ตอนที่ 695

USB:บทที่ 695 ภารกิจ (4)

ฮวงเฟิงหยุดพบแต่เพียงเท่านั้น เขาจัดแจงสวมชุดและจัดเก็บอาวุธของตัวเอง

"ลุย!" เมื่อเห็นว่าฮวงเฟิงสวมชุดเรียบร้อยแล้ว อานเจี้ยก็สั่งขึ้นพร้อมกับชูมือขวาเป็นสัญญาณ แล้วทุกคนก็รีบรุดเข้าไปในป่า นี่เป็นครั้งแรกที่ฮวงเฟิงได้เข้าร่วมปฏิบัติการกับสมาชิกคนอื่น ๆ ในองค์ เขาคอยสังเกตการเคลื่อนไหวของคนรอบ ๆ ข้างอย่างมีสติ แล้วก็พบว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนมีความเชี่ยวชาญกับรูปแบบการปฏิบัติการเช่นนี้  เนื่องจากนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนพวกนี้ได้ร่วมปฏิบัติร่วมกันดังนั้นเมื่อพวกเขาจึงมีการแบ่งหน้าที่อย่างชัดเจน และทุกคนต่างเฝ้าระวังตำแหน่งของตัวเองอย่างเคร่งครัด เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีจุดบอด

"ในฐานะผู้เชี่ยวชาญขององค์กรรักษาความมั่นคงแห่งชาติ ไม่มีใครอ่อนด้อยเลย" ฮวงเฟิงแอบรู้สึกเสียดายอยู่ในใจ กลุ่มอันธพาลที่เขาเคยพบก่อนหน้านี้ไม่อาจสามารถก้าวมาถึงจุดนี้ได้ เขาสามารถรับประกันเลยว่าหนึ่งในพวกเขาสามารถเอาชนะสิบคนนี้ได้ อย่างไรก็ตามฮวงเฟิงยังไม่กล้าที่วางชีวิตน้อย ๆ ของเขาเอาไว้บนบ่าคนอื่น ดังนั้นเมื่อเขาเข้าประจำตำแหน่งของตัวเองซึ่งเขาก็เป็นคนสุดท้าย จากนั้นฮวงเฟิงก็แอบเรียกปล่อยเหยี่ยวออกมาจากวิลล่าที่อยู่อีกมิติออกมา เพื่อให้มันบินเข้าไปสำรวจในป่าโดยที่ไม่มีใครทันสังเกตเห็นมัน

"ฮวงเฟิง เร็วหน่อย" ไป๋เสี่ยวโหรวซึ่งอยู่ข้างหน้าสังเกตเห็นว่าฮวงเฟิงอยู่ข้างหลัง เธอจึงตั้งใจชะลอฝีเท้าเพื่อรอเขา ภายใต้สถานการณ์แบบนี้คนแรกและคนสุดท้ายจะถูกโจมตีใด้ง่ายที่สุด ดังนั้นไป๋เสี่ยวโหรวจึงนึกเป็นห่วงความปลอดภัยของฮวงเฟิง

"มาแล้ว!" ฮวงเฟิงตอบพร้อมกับแร่งฝีเท้าของเขาให้เร็วขึ้น

หลังจากที่เดินกันมาได้ระยะหนึ่ง ทุกคนก็ผ่านเข้าไปในป่า อานเจี้ยส่งสัญญาณให้ทุกคนหยุด จากนั้นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาทุกคนก็ยืนล้อมกันเป็นวงกลมโดยหันที่หันหลังให้กัน เพื่อสังเกตระวังภัยโดยรอบ

"ตอนนี้พวกเราเข้าใกล้มันทุกทีแล้ว ข้างหน้าเต็มไปด้วยอันตราย ทุกคนคอยระวังหลังให้ดี" อานเจี้ยกล่าว

เมื่อได้ยินดังนั้นทุกคนพยักหน้า หลังจากนั้นทุกคนก็เปลี่ยนเป็นเดินอย่างช้า ๆ แทนการวิ่ง และทุกย่างก้าวที่พวกเขาเดินก็จะคอยระวังสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ตัวพวกเขา ฮวงเฟิงก็เช่นเดียวกัน เขากระชับปืนกลในมือขึ้น กวาดสายตาไปรอบ ๆ ต้นไม้บริเวนนั้น ตรงนั้นเป็นป่ารกทึบถ้าหากศัตรูโพล่ขึ้นมากยากที่จะมองเห็นได้

"พวกมันสามารถเห็นพวกเราได้ง่าย เนื่องจากพวกมันอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่า" ฮวงเฟิงคิดในใจ "นั่นสิ อยู่เหนือขึ้นไป!"

