USB:บทที่ 450 ประลอง (10)

ฮวงเฟิงไม่สามารถที่จะหยุดพักได้อีกต่อไป เขาใช้กระบวนท่าเท้าท่องคลื่นทันทีเพื่อหลบหลีบ เขาตระหนักว่าความคล่องตัวที่เพิ่มขึ้นของเสื้อคลุมเงาสามารถทำให้เขาเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระและง่ายดายมากกว่าคนธรรมดา แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมืออันดับสองระดับสูงสุดที่แข็งแกร่งเช่นนี้แล้ว เขาก็ทำอะไรไม่ถูก

เป็นผลให้เขายังต้องอาศัยกระบวนท่าเท้าท่องคลื่นเพื่อหลบหลีกการโจมตี แม้ว่ากระบวนท่าเท้าท่องคลื่นของเขาจะไม่ได้อยู่ในสภาพดีนัก แต่ก็เป็นสิ่งที่เขาเพิ่งจะฝึกฝนเมื่อไม่นานมานี้ ในสถานการณ์ที่ไม่อันตรายเกินไปเขายังคงสามารถใช้มันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เป็นผลให้ทุกคนเห็นว่าฮวงเฟิงนั้นกำลังแกว่งไปมาเหมือนสำเภาลำเล็กในมหาสมุทรภายใต้การโจมตีของเจ้าหน้าบาก ราวกับว่าเขากำลังจะคว่ำ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้คว่ำ!

ศิษย์ธรรมดาทั้งหลายและส่วนหนึ่งของหัวหน้าสำนักทั้งหลายเริ่มที่จะเป็นห่วงฮวงเฟิง เดิมทีพวกเขามั่นใจแล้วว่าฮวงเฟิงจะต้องพ่ายแพ้ แต่หลังจากที่ได้เห็นทั้งสองคนต่อสู้กันแล้ว วี่แววแห่งความหวังก็ผุดขึ้นมาในใจของพวกเขาอีกครั้ง ดังนั้นเมื่อพวกเขาเห็นว่าฮวงเฟิงกำลังตกอยู่ในอันตรายพวกเขาจึงเป็นห่วงฮวงเฟิง

เป็นที่ทราบกันดีว่าแม้ว่าพวกเขาส่วนใหญ่จะไม่รู้จักฮวงเฟิงแต่ฮวงเฟิงก็เป็นตัวแทนของโลกศิลปะการต่อสู้ของอาณาจักรสำเภาสวรรค์ ในการต่อสู้ครั้งนี้ถ้าฮวงเฟิงแพ้นั่นหมายความว่าโลกศิลปะการต่อสู้ของอาณาจักรสำเภาสวรรค์ของพวกเขาก็พ่ายแพ้ไปด้วย และเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ต้องการที่จะยอมรับผลลัพธ์นี้ ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้จักฮวงเฟิงแต่พวกเขาก็ยังคงเชียร์เขาอยู่ในใจ

สำหรับหัวหน้าสำนักสองสามคนและสหายของเจ้าหน้าบาก พวกเขาสามารถเห็นได้ว่าฮวงเฟิงได้ใช้ทักษะที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนในขณะที่ต่อสู้กับเจ้าหน้าบาก ในตอนแรกฮวงเฟิงยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับมันมากนัก แต่เมื่อเวลาผ่านไปเขาก็คุ้นเคยกับมันมากขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่ได้อยู่ในสภาพที่ต้องเสียใจเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป และแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถตอบโต้ได้ แต่เขาก็ยังดีกว่าเมื่อก่อน

มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่าการโจมตีด้วยดาบของเขาเองจะไม่สามารถอยู่ได้นาน เมื่อถึงเวลานั้นมันก็จะเหมือนกับก่อนหน้านี้ ฮวงเฟิงจะเล่นกับเขาต่อไปแต่เขาจะไม่สามารถสัมผัสได้แม้แต่ชายเสื้อของฮวงเฟิงได้

อย่างไรก็ตามไม่ว่าเขาจะกังวลแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ ไม้เด็ดของเขาได้ถูกใช้ไปแล้ว และนี่เป็นการแสดงผลที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา เขาสามารถต่อสู้กับยอดฝีมืออันดับหนึ่งได้ในอยู่ระยะหนึ่ง แต่ก็ไม่มีอะไรที่เขาจะสามารถทำได้

