครั้งแล้วที่ฉันเคยบอกคุณ? ห้ามเรียกฉัน มู่เสวี่ย คุณจะเรียกชื่อเต็ม ๆ ของฉัน หรือไม่ก็ คุณหนูถัง" ถังมู่เสวี่ยพูดขึ้นในขณะที่เข้ามองไปที่ชายคนนั้นด้วยสายตาแห่งความเกลียดชัง

"มู่เสวี่ย พวกเราล้วนรู้จักกันดีอยู่แล้ว คุณยังจะเรียกผมด้วยชื่อเต็ม ๆ ของผมได้หรือ?" ชายหนุ่มคนนั้นยังคงพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า "ทำไมคุณถึงพยายามหลบหน้าผมอยู่ตลอด? ผมไปหาคุณตั้งหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยพบคุณเลย"

"ก็เพราะฉันไม่อยากเจอคุณนะสิ!" ในขณะที่เธอพูด ดูเหมือนว่าถังมู่เสวี่ยจะไม่ยอมถอยง่าย ๆ "อีกอย่าง ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันต้องมาเจอคุณที่นี่ ในมณฑลเจียงนี้ด้วย ในเมื่อคุณมาขัดขวางฉันถึงนี่ แล้วคุณยังจะหวังให้ฉันไว้หน้าคุณอยู่อีกหรือไง?"

"มู่เสวี่ย นั่นก็เพื่อผลดีต่อคุณเองนะ ผมแค่อยากให้คุณรู้ว่าธุรกิจแบบนั้นมันไม่ง่ายเลย อีกอย่างการทำธุรกิจก็ไม่ใช่เรื่องง่ายด้วย" เปิ้งเจิ้งฝูไม่รู้สึกโกรธต่อท่าทีของถังมู่เสวี่ยเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าเขาเป็นคนใจดีและห่วงใยถังมู่เสวี่ยมาก

"เปิ้งเจิ้งฝู ฉันจะพูดอีกครั้ง ฉันไม่สนใจจะคบกับคุณ แล้วฉันก็จะไม่แต่งงานกับคุณด้วย เพราะฉะนั้นหยุดคิดไปได้เลย ถึงแม้ว่าครอบครัวของฉันจะชื่นชมคุณมาก แต่สำหรับฉันไม่เคยนึกชอบคุณเลย" ถังมู่เสวี่ยพูดใส่หน้าเปิ้งเจิ้งฝู  ขณะเดียวกันท่าก็แสดงท่าทีราวกับว่าฮวงเฟิงที่นั่งฟังการสนทนาของพวกเขาจะเข้าใจอะไรผิด

ในตอนแรกเมื่อเปิ้งเจิ้งฝูเห็นถังมู่เสวี่ยนั่งอยู่กับชายหนุ่มแปลกหน้า ก็คิดว่าฮวงเฟิงนาจะเป็นหนึ่งในบรรดาคู่ควงของเธอ เนื่องจากมีชายหนุ่มมากมายในเมืองหลวงที่คอยไล่ตามเธอ นอกจากนั้นแล้วดูผิวเผินแล้วถังมู่เสวี่ยก็ไม่ได้รังเกียจพวกเขาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามเปิ้งเจิ้งฝูก็รู้ดีว่า ถังมู่เสวี่ยไม่ได้คิดอะไรกับชายหนุ่มพวกนั้น ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจกับความคิดของคนพวกนั้นเลย

อย่างไรก็ตามการแสดงออกเพียงเล็กน้อยของถังมู่เสวี่ยในตอนนี้ แสดงให้เห็นว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอนั้นไม่ธรรมดาเลย การที่เธอให้ความสำคัญต่อความคิดของอีกฝ่าย แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั่นไม่ได้เป็นแบบธรรมดาทั่วไป แล้วเปิ้งเจิ้งฝูผู้ซึ่งคิดว่าถังมู่เสวี่ยคือผู้หญิงของเขาจะยอมรับเรื่องนี้ได้อย่างไร?