จิตใต้สำนึกสั่งให้เขาแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า  เขาพบต้นไม้ใหญ่ใบหนาปกคลุมอยู่เหนือพวกเขา ในตอนนี้แม้แต่ดวงอาทิตย์เขาก็ยังไม่อาจมองเห็นได้  ทันใดนั้นเองจู่ ๆ ฮวงเฟิงรู้สึกเหมือนแห่งแสงบางอย่างที่ส่องลงมาจากต้นไม้ ลางสังหรณ์บอกกับเขาว่าที่นั่นมีอันตราย

"หลบ!" ฮวงเฟิงตะโกนขึ้นทันที แม้ว่าผู้คนรอบข้างจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทุกคนก็ถูกฝึกมาให้คอยระแวดระวังเป็นอย่างดี และเมื่อได้ยินเสียงตะโกนของฮวงเฟิง ทุกคนก็หมอบลงกับพื้นทันที

"ปัง ปัง ปัง!" ช่วงวินาทีที่พวกเข้ามอบลงกับพื้นนั้น ห่ากระสุนก็สาดลงมาจากต้นไม้ตรงไปที่ตำแหน่งที่พวกเขายืนอยู่ เสียงปืนดังก้องขึ้นในแก้วหูพวกเขาทันที

"หนึ่งนาฬิกา มันอยู่บนต้นไม้!" สมาชิกขององค์กรคนหนึ่งซึ่งนอนหมอบอยู่ข้าง ๆ ฮวงเฟิงพูดขึ้นฝ่าเสียงปืนที่รัวสนั่น

"จัดการมัน!" อานเจี้ยสั่ง

"รับทราบ!" และก็เป็นชายคนเดิมที่ขานรับคำสั่งจากหัวหน้าอาน

ทันใดนั้นฮวงเฟิงเห็นว่าผู้ชายคนนั้นไม่ได้ลุกขึ้นยืนแต่เขากลับหยิบกล่องบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเป้ด้านหลัง  แล้วชิ้นส่วนพวกนั้นก็ถูกประกอบขึ้นมาด้วยความชำนาญด้วยเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีปืนไรเฟิลก็ถูกประกอบเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งเป็นขณะเดียวกันที่ใครคนหนึ่งซึ่งซุ่มอยู่บนต้นไม้ได้ยิงปืนมาอีกสองนัดตรงมาที่ฮวงเฟิงและคนที่เหลือ แต่ทว่ากระสุนพลาดเป้าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ  ระหว่างต้นไม้กับพื้นดินมีสิ่งต่าง ๆ มากมายที่สามารถใช้เป็นเครื่องกำบังที่ดีได้ อีกอย่างหลังจากที่ฮวงเฟิงและคนอื่น ๆ หมอบลงกับพื้นพวกเขาก็เคลื่อนย้ายหาที่กำบังตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตามในเมื่อพวกเขาไม่ได้รับอันตรายใด ๆ  ศัตรูที่ซุ่มอยู่บนต้นไม้ก็จะถูกปราบปรามชนิดที่ไม่สามารถลุกขึ้นมากราดยิงพวกเขาได้อีก ในขณะนั้นชายที่อยู่ข้าง ๆ ฮวงเฟิงได้หาที่เหมาะเขายกปืนขึ้นประทับบ่าแล้วพูดขึ้น

"เล็งไปที่เป้าหมายแล้ว รอคำสั่งครับ!"

"ฆ่ามัน!" อานเจี้ยตะโกนขึ้น

"ปัง!"

คำตอบที่ตอบกลับมานั้นเป็นเสียงปืนหนึ่งนัด จากการมองลอดผ่านที่กำบังฮวงเฟิงเห็นรางชายคนหนึ่งที่ร่วงลงจากต้นไม้กระทบกับพื้นดินหลังจากที่เสียงปืนหนึ่งนัดถูกยิงออกไป