"เป็นไปได้ยังไงกัน? ชายคนนี้เป็นใคร?" สัตว์ประหลาดของโลกศิลปะการต่อสู้ของอาณาจักรสำเภาสวรรค์เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไรกัน? " ไม่เพียงแต่เจ้าหน้าบากจะคิดด้วยความกังวลแค่เพียงคนเดียว แต่หยวนเหลียงก็ยังรู้สึกสับสนอยู่เล็กน้อยเพราะนี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดคิดเอาไว้

เจ้าหน้าบากที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นศิษย์ของสำนักของเขา แต่เพิ่งจะเข้าร่วมได้ไม่นานนัก และเขาก็เพิ่งจะเข้าร่วมสำนักอัคคีโลหิตด้วยความคิดของปรมาจารย์กงหมิง มิฉะนั้นแล้วความสามารถของเขาจะน่ากลัวยิ่งกว่าของหยวนเหลียง แล้วเขาจะมาเป็นลูกน้องของหยวนเหลียงได้อย่างไร

และสิ่งที่ปรมาจารย์กงหมิงและหยวนเหลียงคิดอยู่ในใจก็คือการใช้ "ศิษย์ธรรมดา" คนนี้เพื่อบั่นทอนขวัญและกำลังใจให้กับคนของโลกศิลปะการต่อสู้ของอาณาจักรสำเภาสวรรค์และเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ที่กำลังจะมาถึง

อย่างไรก็ตามดูจากรูปการแล้วความคาดคิดของพวกเขาดูเหมือนจะไร้ผล เมื่อคิดว่าตัวประหลาดอย่างฮวงเฟิงอยู่ๆ ก็ปรากฎตัวขึ้นมาในอาณาจักรสำเภาสวรรค์ ซึ่งมันอยู่นอกเหนือจากแผนของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง

ดังนั้นหยวนเหลียงจึงวิตกกังวลเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นว่าโอกาสของเขากำลังจะหมดลงและปรมาจารย์กงหมิงคนนี้อาจจะตัดสินคะแนนได้ในภายหลังเขาจึงรู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก

แต่เขาก็ทำได้เพียงแค่เป็นกังวลเพราะเขาไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ สิ่งเดียวที่เขาทำได้ในตอนนี้ก็คือรอดูว่าเจ้าหน้าบากอาจจะสามารถเอาชนะฮวงเฟิงได้

อย่างไรก็ตามในตอนนี้ฮวงเฟิงไม่มีเวลาที่จะนึกถึงความคิดของผู้คนรอบตัวเขา ตอนนี้เขาจมอยู่กับความพยายามที่จะสัมผัสถึงความลึกซึ้งของกระบวนท่าเท้าท่องคลื่น และเจ้าหน้าบากที่อยู่ตรงหน้าเขาถือได้ว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่ค่อนข้างดี ความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้นั้นแข็งแกร่งกว่าเขาและตัวเขาเองก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับอนาคตใดๆ ดังนั้นแม้ว่าเขาจะตายไป แต่เขาก็แค่กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงก็เพียงเท่านั้น ดังนั้นฮวงเฟิงจึงต้องการที่จะคว้าโอกาสที่หายากนี้และทำความคุ้นเคยกับกระบวนท่าเท้าท่องคลื่น

ผลลัพธ์ของเขาไม่ได้เลวร้ายนัก ความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับกระบวนท่าเท้าท่องคลื่นนั้นดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากและเขาก็ไม่ได้อยู่ในสภาพที่เลวร้ายเหมือนเมื่อก่อน ดังนั้นเขาจึงเริ่มคิดถึงการโต้กลับ!

ครั้งนี้เขายังคงใช้หมัดโลหะของเขาเพียงเท่านั้นเพราะเขาไม่ต้องการที่จะเปิดเผยต้นกำเนิดของหมัดสายฟ้าเจ็ดดาวเคราะห์

ด้วยเหตุนี้การโจมตีของฮวงเฟิงจึงไร้ประสิทธิภาพราวกับว่าเทคนิคของเขานั้นธรรมดาเกินไป แน่นอนว่าไม่มีใครคิดว่าเขาไม่รู้วิธีการใช้เคล็ดลับวิชาของเขา เนื่องจากแม้แต่ผู้ฝึกฝนสันโดษก็สามารถเรียนรู้กระบวนท่าธรรมดาๆ ได้

