ตอนที่ 564

USB:บทที่ 564 ยั่วยุ

"นี่รถของนายเหรอ? มันดูดีกว่าในรูปมาก ซื้อมาเมื่อไหร่? เอาเงินทั้งหมดนี้มาจากไหน?"

ที่ชั้นล่าง หลังจากเซี่ยเมิ่งเจียวเดินไปรอบ ๆ รถและสังเกตมันอย่างละเอียด เธอก็ถามฮวงเฟิงอย่างอยากรู้อยากเห็น

เห็นได้ชัดว่าเซี่ยเมิ่งเจียวรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างฮวงเฟิงและหลี่ปิงอวิ้น ยิ่งไปกว่านั้นเธอรู้เรื่องนี้มากกว่าซูหยูโม่ และซูหยูโม่ก็ยังบอกเรื่องนี้กับเธอเป็นคนแรกตอนที่เห็นรูปถ่ายเธอรู้ได้ว่าชายในภาพนั้นคือฮวงเฟิง นอกจากนี้เธอยังอิจฉาฮวงเฟิงเป็นอย่างมาก ดังนั้นเธอจึงจำเขาได้อย่างฝังใจ

นอกจากนี้เซี่ยเมิ่งเจียวยังคงสงสัยอยู่ในใจตงิด ๆ คนอื่น ๆ อาจจะไม่รู้จักฮวงเฟิง และเธอก็เข้าใจว่าเขาเป็นเพียงพนักงานรักษาความปลอดภัยที่เพิ่งลาออกจากบริษัทของเธอ ถ้าเขารวยขนาดนี้แล้วทำไมยังมาเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยอีก?

เมื่อซูหยูโม่ยืนยันว่าบุคคลในภาพคือฮวงเฟิง เซี่ยเมิ่งเจียวจึงแน่ใจว่าเขาจะต้องเป็นทายาทตระกูลร่ำรวยถึงจะสามารถขับรถดี ๆ เช่นนี้ได้ และตั้งใจมาสมัครเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยในบริษัทของพวกเขาเพื่อเข้าใกล้พี่สาวหยูโม่ และในที่สุดเขาก็ทำได้สำเร็จจริง ๆ

การวิเคราะห์ของเซี่ยเมิ่งเจียวทำให้ซูหยูโม่คิดว่ามันเป็นเรื่องตลก เธอเคยไปบ้านพักของฮวงเฟิงมาก่อนและแน่นอนว่ามันไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับทายาทผู้ร่ำรวยเลย แต่ซูหยูโม่ก็ยังสงสัยเช่นกัน เมื่อนึกถึงก่อนหน้านี้ ฮวงเฟิงเคยบอกเธอเมื่อตอนคุยกันว่าเขาได้ย้ายออกจากที่นั่นแล้วและพบบ้านพักที่ดีกว่า ซูหยูโม่จึงยิ่งสงสัยใคร่รู้มากขึ้น

แม้ว่าซูหยูโม่จะอยากรู้เกี่ยวกับตัวตนของฮวงเฟิงมาก แต่เธอเก็บข้อสงสัยไว้เป็นความลับ เธอไม่ได้ต้องการที่จะขุดคุ้ยเรื่องของฮวงเฟิง เธอเชื่อว่าในอนาคตฮวงเฟิงจะอธิบายให้เธอฟังอย่างชัดเจน เช่นเดียวกับที่เขาบอกเรื่องหลี่ปิงอวิ๋นกับเธอ

"นี่เป็นรถของฉันเอง ไม่เลวเลยใช่ไหม ระวังหน่อย เธออย่าขูดรถฉันเป็นรอยนะเดี๋ยวจะขายไม่ออก" ฮวงเฟิงพูดติดตลกกับเซี่ยเมิ่งเจียวที่อยากรู้อยากเห็นขณะที่เขาหยิบวัตถุดิบต่างๆจากรถของซูหยูโม่