"เป้าหมายถูกกำจัดเรียบร้อยแล้วครับ" ชายคนที่อยู่ข้างฮวงเฟิงรายงาน

ฮวงเฟิงยกนิ้วให้ชายคนนั้นด้วยความรู้สึกชื่นชม เห็นได้ชัดว่าทักษะการแม่นปืนของเขานั่นยอดเยี่ยมมาก ศัตรูได้หลบซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้อีกทั้งยังมีสิ่งกีดขวางมากมาย  แต่เพียงแค่นัดเดียวผู้ชายคนนี้ก็สามารถสอยศัตรูร่วงลงมาได้ แม้ว่าฮวงเฟิงจะรู้จักวิธีการยิงปืน แต่เขาไม่กล้าพูดได้เลยว่าเขาสามารถทำได้ดีเช่นเดียวกับผู้ชายคนนี้ เขายังอยู่ห่างใกลกับคำว่ามืออาชีพอยู่มาก และแน่นอนว่าผู้ชายที่อยู่ข้าง ๆ เขาคนนี้คือนักแม่นปืน

เมื่อผู้ชายคนนั้นยกนิ้วแสดงความชื่นชมให้กับเขา เขาก็ยิ้มอย่างอาย ๆ แล้วพูดกับฮวงเฟิงว่า "นายเองก็เก่งไม่เบา"

เขาพูดออกมาจากใจจริงไม่ใช่การประจบประแจงแต่อย่างใด เนื่องจากจุดที่พวกเขาถูกซุ่มยิงนั้นเต็มไปด้วยต้นไม้และใบไม้ที่รกทึบทำให้พวกเขาไม่ทันสังเกตเห็นมือปืนที่ซุ่มอยู่บนต้นไม้ แต่ฮวงเฟิงกลับสังเกตเห็นมันได้ก่อนใคร นั่นเป็นเพราะว่าฮวงเฟิงก็เป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่ง

"ไม่เลวเลย สมาชิกใหม่ของทีมคุณนี่ร้ายกาจจริง ๆ" อานเจี้ยพูดกับไป๋เสี่ยวโหรว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รู้สึกประทับใจกับความสามารถของฮวงเฟิงเหมือนอย่างที่สมาชิกในทีมเขารู้สึก แต่การที่ฮวงเฟิงสามารถปกป้องทีมของเขาไว้ได้ นั่นก็แสดงให้เห็นว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนไร้ประโยชน์

แน่นอน อีกยังแสดงให้เห็นว่าการที่หัวหน้าองค์กรดึงเข้าให้เข้าร่วมองค์กรนั้นก็ไม่ใช่ความคิดที่เหลวไหล เมื่อได้ยินคำชมของอีกฝ่าย ไป๋เสี่ยวโหรวก็หัวเราะขึ้นหากแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา แล้วเธอก็หันมามองฮวงเฟิงอย่างพอใจกับผลงานของเขา

"ตอนนี้ศัตรูรู้ว่าพวกเรามาถึงแล้ว ทุกคนต้องระวังตัวให้มากขึ้น" อานเจี้ยบอกกับทุกคน

ทุกคนพยักหน้าแสดงออกถึงความเด็ดเดี่ยว แน่นอนว่าตอนนี้ทุกคนต่างระวังตัวกันมากขึ้น แน่นอนว่าสองสิ่งระหว่างผู้โจมตีกับผู้ป้องกันการโจมตีนั้นแตกต่างกัน อีกอย่างศัตรูได้เตรียมการเป็นอย่างดี การที่พวกเขาจะสังหารศัตรูนั้นเป็นเรื่องยาก แต่ที่เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้มันยากกว่าที่พวกเขาได้คาดการณ์ไว้  แน่นอนว่าพอพวกเขาถูกโจมตีครั้งหนึ่งแล้ว ไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็ถูกโจมตีอีกครั้งแต่ครั้งนี้ไม่ได้มาจากการซุ่มโจมตีบนต้นไม้เหมือนอย่างครั้งที่แล้ว หากแต่เป็นการโจมตีมาจากทางด้านหน้าของพวกเขา  ศัตรูไม่คิดที่จะหลบหนีแต่กลับพุ่งเป้ามาที่ฮวงเฟิงและสมาชิกองค์ก

ในเวลานี้ทั้งฮวงเฟิงและคนอื่น ๆ ก็ไม่คิดจะปรานีฝ่ายตรงข้ามอีกต่อไป ทุกคนโต้กลับด้วยอาวุธในมือทันที อย่างไรก็ตามเนื่องจากตำแหน่งของทั้งสองฝ่ายนั้นค่อนข้างไกลกัน อีกทั้งฝ่ายตรงข้ามก็มีเครื่องกำบังเช่นกัน แม้ว่าการปะทะกันในครั้งนั้นจะค่อนข้างดุเดือดแต่ก็ไม่ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายแต่อย่างใด