"มู่เสวี่ย คุณหยุดดิ้นรนได้แล้ว? คุณจะสามารถขัดขืนการตัดสินใจของครอบครัวคุณได้อย่างไร? ด้วยการเปิดบริษัทเน่า ๆ นั่นนะเหรอ? หยุดเพ้อฝันแล้วไปกับผม กลับไปเมืองหลวงแล้วก็ทำตัวสงบเสงี่ยมเข้าไว้ รอเข้าพิธีแต่งงานกับผม และเป็นคุณนายเปิ้ง!" เปิ้งเจิ้งฝูพูดกับถังมู่เสวี่ย

"ฉันไม่กลับ!" ถังมู่เสวี่ยปฏิเสธหนักแน่น

"ต่อให้คุณสามารถหนีไปได้อีกสักพัก แต่คุณไม่มีทางหนีไปได้ตลอดชีวิต! คุณสามารถใช้ชีวิตอยู่ในมณฑลเจียงนี้ไปได้ตลอดรึไง? ต่อให้ผมยอม แต่ครอบครัวของคุณไม่มีวันยอม!" ท่าทีของเปิ้งเจิ้งฝูในเวลาดูน่ารังเกียจมาก อีกทั้งเขายังเป็นคนหยิ่งผยอง เมื่อถูกถังมู่เสวี่ยพูดจาดูถูกรต่อหน้าคนอื่นครั้งแล้วครั้งเล่าแบบนี้ เขาก็ยากที่ควบคุมอารมณ์ไว้ได้อีก

"นั่นมันเรื่องของฉัน ฉันไม่ต้องการให้คุณต้องมาห่วง!" ถังมู่เสวี่ยพูดพร้อมกับส่ายหน้า  เธอเองก็รู้อยู่แล้วว่าเธอไม่สามารถอยู่ในมณฑลเจียงได้ตลอดไป ถึงแม้ว่าจะยื้ออยู่ได้แค่วันเดียวก็ช่าง เธอไม่อยากบินกลับไปเมืองหลวงอีก ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการบินกลับเข้าสู่กรง

"มู่เสวี่ยหยุดพูดเหลวไหล แล้วกลับไปกับผม!" เปิ้งเจิ้งฝูรู้สึกโกรธมากขึ้น เขาใช้ความอดทนทั้งหมดที่มีไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่อยากเสียเวลาพูดคุยกับเธออีกต่อไป เปิ้งเจิ้งฝูคว้าข้อมือถังมู่เสวี่ยแล้ออกแรงลากเธอไปทันที

"จะทำอะไร? ปล่อยฉันนะ! ฉันไม่ไปกับคุณ!" ถังมู่เสวี่ยร้องตะโกนขึ้น

ดูเหมือนว่าผู้จัดการร้านจะสังเกตเห็นความวุ่นวายที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามก่อนที่ผู้จัดการร้านจะมาถึง เปิ้งเจิ้งฝูก็พบว่ามีมือมือหนึ่งคว้ามาที่แขนของเขา เขารู้สึกได้ทันทีว่าแขนของเขาเหมือนถูกหนีบด้วยก้ามปูใหญ่ ไม่สามารถขยับได้อีก

"สหาย คุณไม่เห็นหรือไงว่าเธอไม่อยากไปกับคุณ?" คนที่จับแขนเขาไว้ก็คือฮวงเฟิงซึ่งนั่งอยู่ตรงนั่งอยู่ตรงนั้นตลอดเวลา ถึงแม้ว่าเปิ้งเจิ้งฝูจะยังคงสงบนิ่งอยู่ แต่ในขณะนี้แววตาของเขาเต็มไปด้วยความพยาบาท

"แกเป็นบ้าอะไร! ฉันกำลังคุยอยู่กับแฟนของฉัน แล้วแกก็ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของฉัน! ถ้าหากแกยังไม่อยากตาย รีบใสหัวไปให้พ้นหน้าฉัน!" เปิ้งเจิ้งฝูไม่เคยรู้สึกดีกับฮวงเฟิงอยู่ก่อนแล้ว ดูเหมือนว่าถังมูเสวี่ยจะให้ความสำคัญกับผู้ชายคนนี้เป็นพิเศษ แล้วตอนนี้ฮวงเฟิงยังกล้าเสนอหน้ามายุ่งเรื่องของเขาอีก ยิ่งทำให้เขารู้สึกโกรธมากขึ้น เปิ้งเจิ้งฝูตะคอกใส่ฮวงเฟิงขณะที่ยพยายามสะบัดแขนให้พ้นจากมือของฮวงเฟิง แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามมากแค่ไหนก็ไม่สามารถเป็นอิสระได้ ท่าทางการแสดงออกของฮวงเฟิงยังคงดูไม่เปลี่ยนในขณะที่ความแข็งแกร่งที่มือเขากลับเพิ่มขึ้น ในเวลานี้ถึงแม้ว่าเขาจะต้องพึงพาความสามารถของตัวเอง ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านศิลปะการต่อสู้ระดับสามก็ยากที่จะต้านทานได้ แล้วนับประสาอะไรกับเปิ้งเจิ้งฝู ผู้ซึ่งอ่อนแอกว่าคนธรรมดาทั่วไปเสียอีก แต่อย่างน้อยตอนนี้เปิ้งเจิ้งฝูก็ยังพอมีแรงตะโกนต่อว่าฮวงเฟิง แล้วเขาก็เริ่มต่อว่าอีกฝ่ายทันที