“รถเส็งเคร็งของนายยอดเยี่ยมแค่ไหนกัน? ไม่ว่ารถจะดีมากขนาดไหนป้าคนนี้ก็เคยเห็นมาก่อนย่ะ!” เซี่ยเมิ่งเจียวเอ่ยอย่างดูถูกเหยียดหยาม จากนั้นก็เตะรถของหวงเฟิงอย่างไร้ความปรานีแล้วมองไปที่ฮวงเฟิงอย่างยั่วโมโหเพื่อบอกว่าเขาจะทำอะไรเธอได้

แน่นอนว่าฮวงเฟิงไม่ได้ทำอะไรกับเธอเพราะเธอแค่ล้อเล่น แต่สำหรับสิ่งที่เซี่ยเมิ่งเจียวพูดว่าเธอเคยเห็นรถที่ดีกว่านี้มาก่อน รถพวกนั้นมีความเร็วถึง 2,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเหรอ? สามารถบินบนท้องฟ้าได้เหรอ? มีระบบอัจฉริยะแบบรถคันนี้เหรอ? เห็นได้ชัดว่าไม่มีสิ่งเหล่านี้ แต่ฮวงเฟิงไม่สามารถพูดอะไรออกมาดัง ๆ ได้ จึงทำได้แค่มองเซี่ยเมิ่งเจียวกำลังพอใจกับการกระทำของตนเอง

พวกเขาขึ้นไปชั้นบน ฮวงเฟิงนั้นไม่ถือเป็นคนแปลกหน้าสำหรับพวกเธอแล้ว เขาเคยมาที่นี่และได้พบเจอกันอย่างสุดแสนพิเศษในห้องน้ำ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ฮวงเฟิงจึงมองไปที่ห้องน้ำ เมื่อซูหยูโม่สังเกตเห็นการกระทำของฮวงเฟิง ใบหน้าของเธอแดงขึ้นทันที เห็นได้ชัดว่าเธอรู้แล้วว่าฮวงเฟิงกำลังคิดอะไรอยู่

“ฮวงเฟิง มาแล้วเหรอ?”

ถังมู่เสวี่ยสวมชุดหลวม ๆ เดินเข้าไปทักทายฮวงเฟิง แม้ว่าเธอจะสวมชุดธรรมดา แต่ก็ยังไม่สามารถปกปิดออร่าอันเย้ายวนที่อยู่บนร่างกายของถังมู่เสวี่ยได้แม้ว่าเธอจะไม่ได้ตั้งใจแสดงอะไรก็ตาม ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาตินี้ยังคงสัมผัสได้อย่างชัดเจน

พูดตามตรง ในแง่ของรูปลักษณ์ซูหยูโม่กับเซี่ยเมิ่งเจียวไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอ แต่ในแง่ของการแสดงเสน่ห์ ถังมู่เสวี่ยเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด ก่อนหน้านี้เธอสามารถจัดการกับผู้ชายจำนวนมากในเวลาเดียวกันได้ เธอรู้โดยธรรมชาติว่าผู้ชายชอบและชอบมองตรงไหน

อย่างน้อย ฮวงเฟิงต้องยอมรับว่าทุกครั้งที่เขาเห็นถังมู่เสวี่ย เขาจะตกตะลึงเล็กน้อย แม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้พบถังมู่เสวี่ยแต่เขาก็ยังเป็นแบบนี้

"ใช่ วันนี้เธอโชคดีมาก" ฮวงเฟิงบอกด้วยการยกวัตถุดิบในมือของเขา

"นายทำอาหารได้? ช่างเป็นผู้ชายที่ดี" เธอเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มทรงเสน่ห์บนใบหน้า ก่อนหน้านี้ซูหยูโม่ได้โทรหาเธอและบอกว่าเขาจะมาในวันนี้ และเธอก็พร้อมที่จะแสดงทักษะช่วยเขาทำอาหาร แต่ถังมู่เสวี่ยไม่เชื่อว่าเขาจะทำได้ เธอจะตัวสบาย ๆ รอให้เขาเรียกหาเธอ แล้วเธอก็จะไปช่วย