"ดูเหมือนว่าน้องชายคนนี้จะขาดทักษะการต่อสู้ที่ดี" ในตอนนี้หัวหน้าสำนักหลายคนได้เห็นจุดอ่อนของฮวงเฟิงแล้ว ขณะนี้พวกเขากำลังคิดหาวิธีดึงดูดฮวงเฟิงให้มาอยู่ในสำนักของพวกเขา ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วพวกเขาต้องจึงใช้ความพยายาม ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าฮวงเฟิงนั้นบกพร่องอะไรบ้างซึ่งพวกเขาก็จะสามารถเดินหน้าต่อไปได้

"เทคนิคของพี่ฮวงเป็นเรื่องจริงหรือนี่ จริงเหรอ?" อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้ว่าจะอธิบายการกระบวนท่าของฮวงเฟิงอย่างไร เพราะกระบวนท่าของเขานั้นดูกิ๊กก๊อกไปเลยเมื่อเปรียบเทียบกับกำลังภายในของกงหมิง

อย่างไรก็ตามในเมื่อฮวงเฟิงสามารถที่จะสยบเจ้าหน้าบากเอาไว้ได้จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่หลี่เต๋อหยูจะใช้คำว่า "กิ๊กก๊อก" เพื่ออธิบายเขา

“อาจจะเป็นเพราะพี่ฮวงไม่รู้กระบวนท่าใดๆ ก็ได้ เขาถึงได้ถูกพวกโจรพวกนั้นซุ่มโจมตี” หลิวเต๋อหยูกล่าว อย่างไรก็ตามคำอธิบายนี้ดูเหมือนจะไม่สมเหตุสมผลนัก แต่ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุนี้แล้วเขาก็ไม่รู้จะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับฮวงเฟิงก่อนหน้านี้ได้อย่างไร?

อย่างไรก็ตามแม้ว่าเทคนิคของฮวงเฟิงจะไม่ดีนัก แต่เขาก็มี กระบวนท่าเท้าท่องคลื่นและสามารถใช้งานได้อย่างชำนาญแล้วดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากมากที่เจ้าหน้าบากจะทำร้ายเขาได้ ดังนั้นแม้ว่าเทคนิคของฮวงเฟิงจะไม่ได้ทรงพลังมากนัก แต่หลังจาก ที่ใช้อยู่สักพักเขายังคงสามารถทำร้ายเจ้าหน้าบากคนนั้นได้

เขารู้สึกได้ว่าความแข็งแกร่งของฮวงเฟิงนั้นไม่ดีเท่าของเขา แต่ด้วยฝีเท้าที่แปลกประหลาดนั้นเขาจึงไม่สามารถเอาชนะได้เลย สิ่งนี้ทำให้เขาโกรธและเสียใจและด้วยเหตุนี้การโจมตีที่บ้าคลั่งและแม้แต่การเคลื่อนไหวของเขาจึงไม่เป็นระเบียบ

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ฮวงเฟิงจึงสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ง่ายขึ้น หลังจากผ่านไปสักพัก ฮวงเฟิงก็สามารถทำร้ายคู่ต่อสู้ของเขาได้อย่างหนักด้วยการวาดหมัดเพียงครั้งเดียว แต่ฮวงเฟิงไม่ได้มีเจตนาที่จะเหวี่ยงหมัดนั้น แน่นอนว่าเขาไม่ได้มีเจตนาที่จะฆ่าคู่ต่อสู้ของเขาเช่นกัน เขาติดอยู่ด้านหลังของเจ้าหน้าบากจากนั้นมือขวาของเขาก็จับแขนของเจ้าหน้าบากเอาไว้และเริ่มถ่ายเทศาสตร์ดาวเคลื่อนดาราคล้อยในร่างกายของเขา!

นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ฮวงเฟิงมาที่สถานที่แห่งนี้ ต้องรู้ว่าคนๆ นี้เป็นยอดฝีมืออันดับสองระดับสูงสุด กำลังภายในของเขาจึงแข็งแกร่งกว่าฮวงเฟิงไม่น้อย ดังนั้นฮวงเฟิงจึงจ้องมองคู่ต่อสู้ของเขาคนนี้มานานแล้ว

อย่างไรก็ตามแม้ว่าศาสตร์ดาวเคลื่อนดาราคล้อยจะลึกลับ แต่ก็อันตรายมากที่จะดูดซับพลังจากคนที่แข็งแกร่งกว่าเขา ดังนั้น ฮวงเฟิงจึงทำได้แค่เพียงต้องอดทนและเริ่มดูดซับลมปราณของเจ้าหน้าบากหลังจากที่มันได้รับบาดเจ็บแล้ว