"ออกไป รีบไปให้พ้น! ไม่งั้นฉันจะฆ่าครอบครัวแกทั้งหมด!" เปิ้งเจิ้งฝูคนปัจจุบัน ไม่เหลือร่องรอยของคนเดิมที่เขาแสร้งทำก่อนหน้านี้อีกต่อไป ถึงแม้ว่าปากเขายังข่มขู่อีกฝ่ายอยู่ไม่หยุด แต่การไล่ให้ไปนั่นแสดงให้เห็นถึงความหวาดกลัว! เนื่องจากความเจ็บปวดที่แขน ทำให้เปิ้งเจิ้งฝูไม่มีแรงจับตัวถังมู่เสวี่ยไว้ได้อีก และหลังจากที่เธอเป็นอิสระแล้วเธอกรีบเดินไปหลบข้าง ๆ ฮวงเฟิง  เมื่อเปิ้งเจิ้งฝูเห็นภาพบาดตาบาดใจเช่นนั้น ดวงตาของเขาก็ลุกโชนขึ้นด้วยความโกรธ ในมุมมองเขาเขา เขาคิดว่าถังมู่เสวี่ยกำลังทรยศเขา ออกมามั่วผู้ชายข้างนอก ซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้เขาโกรธเป็นทวีคูณ

"พวกแก เล่นชู้กัน! ถังมู่เสวี่ย คุณเป็นผู้หญิงที่มีชื่อเสี่ยงคนหนึ่งอยู่ในเมืองหลวง แอบนัดพบกับคนต่ำช้าแบบนี้ในมณฑลเจียงนี่ ไม่รู้สึกละอายใจบ้างหรือ! ตาคุณบอดไปแล้วหรือยังไงกันคุณเอาผมไปเทียบกับเศษสวะแบบนี้ได้อย่างไรกัน?" เปิ้งเจิ้งฝูตะคอกใส่ถังมู่เสวี่ย

"ในสายตาคุณมันก็ต่างอะไรกับหนอนสกปรกรอวันตาย คุณไม่มีอะไรเทียบฮวงเฟิงได้เลย!" ถังมู่เสวี่ยพรุสวาทอย่างไร้ซึ่งความเห็นใจ

"เหลวไหล! ดูแกสิ ไม่ต่างอะไรกับคนจรจัดสักนิด! ทั้งตัวแกรวมกันแล้วไม่ถึงหมื่นหยวนด้วยซ้ำ! เห็นทีถังมู่เสวี่ยตาบอดไปแล้วจริง ๆ" เปิ้งเจิ้งฝูตะโกนด่าอย่างบ้าคลั่ง คงไม่เป็นไรถ้าหากฐานะของฮวงเฟิงจัดอยู่ในระดับเดียวกันกับเขา แต่ประเด็นสำคัญมันอยู่ที่ฝ่ายหนึ่งร่ำรวยมาก เป็นถึงทายาทเศรษฐี และนั่นทำให้เขาต้องการพ่ายแพ้ให้กับคนอย่างฮวงเฟิง แน่นอนว่าเปิ้งเจิ้งฝูยังไม่คิดว่าเขาคือผู้แพ้ ถึงแม้ว่าถังมู่เสวี่ยจะพูดออกมาเช่นนั้นก็ตาม แต่เนื่องจากเขาเป็นคนที่ครอบครัวของเธอเลือก ไม่ว่าจะอย่างไรเธอก็ต้องแต่งงานกับเขา ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจก็ตาม

"นั่นก็ยังดีกว่าคุณ!" ถังมู่เสวี่ยกล่าวขึ้นโดยที่ไม่แสดงความอ่อนแอใด ๆ ออกมาให้เห็น

เมื่อถูกเหยียดหยามครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงแม้ว่าฮวงเฟิงจะเป็นคนใจเย็นมากแค่ไหน เขาก็รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงไม่คิดที่จะแสดงความเมตตาต่อไปอีก