แต่จากที่มอง ดูเหมือนฮวงเฟิงจะรู้วิธีทำอาหารจริง ๆ แต่เธอไม่รู้ว่ารสชาติจะเป็นอย่างไร

"เดี๋ยวเธอก็รู้" ฮวงเฟิงกล่าว ดูเหมือนไม่มีใครเต็มใจที่จะเชื่อว่าเขาสามารถทำอาหารได้ นอกจากหยูโม่ที่เคยลิ้มรสอาหารฝีมือของเขาแล้วทุกคนดูเหมือนจะไม่เชื่อ

ฮวงเฟิงเข้าครัวเตรียมพิสูจน์ตัวเองอย่างเต็มที่ในวันนี้ขณะที่ซูหยูโม่และเซี่ยเมิ่งเจียวต่างกลับไปที่ห้องนอนของตนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อเห็นว่าไม่มีปัญหาอะไร ถังมู่เสวี่ยก็เดินตามเข้าไปด้วย อยากดูว่าฮวงเฟิงจะทำอาหารได้เก่งมากหรือแค่คุยโม้

"ถ้านายทำไม่ได้ก็บอกล่วงหน้าได้เลย เราสั่งอาหารมาส่งที่บ้านได้นะ" ถังมู่เสวี่ยกล่าวขณะมองไปฮวงเฟิงที่กำลังวุ่นวาย

แม้ว่าทั้งสามสาวจะเป็นคนสวย แต่ศิลปะการทำอาหารของพวกเธอกลับไม่ได้ดีมาก แม้อาหารที่พวกเธอปรุงจะสามารถทานได้ แต่คำว่า "อร่อย" นั้นไม่ได้เป็นไปในทางเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด และการที่ฮวงเฟิงมาในวันนี้ เห็นได้ชัดว่า สาว ๆ ไม่อยากเสียหน้า ดังนั้นหากฮวงเฟิงทำอาหารไม่ได้จริง ๆ พวกเธอก็จะสั่งอาหารมาเพราะจะไม่ทำอาหารเองเช่นกัน

"เป็นผู้ชายจะบอกว่าทำไม่ได้ได้อย่างไร? ไม่ต้องกังวลน่า" ฮวงเฟิงไม่ทันนึกถึงระดับความสนิทสนมกับถังมู่เสวี่ยจึงพูดด้วยคำไม่เป็นทางการออกไป แต่หลังจากที่พูดเสร็จ เขาก็รู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะสมนัก นอกจากนี้ถังมู่เสวี่ยยังเป็นเพื่อนสนิทและสนิทกับซูหยูโม่ ดังนั้นการพูดกับเธอแบบนี้จึงเหมือนมีเจตนายั่วยวนเธอ

"เฮ้ นายเป็น‘ผู้ชาย’ แล้วเหรอ ฉันคิดว่านายยังเป็นเด็กผู้ชายซะอีก" ในทางกลับกันถังมู่เสวี่ยไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ ผู้ชายที่เธอเคยมีปฏิสัมพันธ์ด้วยก่อนหน้านี้ยังพูดเปิดเผยมากกว่าฮวงเฟิง ดังนั้นเธอจึงมีภูมิต้านทานต่อพวกเขาอยู่แล้ว

“ใครบอกว่าฉันไม่ใช่ผู้ชาย? ทำไมเธอไม่ลองดูล่ะ?" เมื่อได้ยินคำพูดของถังมู่เสวี่ย ฮวงเฟิงก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย ใครจะอยากได้ยินคนอื่นบอกว่าพวกเขาไม่ใช่ผู้ชายกัน? ยิ่งกว่านั้น คนที่พูดยังเป็นคนสวยคนหนึ่ง ไม่มีผู้ชายคนไหนที่สามารถทนได้หรอก ดังนั้นฮวงเฟิงจึงลืมสถานะของถังมู่เสวี่ยและพูดยั่วยุเธอ